เกิดเรื่องราวที่น่ายินดีแก่วงการบันเทิงไทยอีกแล้วนะคะ หลังจากกระทรวงวัฒนธรรมได้ออกมาประกาศรายชื่อภาพยนตร์ที่ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นมรดกของชาติ
งานนี้กระแสที่มาแรงคงหนีไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง อาปัติ เพราะก่อนหน้านั้นมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับภาพยนตร์นี้มากมาย จนถูกสั่งแบนห้ามฉายมาแล้ว งานนี้แอดมินจามเลยอยากจะนำเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง อาปัติ มาให้ทุกคนได้ทราบกัน
ดังนั้น เราจะมาเปิดเผยเรื่องราวใน “เผยเรื่องลับของหนังเรื่อง อาปัติ หลังได้ขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 15 มรดกภาพยนตร์ของชาติ” จะมีเรื่องราวไหนบ้างที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
อันดับ 1 ประกาศห้ามฉาย
แต่เดิมหนังเรื่องนี้มีชื่อว่า อาบัติ ถูกพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ว่าไม่เข้าฉายเนื่องจากมีภาพที่รุนแรงและไม่เหมาะสม เชิงดูหมิ่นศาสนาพุทธ งานนี้ทำให้สหมงคลฟิล์มได้ทำการแก้ไขเปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่เป็น อาปัติ ปรับปรุงแก้ไขบางฉากออกไป จนถูกพิจารณาให้ฉายได้
อันดับ 2 การเข้าชิงรางวัล
หนังเรื่อง อาปัติ ได้เข้าชิงรางวัลในไทยหลายหลายรางวัลมากถึง 21 รางวัลเลยทีเดียว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ กลับได้รางวัลมาแค่ 1 รางวัลเท่านั้น โดยมากับรางวัล Starpics Awards ครั้งที่ 13 สาขารางวัลนักแสดงสมทบชายชายยอดเยี่ยม แก่ ดนัย จารุจินดา
อันดับ 3 ดังไกลระดับโลก
หนังเรื่อง อาปัติ นั้นได้รับการคัดเลือกในฐานะภาพยนตร์ของประเทศไทยให้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film) ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 89 (89th Academy Awards) แต่สุดท้ายไม่ผ่านการคัดเลือก
อันดับ 4 ที่มาของหนัง
ผู้กำกับได้เปิดเผยที่มาของหนังว่า มีคนหนึ่งที่ในวัยเด็กเคยบวชสามเณรแล้วเห็นผู้หญิงห้อยขานั่งอยู่บนต้นไม้ สวยมากไม่ใส่เสื้อผ้าเลย ร่างสวยมาก ทุกอย่างสวย เป็นหญิงไทยแต่ไม่มีหัว เห็นตอนกลางวัน คนเฒ่าคนแก่บอกว่า คือ ‘ผีเผต’ ผีประเภทนี้คือ ผู้หญิงตอนก่อนตายไปมีอะไรกับพระ ตายไปเลยเป็นแบบนี้ งานนี้เลยถูกนำมาเป็นไอเดียพัฒนาเป็นโครงเรื่องของหนังนั่นเอง
อันดับ 5 ขึ้นทะเบียนมรดก
และล่าสุดนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศขึ้นทะเบียนภาพยนตร์ 15 เรื่อง ให้เป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ โดยหนึ่งในนั้นก็เรื่อง อาปัติ นั่นเอง งานนี้สร้างความฮือฮาได้มากเลยทีเดียว เพราะจากหนังที่โดนแบนกลายมาเป็นมรดกของชาติแล้วค่ะ
ขอขอบคุณรูปและข้อมูลจาก Facebook หอภาพยนตร์ Thai Film Archive สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล Sahamongkolfilm International
ขอขอบคุณรูปจาก IG charliepotjes