หากย้อนเวลากลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว นักร้องหนุ่ม พี สะเดิด เจ้าของผลงานเพลง สาวกระโปรงเหี่ยน ฮอตหนักมาก แฟนๆ สามารถร้องเพลงตามกันได้หมด แต่ตอนนี้เจ้าตัวกลายเป็นศิลปินอิสระเรียบร้อยแล้วหลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับค่ายเดิมที่อยู่มานานกว่า 18 ปี แถมก่อนหน้านี้เจ้าตัวหอบหลักฐานร้อง ปอท.เพราะมีคนอ้างว่าหาเงินทำบุญแต่เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง
ล่าสุดไปแจ้งความ ปอท. ที่มีคนโพสต์ประมาณว่าสร้างโครงการเพื่อนำเงินไปสร้างวัดไผ่ แล้วนำเงินไปบำรุงศาสนาพุทธในต่างแดน แต่ความจริงคือใช้ชื่อโครงการบังหน้าหารายได้ให้ตัวเอง โดยเรียกเงินจากวัด เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?
พี สะเดิด : จริงๆ ผมทำกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องบุญมาด้วยความศรัทธา เพราะว่าชีวิตตัวเองดีขึ้นด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา แล้วครูบาอาจารย์ก็ฝากเอาไว้ อยากให้ทำ เพราะว่าในยุโรป ศาสนาเราจะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต อาจารย์ฝากไว้ 7 ปี ซึ่งผมทำมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ทำในเอเชีย ผมก็ทำ ทำในเกาหลี หรือออสเตรียเลีย ก่อนที่จะไปยุโรป เสร็จแล้วพอจบโครงการ 7 ปี ก็มีอันนี้โพสต์ขึ้นมาในคอมเมนต์เพลงใหม่ของผม ซึ่งเขาก็ด่าๆ ผมก็ตั้งสติดู อ่าน ก็ไปแจ้งความไว้ เพราะว่ามันรุนแรง เพราะเราก็อยากปกป้องคนทำงาน โครงการเป็นของเรา ผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นดารา หรือหน่วยงานต่างๆ สายการบิน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงต่างๆ ที่ร่วมด้วย เขาจะเสื่อมเสียไปด้วย
ในเนื้อหาคอมเมนต์รุนแรงขนาดไหน เขากล่าวหาเราว่าโกงเงินบริจาคหรอ?
พี สะเดิด : บอกว่าผมโกง ทำกิจกรรมโครงการถ่ายทอดศาสนา สืบสานวัฒนธรรมไปโกงเงินวัดมา จะโกงได้ไง เพราะเราไปผมแทบจะควักเนื้อด้วยซ้ำ เพราะว่าทีมงานมากมาย แล้วก็การทำกิจกรรมทุกครั้งล้วนแล้วแต่มีผู้ใหญ่อยู่ มีลายเซ็นผู้ใหญ่ มีหนังสือถูกต้องหมดทุกอย่าง ผมทำด้วยความศรัทธาจริงๆ
แล้วคิดว่าต้นเหตุมาจากไหน?
พี สะเดิด : เรื่องการนินทามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เราก็พยายามนิ่ง จนอาจารย์บอกว่าให้อดทนนะ การทำกิจกรรมครั้งนี้มันจะมีแรงเสียดทานเยอะ แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะมีคนกล้ามาคอมเมนต์
พอไปแจ้งความมีโอกาสได้ติดต่อคนนี้ไหม หรือคนนี้ติดต่อกลับมาหาเราไหม?
พี สะเดิด : หลังจากที่ผมแจ้งความ 1 วัน คนคนนั้นเขาก็ออกมาขอโทษ เพราะว่ามีผู้หลัก ผู้ใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศให้ข้อมูลจริงสำหรับเขา แล้วก็รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เราแทบจะไม่เคยทำอะไรที่เสื่อมเสีย
แล้วเขาเอาข้อมูลอันเป็นเท็จมาจากไหน?
พี สะเดิด : มาจากบุคคลกลุ่มหนึ่งในต่างแดนที่ไม่ประสงค์ดีกับเรา จริงๆ ผมได้ข้อความเหล่านี้มาจากพี่ๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ว่าเขาพูดถึงเราในทางที่ไม่ดี แต่ผมก็ฟังหูไว้หู แล้วก็อดทน ขอให้มันผ่านไป นิ่งไว้ก่อน คือแจ้งความมีประเด็นก็เลยตั้งใจไปเพื่อที่จะปกป้องเพื่อนๆ พี่น้องที่ไปร่วมบุญกับเรา
\r\n
แล้วนอกจากที่เขาออกมาขอโทษ เขาได้รับผิดชอบในเรื่องอะไรอีกไหม?
พี สะเดิด : ถือว่าเป็นการรับผิดชอบที่เขาสำนึกได้ เขาก็สารภาพว่าเขาฟังมา แล้วเขาก็เชื่อเลย แล้วก็บุคคลคนนี้ก็เป็นที่นับหน้าถือตาของคนที่อยู่ต่างประเทศด้วย เป็นคนดีด้วย แล้วฟังมา ตีความไปเลยว่าเราไม่ดี พอถูกแก้ไขแล้ว เขาก็ขอโทษเราด้วยสัจจริง ก็ถือว่าจบด้วยดี เพราะว่าผมไม่มีเจตนาที่จะไปทำร้ายใคร แต่เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมันก็ต้องแก้ไขเป็นจุดๆ ไป
เข็ดไหมกับการทำบุญ?
