หลังจากที่เคยออกมาบอกแล้วว่าอยากจะมีลูกคนที่สาม ก็ทำเอาคนต่างพากันตั้งตารอคอยกันอย่างมากมาย สำหรับแม่ชมพู่ อารยา
ที่ล่าสุดคุณแม่ก็ได้มีการไปงานเปิดตัวผลงานการแสดงเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เร็วๆนี้อย่าง หนังเรื่อง ตุ๊ดซี่ส์แอนด์เดอะเฟค ที่เพียงแค่เปิดตัวด้วยทีเซอร์ออกมาก็ทำเอาคนต่างพากันฮือฮา สร้างการตอบรับได้อย่างล้นหลาม กับการพลิกบทบาทใหม่ของคุณแม่ชมเค้า งานนี้เมื่อเป็นงานเป็นตัวหนังทั้งทีก็เลยขอให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องของลูกคนที่สามหน่อยว่า ตอนนี้น้องสายฟ้าและน้องพายุเป็นอย่างไรบ้าง จะเริ่มเปิดอู่คนที่สามกันเมื่อไหร่กันจ๊ะ
ล่าสุดวันลอยกระทง น้องๆ ร้องเพลงผิดวัน ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์? "ไม่ เขาคิดว่าเหมือนเค้ก แต่ปกติถ้าเอาจานหรือถาดอะไรให้ถือ เขาจะร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์หมด เป็นเค้กในจินตนาการของนาง ลอยกระทงน่ะร้องได้ เหมือนอย่างเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ก็ร้องด้วยกัน ช่วงวันเกิดเขาร้องเยอะ ไป รร. ก็มีวันเกิดเพื่อนตลอด เขาก็ร้องได้ เพลงลอยกระทงฝึกแล้วแต่เขาไม่ร้องค่ะ"
ตอนนี้น้องๆ ไปโรงเรียนเป็นไงบ้าง? "ก็ดีนะคะ รู้สึกว่าเขาก็โตขึ้น มันได้ฝึกทักษะหลายอย่าง เป็นวิถีอีกแบบนึง แต่เราก็ชอบชีวิตแบบนี้นะ ถามว่ามีแอบย่องไปดูเขามั้ย ไม่ย่องค่ะ เพราะที่นี่เขาไม่ให้เข้าไปเลย เกาะรั้วไม่ได้ (หัวเราะ)"
มีเป็นห่วงบ้างหรือเปล่า? "ไม่ค่อยห่วงนะ เพราะเรารู้ว่าตรงนั้นคือยังไงเขาเต็มที่แล้ว"
ปกติแม่ๆ เวลาไปส่งลูกจะใจหาย ของเราไม่มีเลยเหรอ? "ของชมไม่ได้ว่าใจหายว่าห่างอกเรา เพราะเรารู้ว่าเขาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ก็เลยไม่ได้พิรี้พิไรมาก ยิ่งตัดให้ง่าย ก็จะยิ่งง่ายทั้งกับเขาและเรา ถ้าเราไปป้วนเปี้ยนก็กลายเป็นว่าเด็กก็ตัดไม่ได้สักที ของชมก็ไม่มีอะไร แค่ 2-3 วัน เขาก็ปรับตัวได้"
น้องไม่มีงอแงเลย? "เขาก็มีร้องนิดหน่อย เพราะอย่างวันแรกที่ไปเรียน เขาก็อนุญาตให้คุณพ่อคุณแม่เข้าไปส่งได้ถึงในห้อง เขาก็จะเพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจมากกับของเล่น แต่พอเราบอกว่าจะไปแล้วนะ พอเขาเห็นเราจะไปจริงๆ เขาก็มีร้องนิดนึง หลังจากนั้นพอเขาเล่นโน่นนี่นั่น เขาก็เหมือนเดิม มีบ่นๆ อยู่ 2-3 วันแรก หลังจากนั้นเขาก็เข้าใจว่าเขาต้องมาโรงเรียน แล้วโรงเรียนไม่ได้น่ากลัว"
