คบหาดูใจกันมาได้ร่วม 2 ปีสำหรับ เชน ณัฐวัฒน์ นักแสดงหนุ่มมาดเข้มและแฟนสาว แพร พรรัมภา ที่ออกมาเปิดใจถึงเส้นทางความรักกว่า 20 ปี จากเพื่อนแปลเปลี่ยนเป็นแฟนในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne 31
คบกันมากี่ปีแล้ว ?
เชน : ถ้าในฐานะเพื่อนก็เกือบ 20 ปี
เป็นแฟนกันมากี่ปีแล้ว ?
แพร : ถ้าเปิดตัวจริงๆประมาณ 2 ปี เริ่มมาสนิทกันจริงๆ 4-5 ปี
แต่เคยเจอกันมาก่อนหน้าเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ? เจอกันครั้งแรกหรือเปล่า ?
เชน : ใช่ เป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้น วันนั้นเป็นวันเกิดสมัยเรียนอยู่ปี 1 เป็นคนไม่เที่ยวแต่โดนเพื่อนคะยั้นคะยอ เราก็ไปเจอเค้าที่เที่ยวที่หนึ่งนั่งกินข้าวอยู่กับพี่สาว แต่เราไม่กล้า จนจะกลับบ้าน ถ้าพลาดโอกาสนี้ก็ไม่รู้จะเจอกันอีกเมื่อไหร่ เลยรวบรวมความกล้าเข้าไปขอ เค้าก็ให้มาชื่อรัน
แพร : ก็คือโกหกชื่อ คือพี่สาวยัดเยียดให้เบอร์เชน ที่บ้านกลัวเราเป็มทอมเพราะเราเรียนหญิงล้วน ชอบดูแลเทคแคร์ผู้หญิง พี่สาวก็เป็นคนให้เบอร์เค้า
แล้วให้เบอร์เราหรือเปล่า ?
แพร : ตอนนั้นยังเป็นเบอร์บ้านอยู่เลย
แล้วน้องรันคือใคร ?
แพร : มั่ว แต่งชื่อขึ้นมาเอง
ก่อนที่จะให้เบอร์มองหน้าแล้วถูกใจผู้ชายคนนี้มั้ย ?
เชน : ก่อนที่เค้าจะเจอผมมีคนเข้าไปขอเยอะมากเลยนะ
ทำไมเลือกให้คนนี้ ?
แพร : พี่สาวยัดเยียด พี่สาวเชียร์
ตอนนั้นเป็นไงหล่อมั้ย ?
แพร : ตอนนั้นไม่ได้มองว่าหล่อหรือไม่หล่อ
เชน : เค้าชอบผู้หญิง คือปกติเค้าไม่ได้ชอบมองผู้ชายเท่าไหร่ เพราะเค้าชอบชมผู้หญิงสวย วันนั้นก็ต้องขอบคุณพี่สาวเค้าที่ช่วย
ตอนที่เจอเค้าครั้งแรกชอบอะไรในตัวเค้า ?
เชน : มันเป็นความประทับใจแรก เราชอบผู้หญิงแบบนี้ บุคลิกแบบนี้ นิ่งๆ เราเข้าไปคุยก็ไม่สนใจ ชอบบุคลิกท่าทาง
ตอนได้เบอร์โทรเลยมั้ย ?
เชน : โทรวันต่อมา แล้วขอคุยกับรัน
ตอนขอคุยกับรันแล้วเป็นชื่อที่เราแต่งเราจำได้มั้ย ?
แพร : สาวเป็นคนตั้งให้รินกับรัน ตอนแรกให้พี่สาวคุย
เชน : เสียงเหมือนกันด้วย แล้วก็นัดกินข้าวแถวสยามดิสคัฟเวอร์รี่ เราก็พาเค้าไปกินทาโกะ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่ได้ชอบกินทาโกะเลย จนเค้าจำมาจนถึงทุกวันนี้
แพร : แล้วสุดท้ายก็มารู้ว่าเค้าไม่ได้ชอบกิน
แล้วเดทแรกไปกันกี่คน ? พี่กับแม่ไปมั้ย ?