พี สะเดิด : ไม่เข็ดครับ ผมก็ยังทำ ผมเพิ่งกลับมาจากยุโรป และฝรั่งเศส เทื่อ 5-6 วันที่แล้ว หลังจากไปแจ้งความมามันก็ต้องดำเนินต่อ มันเหมือนเราตั้งปณิธานว่าเราศรัทธาตรงนี้ ครูบาอาจารย์ช่วยเรา ทำให้มีสติ ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับผมอันแรกก็คือทำให้ผมมีสติ แล้วเราก็ได้ปัญญาจากการได้สัมผัสศาสนา นอกจากทำให้ตัวเองดีแล้วก็อยากตอบแทนแผ่นดิน ผู้คน
ในช่วงหนึ่งชีวิตพี่พีมีชื่อเสียงมาก แล้วอยู่ในช่วงที่ตกตำลงไปช่วงหนึ่ง เกิดอะไรขึ้น?
พี สะเดิด : เป็นช่วงที่เจอวิฤกติของชีวิต เหมือนวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องเจอ บางคนอาจจะเจอหลายช่วง บางคนเจอช่วงเดียวแล้วเข็ดเลย อยากจะเปลี่ยนชีวิตตัวเอง มันก็เป็นเหตุการณ์ในวัยรุ่นแต่นั้นเอง ตอนนั้นเคยเป็นนักร้องมาแล้ว แล้วเจอวิกฤติช่วงหนึ่ง เพราะว่าเที่ยวตามประสาวัยรุ่น เสร็จแล้วได้ไปเจอเพื่อนอยู่ในร้านเหล้า คุยกันเรื่องวัด แล้วก็ชวนกันไปวัด แล้วก็ได้ไปเจอครูบาอาจารย์ เขาก็ทักโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ว่าเป็นแบบนี้ๆ ไปปฏิบัติศีล 5 ดู เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ลองปฏิบัติดู 3 เดือน เห็นผลแน่นอน ถ้าไม่เห็นผล ชีวิตไม่ดีขึ้น ไม่ต้องกลับมาที่วัด ท่านก็ออกแนวผู้ชายๆ นักเลงหน่อย เราก็ทำได้หักดิบเลย เชื่อไหมช่วงนั้นออกอัลบั้ม2 ของแกรมมี่ เพลงมันดังขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันเราก็ประพฤติตัวใหม่ด้วย แล้วก็ทำงานอย่างที่ควรจะทำ ก็คือไปโปรโมทเพลง ขยันเต็มที่เลย
แล้วเรื่องสาวๆ มีไหม?
พี สะเดิด : มีความอยาก ทุกอย่างมันเป็นความอยากหมด มันเป็นกิเลส มันก็มีเข้ามาในรูปแบบต่างๆ ของแฟนเพลงมีอยู่แล้ว มาในรูปแบบมาขอเรา มาจีบเราจะยกที่ ยกทางให้ ยกปั๊มน้ำมันให้ก็มี แต่ผมก็ปฏิเสธมันไม่ดีหรอก ก็พยายามอดทนที่จะก้าวผ่านไปให้ได้
ตอนนั้นพี่พีเคยป่วยเป็น?
พี สะเดิด : ตอนนั้นมีก้อนเนื้อเกิดขึ้นที่นม 2 ข้าง ตอนแรกก็ไม่ได้ใส่ใจผมก็ไปทัวร์คอนเสิร์ต เมื่อก่อนใส่เสื้อยืดสีขาวตัวเดียว แล้วพอเหงื่อออกเยอะรู้สึกมันใหญ่ขึ้นมา ก็ไปหาหมอเช็กเลือดก็มีค่ามะเร็งเต้านม ไปตรวจ 3 ครั้งก็มีค่ามะเร็งขึ้น หมอเตรียมจะผ่า แต่ก็ไม่ได้ผ่า ก็ไปปรึกษาอาจารย์ที่เคยทักผมตอนนั้น มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ก็โทรไปถามท่านเป็นอะไรไหม ผมมีก้อนเนื้อ มีเชื้อมะเร็ง เขาบอกไม่เป็นไรหรอก ลองภาวนาดู แล้วก็ลองกินผัก มันไม่เป็นไรหรอก ระยะเวลาก็ 5-6 เดือนเหมือนกัน เวลาไปทัวร์คอนเสิร์ตต้องใช้เทปปิดเพื่อไม่ให้มันนูนขึ้นมา ก็ทำอย่างท่านบอกมันก็ดีขึ้น กลับไปตรวจก็ไม่มีแล้ว
ออกมาเป็นนักร้องอิสระได้นานหรือยัง?
พี สะเดิด : 4-5 เดือน กับค่ายเก่าทำงานมา 18 ปี
น้อยใจค่ายเก่าหรือเปล่าถึงออกมา?
พี สะเดิด : ใจหายมากกว่าที่ออกมา เพราะว่าเราผูกพันธ์ ก็เหมือนเป็นบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ผมอยู่เกือบครึ่งชีวิต พี่ๆ ที่อยู่ที่นี่ผูกพันธ์กัน มันเป็นชีวิต ทุกคนทำงานด้วยความสุขไม่ได้มีความน้อยใจอะไรเลย ผู้ใหญ่ทุกคนยังเมตตา ยังให้งาน ทุกอย่างเหมือนปกติ แค่ไม่มีกระดาษแผ่นนึงเท่านั้นเอง
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจมาเป็นศิลปินอิสระ?
พี สะเดิด : โตแล้วมั้งครับ อยากจะทำอะไรที่ค้างอยู่ในใจมานาน อยากจะเขียนเพลง สิ่งที่ตัวเองอยากคิด อยากเขียน อยากจะเล่นดนตรี อยากจะทำอย่างที่ตัวเองไม่อยากทำ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ พี สะเดิด