เขาชอบไปโรงเรียน? "คือไม่ได้มีปัญหากับการไปโรงเรียนนะ แต่ถ้าช่วงไหนที่หยุด อย่างตอนช่วงไปอเมริกา หยุดเกือบเดือนนึง กลับมาจะมีบ่นนิดนึงว่าไม่อยากไป เพราะเหมือนกับว่าเขาไปสัมผัสมาแล้วว่าได้เที่ยว ได้เล่น ไม่ต้องไปโรงเรียนเป็นยังไง แต่พอเขากลับไป โรงเรียนมันก็สนุกน่ะ เขายังไม่ได้เน้นเรื่องวิชาการอะไรแบบนี้"
แต่เรื่องความซน เราห่วงน้องๆ เวลาไม่อยู่ในสายตาเรา? "คือยังไงก็ไม่เคยแบบ... คือชมมีแบ็กออฟฟิศที่ดีเนอะ มันต้องไม่มีช่วงที่ละสายตาเราเลย คือถ้าไม่ใช่คนที่ชมไว้ใจ ชมก็ไม่ฝากกับใครเลยทั้งสิ้น (ที่โรงเรียนมีส่งรายงาน?) อ๋อ ก็คือทุกวันที่ไปรับ เขาจะบอกอยู่แล้วว่าวันนี้ลูกเราเป็นยังไง หรือในกรณีเราไม่ได้ไปรับ เขาก็มีอีเมลมาบอกนะว่าวันนี้น้องเป็นยังไง ทานข้าวดีมั้ย"
เขามีมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง? "เขายังเล่าไม่ได้ค่ะ ยังไม่ได้พูดได้ขนาดนั้น แต่เขาก็จะจำชื่อเพื่อนเขาได้ เวลาบางทีไปเดินห้างแล้วเจอเพื่อน เขาก็จำเพื่อนเขาได้"
\r\nเป็นห่วงเวลาเขาเล่นกับเพื่อนไหม? "ยังไม่ขนาดนั้นค่ะ ด้วยวัยนี้ก็ยังไม่ได้แบบ... คือเด็กกระทบกระทั่งกันมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แป๊บนึงเขาก็ลืม เขาก็มาเล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม"
โตขึ้นอีกหน่อยเขาจะอยู่ห้องเดียวกันหรือคนละห้อง? "อ๋อ ต้องแยกแหละ อันนี้มีคุยกับคุณครูที่โรงเรียนเหมือนกัน ตอนนี้ที่แคมปัสมันมีแค่คลาสเดียว ผู้ปกครองบางคนก็ยังไม่ได้ส่งลูกมาในอายุเท่านี้ แต่ปีต่อไปพอขึ้นเตรียมอนุบาลปี 2 มันก็จะมี 2 ห้องแล้ว ทีนี้ก็ต้องจับแยก ปีนี้จับแยกไม่ได้เพราะมีห้องเดียว จริงๆ ชมก็รู้แหละว่าระยะยาวยังไงเขาก็ต้องให้แยกอยู่แล้ว เด็กจะได้มีความเป็นตัวของตัวเองด้วย เพราะไม่ยังงั้นเขาก็จะอิงกันพิงกันไปตลอด เขาก็ต้องหาตัวเขาเองด้วย"
เรื่องเข้าสังคม น้องๆ เข้ากับเพื่อนๆ ได้ดีไหมในสายตาเรา? "จริงๆ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนก็พาเขาไปทั่ว"
พยายามไม่ให้น้องใช้ชีวิตแบบเป็นแฝดตัวติดกันตลอดเวลา? "ก็คือสอนให้รักกันเหมือนเป็นพี่น้องปกติแหละค่ะ แต่มันเฮลตี้กว่าสำหรับเขาที่ถ้าต่อไปต้องจับเขาแยกบ้าง"