แพร : 2 คน พี่กับแม่ไม่ได้ไป เป็นครั้งแรกที่ขึ้นรถผู้ชาย
ตอนไปเดทยังบอกว่าชื่อรันอยู่มั้ยหรือว่าบอกชื่อจริงเราแล้ว ?
เชน : บอกแล้ว
ถามความรู้สึกของผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกันมาก่อน ไม่เคยเดทกับผู้ชายมาก่อนเลย แล้วมาเดทกับผู้ชายคนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
แพร : พี่สาวกับทีบ้านยัดเยียดอยากซ้อมเราว่าเป็นยังไงเดทครั้งแรก คือตื่นเต้นมากอยู่ในรถกับผู้ชาย 2 คนแล้วไม่เคยคุยกับผู้ชายเลย เรียนหญิงล้วนมา ถามว่ามีเพื่อนผู้ชายมีมั้ย มีแต่เป็นเพื่อน
เชน : เพื่อนเค้าจะเป็นแนวเด็กช่างกล
แพร : มีเพื่อนผู้ชายตอนเรียน ม4-ม.5 ไม่คบกับเพื่อนที่ต่างโรงเรียนหรือคนอื่น อันนี้คือคนแรกจริงๆ
\r\n
จะเรียกว่าตอนนั้นเราเป็นทอมเลยได้มั้ย ?
แพร : ไม่เชิง เหมือนมันเป็นแฟชั่น คือเราเป็นคนชอบเทคแคร์คน ชอบมองผู้หญิงสวย
ตอนอยู่ในรถคุยอะไรกัน ?
แพร : ตอนอยู่ในรถก็นั่งนิ่ง เหงื่อออกเปียกไปหมด ไม่รู้จะคุยอะไร ต้องทำอะไรต่อ ต้องไปกินข้าว ต้องคุยอะไรกัน มันเป็นแบบนั้น
เชน : ตอนนั้นของผมก็ถือว่าเดทเพราะตอนนั้นชีวิตมัธยมไม่เคยมีเรื่องความรักเข้ามาซักเท่าไหร่ ชีวิตเราอยู่แต่กีฬา พอได้เจอเค้า แล้วเค้าเป็นผู้หญิงสวยคนแรกที่ได้คุย เราก็รู้สึกกดดันตัวเองเหมือนกัน แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้มันผ่อนคลาย เค้าจะได้ผ่อนคลาย
ความสัมพันธ์แบบนี้อยู่นานขนาดไหน ความรักกุ๊กกิ๊กระหว่างคู่คุณ ?
เชน : ไม่ได้กุ๊กกิ๊กเลย พอทานข้าวเสร็จก็พาเค้าไปส่งบ้าน แล้วก็กลับต่างต่างแยกย้าย
มีจับมือมั้ย ?
เชน : ไม่มีเลย ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวกันเลย หลังจากนั้นผมก็ไปเรียน แล้วไม่รู้ว่าเค้าเป็นนักแสดง เพิ่งเล่นเรื่องแรก เราไม่ได้รู้จักอยู่แล้ว ไม่ได้สนใจก็โทรคุยอย่างเดียว จนขอไปรับที่มหาลัยบ้างนิดๆหน่อยๆ กินข้าว แต่ก็ไม่ติด เศร้า เหงาไป
แล้วทำไมตอนนั้นไม่ติด ?
แพร : เหมือนเราเข้าวงการถ่ายละครก็ต้องใช้ชีวิตในกองถ่าย คือถ่ายทั้งวัน 24 ชั่วโมง ออกป่า ออกเขา คุยกันน้อยลง ก็ห่างๆ กันไป
เชน : แทบจะเหลือศูนย์เลย แทบจะไม่ได้คุยกันต่อ
ต่างคนต่างแยกย้าย ?
เชน : พอเรารู้ว่าเค้ามีแฟนด้วยแหละ
แพร : พอเริ่มเข้าวงการเราก็มาคบคนในวงการ
อันนี้หลังจากกินข้าวในวันนั้น ?
แพร : หลังเป็นปี
พอเค้ามีแฟนปุ๊ปก็เลยแยก ?
เชน : ก็แยก เราก็หมดโอกาสแล้ว หาจีบคนอื่นต่อไป
แฟนเป็นเพศไหน ?
แพร : ผู้ชายค่ะ
ต่างคนต่างก็ทำงานในเส้นทางของตัวเอง แล้วแพรรู้วีรกรรมของเค้าบ้างมั้ย ?
แพร : ตอนนั้นยังค่ะ พอเข้างวงการก็แยกย้าย เค้าก็บ้าฟุตบอลของเค้าไป
เชน : เจอกันตามที่เที่ยวประปราย
แล้วทักกันมั้ย ?
เชน : ทัก คือหลังจากวันที่รู้ว่าเค้ามีแฟน เราก็รู้แล้วว่าคนนี้คือเพื่อนเรา เพราะเค้าต้องเป็นเพื่อนที่ดีแน่ๆ เราก็เปลี่ยนไม่ไปวุ่นวาย ไม่เจ๊าะแจ๊ะ คนนี้คือเพื่อนเราจริงๆ
เป็นที่ปรึกษาหัวใจกันมั้ย ?
เชน : ตอนหลังๆ
ใครปรึกษาใคร ?
เชน : ส่วนใหญ่เป็นผมนะ
พอเริ่มเข้ามาทำงานในวงการ แสดงว่าต่างคนก็ต่างเห็นกันแล้วใช่มั้ย ?
เชน : หลังจากเจอเค้าตอนนั้นผ่านไปอีก 4 ปี ผมเข้าวงการ เราเลยรู้สึกว่าเค้าเข้าก่อนเรา พอเราไปเจอเค้าเราก็ถามว่าเข้ามาแล้วเป็นยังไง ต้องทำยังไง
ตอนนั้นแพรรู้วีรกรรมเจ้าชู้ของเค้ามั้ย ?
แพร : จริงๆ แล้ว ตอนที่รู้จักเมื่อ 20 ปีที่แล้ว คือเป็นเด็กใสๆ บ้ากีฬา เค้าจะมีข่าวบ่อยมากเรื่องผู้หญิง ใช่เชนหรอ ก็คืดว่าน่าจะไม่ใช่ สุดท้ายความแสบออกมาหมดเลย
เรื่องอะไรที่เราเซอร์ไพร์สที่สุด ?
แพร : ก็ไปอยู่ในก๊วนแสบๆทั้งหลายเนี่ยแหละ
เจ้าชู้ขนาดไหน ?
แพร : ติด 1 ใน 4 ตองอู
เชน : ไม่ขนาดนั้น คือเราจากคนที่ใช้ชีวิตด้วยการทำกิจกรรมมาโดยตลอด แล้วก็เรียนเที่ยวเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย พอเข้ามาในวงการก็มีแต่สวยหล่อทั้งนั้น เราไม่คุยกับเค้าเค้าก็มาคุยกับเรา บางทีถ้าเราไม่แข็งแรงพอเราก็จะเลยเถิด หวั่นไหว
เคยคุยพร้อมกันมากสุดกี่คน ?
เชน : ไม่เคยคุยพร้อมกันเยอะๆ คุยแค่ 2 คนก็ปวดหัวแล้ว ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าเราอยากคุยนานๆ ถ้าเราอยากคุยนานๆพร้อมกันทุกคนไม่ได้
เคยนัดประชุมสามสายคืออะไร ?
เชน : ผู้หญิงเค้านัดคุยกันแล้วโทรหาผม
วันนั้นจบยังไง ?
เชน : วางโทรศัพท์เลย ขับรถออกจากบ้านไปหาแฟนตัวจริงๆเลย
ทำไมวีรกรรมทั้งหมดมาเล่าให้เค้าฟัง ?