ลูกเข้าโรงเรียนแล้ว โครงการมีลูกคนต่อไปล่ะ? "ก็เดี๋ยวต้องดูว่าหลังจากหนังและคิวปีหน้าผังรายการเป็นยังไง (หัวเราะ) ต้องลองวางผังของตัวเองดูค่ะ ก็คงจะมีอีกคนแหละค่ะ แต่ว่าช่วงไหนเนี่ย... คือชมก็อยากจะวางระยะเวลาที่เราท้องแล้วไม่กระทบงาน ไม่กระทบการเดินทางของเรา"
น็อตเร่งไหมว่าอยากจะมีแล้ว? "ยังไม่ได้เร่งนะ ได้ลูกชายไปสองคนแล้ว แล้วเขาค่อนข้างจะสบายใจแล้วว่าชมน่าจะเอาอีกแน่ๆ"
เรื่องสุขภาพล่ะ เพราะว่าเราก็ทำงานหนักด้วย? "ก็คิดว่าดูแลตัวเองดีพอสมควรนะ จริงๆ งานไม่ได้ถือว่าหนักมากๆ เพียงแต่พอเราเป็นแม่ด้วย เราทำงานด้วย เรียกว่ามันก็โดนทอนกำลังเราเยอะพอสมควร แต่ก็พยายามดูแลทั้งเรื่องการออกกำลังกายและอาหาร การพักผ่อน"
อยากได้ลูกสาว ตั้งใจจะเลือกเพศเลยไหม? "ก็อยากได้ แต่เดี๋ยวดูกันอีกทีนึง สุดท้ายได้อะไรก็ต้องตามนั้นค่ะ"
ต้องปรึกษาคุณหมอก่อน? "ก็มีบ้างค่ะ เราอายุเท่านี้แล้ว เรื่องวางแผนครอบครัวเราก็ต้องปรึกษาคุณหมอค่ะ"
กังวลเรื่องหุ่น? "ไม่กังวลนะคะ คือไม่ได้มั่นหน้าขนาดนั้นนะคะ แต่ว่ามันก็ได้แค่ไหนแค่นั้น เราก็ทำดีที่สุดในส่วนของเราค่ะ"
ถามถึงเรื่องรูปขี่คอน็อต คนแซวว่าฟิตจัง? "ฟิตๆ นางฟิต (ยิ้ม) วันนั้นออกกำลังกายค่ะ สามีเปิดฟิตเนสค่ะ (เลยโชว์หน่อย?) ก็นิดนึง ถามว่ากล้ามปูมั้ย อย่าให้โตไปกว่านี้เลยค่ะ ประมาณนี้ๆ (หัวเราะ) ถามว่ากลัวเหรอ ไม่หรอกค่ะ
มีไปออกกำลังกายกันสองคนบ้าง? "คือเวลาอาจไม่ได้ตรงกัน เพราะถ้ามัวแต่รอกันก็อาจจะไม่ได้ออกค่ะ แต่เนื่องจากเป็นสถานที่ของเขา บางทีก็สวนกันไปมาในยิมบ้าง"
เล่นประจำที่ฟิตเนสสามีไปเลย? "ใช่ ก็พยายาม มันก็เล่นที่อื่นไม่ได้แล้วปะ (ยิ้ม) มันก็ต้องเล่นที่นี่แหละ (หัวเราะ) ถามว่าไปดูกิจการด้วยรึเปล่า ชมไม่ได้อะไรมากหรอกค่ะ แค่ไปเล่นแล้วเทรนเนอร์ที่เคยเทรนก็มาอยู่ที่นี่หมด อุปกรณ์มันก็ครบดีด้วย สถานที่ก็ไม่ได้ไกลบ้าน ก็สะดวก"
เป็นการประกาศว่าฟิตแล้ว พร้อมปั๊มลูกคนต่อไป? "(หัวเราะ) ก็ไม่ได้ประกาศอะไร เรามีไลฟ์สไตล์แบบนี้อยู่แล้ว พยายามดูแลตัวเองอย่างนี้ตลอดอยู่แล้ว จะมีน้องหรือไม่มีน้อง เรื่องการดูแลตัวเองมันควรเป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่ว่าเรามีเป้าหมายแล้วเราก็ทำให้ไปถีงเสร็จแล้วปิดโปรเจ็กต์ค่ะ"
เครดิต : คมชัดลึก
ภาพจาก : chomismaterialgirl