เชน : ต้องบอกว่าผ่านเวลาไปละกัน 10 กว่าปีแล้ว แล้วมาเจอเค้าในงานวันเกิดเรา เป็นโอกาสดีที่ได้มานั่งคุยกับเค้าอีกที ภาพเดิมเลย อยู่กับผู้หญิงสองคนเหมือนเดิม เราก็เข้าไปคุยแต่ในลักษณะเพื่อน แต่ความรู้สึกที่มีให้เค้าไม่เหมือนเดิมอยู่แล้วเพราะเป็นผู้หญิงที่เราเคยชอบ หลังจากคุยเรารู้สึกสบายใจก็เลยเล่ามันทุกสิ่งทุกอย่างเลย
แสดงว่าตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะคบเป็นแฟน เพราะคนที่สบายใจคบเป็นเพื่อนจะเล่าได้ทุกเรื่องโดยไม่คิดถึงอนาคต ?
เชน : ไม่
แพร : ส่วนแพรก็ชัดเจนว่าไม่คบคนในวงการ
ตอนได้ฟังวีรกรรมเค้าเราว่าไงบ้าง ?
แพร : ก็ว่าเค้า ทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรม เราก็มองเป็นกลางตอนเศร้าเราก็อยู่ข้างๆ อันไหนด่าก็ด่า ผิดก็คือผิด
อะไรทำให้ตัดสินใจเป็นแฟนกัน ?
แพร : คือช่วงนึงเค้าเฮิร์ท เราก็ให้คำปรึกษา แล้วเราก็รู้จักเค้ามาตั้งแต่อดีต รู้ว่าพื้นฐานเค้าไม่ได้เป็นคนแรดขนาดนี้ ที่บ้านเค้าเป็นครอบครัวที่น่ารักมาก เค้าชอบเล่นกีฬา ชอบในสิ่งที่เราชอบ จนวันนึงเรามองว่าสังคมในวงการทำให้เค้าเปลี่ยนไป ด้วยระบบความคิดเค้าค่อนข้างจะปรับในสิ่งที่เราบอก เค้าก็เข็ดในสิ่งที่เค้าทำเหมือนกัน แต่เราก็ยังมีความลังเลนะว่าจะเชื่อร้อยเปอร์เซ็นมั้ย ก็แอบๆเปิดลองคุยดูเรื่อยๆ
ใครเริ่มบอกว่าคุยกันมั้ย คบกันมั้ย เป็นแฟนกันมั้ย ?
เชน : ไม่เคย ไม่มีคำนั้นเลย หลายๆคู่จะมีวันครบรอบ คืออันนี้มีความเป็นเพื่อน10 กว่าปี ซึ่งผมมั่นใจว่าต้องเกิดขึ้นกับหลายๆคู่ ที่เราซึมซับความรู้สึกจากความสบายใจที่เราอยู่กับผู้หญิงคนนี้ แล้วผู้หญิงคนนี้ให้คำแนะนำ ให้อะไรเราหลายอย่างมากที่ให้เราปรับตัวจากคนที่ไม่ดี คนที่บางทีก็คิดไม่ได้กลายเป็นคิดได้
เกือบจะไม่ได้คบกันเพราะจับได้ว่าเค้าคุยกับสาวอื่นกี่ครั้ง ?
แพร : จริงๆ 2 ครั้ง แต่มันช่วงเปิดใจ จะศึกษาดูใจแล้ว ลองคบดู แล้วมาเจอแอบคุยไลน์ บอกแล้วว่าไม่ชอบนะ ถ้าคิดจะมาชอบเราแล้วไม่หยุด เค้าก็บอกว่าทำตัวดี เราก็เชื่อ วันนั้นเราอยู่ต่างจังหวัดมือถือแพรเปิดเพลงอยู่แล้วแบตหมด เลยขอมือถือเค้าต่อบลูทูธ ซึ่งไม่เคยจับโทรศัพท์เค้าอยู่แล้ว เด้งมาเลย คิดถึงนะ ทำอะไรอยู่ แล้วอยู่กับเรา แล้วยังไม่ได้เป็นแฟนด้วยนะ เชนทักไปหาเค้าก่อน
เชน : คือโทรศัพท์มันเป็นอะไรที่ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าเค้าจะหยิบไปแล้วไปเปิดดูไง
ทำไมถึงคุยกับคนอื่น ?
เชน : คือตอนนั้นเราก็มีความสุขแหละ แต่ด้วยความโง่
แพร : ความแรดเลยแหละ
เชน : คือเราไม่รู้จะทักไปเพื่ออะไร เราไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร แค่ความนึกสนุกว่าเปิดไลน์มาก็ทักไปเล่นๆ คือตอนนั้นต้องบอกว่าโง่มาก ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ไม่มีเหตุผลเลยแล้วทำให้เค้าโกรธมาก
แล้วครั้งที่ 2 ล่ะ ?
แพร : ก็ประมาณนี้ เหมือนเดิม ชอบบริหารเสน่ห์ แต่คราวนี้เนียนกว่าเดิมนิ่งๆ แคปไว้ เอามือถือถ่ายไว้
แล้วทะเลาะกันหนักขนาดไหนตอนนั้นที่บอกว่าเกือบไม่ได้คบกันเรื่องราวเหล่านี้ ?
เชน : ก็หนัก ใช้เหตุผล คือครั้งที่ 2 มันไม่มีอะไรจริงๆ เค้าแคไม่ชอบว่าเราไปคุยกับผู้หญิงคนอื่น เราก็พยายามอธิบายเหตุผลกับเค้าแล้วต้องไปอธิบายกับแม่เค้าด้วย
แล้วทำยังไงถึงมี 2 ปีได้ ?
เชน : เราก็เรียนรู้จากความผิดพลาด จากประสบการณ์ที่เค้าสอน วันนึงพอเราคิดได้สิ่งแหล่านี้ที่รู้สึกว่ามันไม่คุ้มกันเลย เราเกลียดการทะเลาะ แต่เราสร้างปัญหามาโดยตลอด เพราะฉะนั้นมันไม่ได้แก้ที่เค้ามันต้องแก้ที่เรา ถ้าเราไม่เริ่มที่จะทำผิดการทะเลาะมันก็จะไม่เกิด เราอยากอยู่กับเค้า เราก็ไม่ทำอีก
แพร : คือตอนแรกเค้าจะไม่ให้จับโทรศัพท์ แต่ตอนนี้เปิดใจ 2 ปี วางโทรศัพท์จับไปเลย
ปกติผู้ชายจะรู้สึกว่าเค้าจะไปแล้วค่อยเปลี่ยนจริงมั้ย ?
เชน : ไม่ใช่เค้าจะไปแล้ว ไอ้นี่ไปแน่ๆ เค้าไปคือไป มันไม่ได้มันพังทุกสิ่งอย่างเลยถ้าเรายังไม่หยุดสิ่งนี้ เรายังไม่หยุดแรดโง่ๆแบบนี้ แรดอย่างไม่มีชั้นเชิงแบบนี้ เราต้องหยุดทุกอย่างเดี๋ยวนี้ แล้วเราจะมีเค้าตลอดไป
แสดงว่าอีกไม่นานจะมีข่าวดี แต่งงานมั้ย ?
เชน : คนถามเข้ามาเยอะ บอกเลยยังไงก็คนนี้ จะพยายามทำทุกอย่างตามขั้นตอนและเร็วที่สุด
จะมีลูกมั้ย ?
แพร : ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น ไม่ได้อยากมี ไม่ใช่ว่าแบ่งภาระตัวเองไม่ได้ เหมือนเรื่องความพร้อม ตอนนี้เห็นเพื่อนๆเริ่มมีลูกกันหมดแล้ว เรารู้แล้วค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ต้องมาคิดเยอะ ก็เลยยังไม่ได้คิดตรงนั้น
ขอบคุณข้อมูลและคลิปจาก