โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานพอสมควร สำหรับตลกชื่อดัง “ธงธง มกจ๊ก” ที่คอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูมามากมาย เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในเรื่องของงานเป็นอย่างมาก แต่ใครจะรู้ว่า ก่อนที่จะมาอยู่ตรงจุดนี้ก็เคยผ่านชีวิตที่สุดแสนจะรันทดมาก่อน ล่าสุด!! เจ้าตัวถึงขั้นบ่อน้ำตาแตกกลางรายการ เมื่อพูดถึงประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ผ่านทางรายการ “ดาราสตอรี่ บันเทิงเรื่องใหญ่” ว่า
เห็นบอกว่า ชีวิตในวัยเด็กลำบากมาก
ธงธง : จริงๆ แล้วไม่ค่อยอยากจะเล่าเรื่องชีวิตในวัยเด็ก เพราะรู้สึกว่ามันรันทด ตอนเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่เปิดคณะลิเก ดังมาก แต่ต่อมางานก็น้อยลง ที่บ้านก็ค้าขายเครื่องสังฆทานด้วย แต่ก็เจ๊งไป เพราะแม่ไม่มีเวลามาดู สุดท้ายก็ล้มละลาย ตอนเด็กๆ เราได้เงินไปโรงเรียน 1 บาท ซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ชามนึง ส่วนน้ำก็กินน้ำก็อกเอา
เคยทำงานแลกเงินวันละ 20 บาท
ธงธง : เคยไปรับจ้างล้างจาน ที่ร้านข้าวต้มกุ๊ย หลังเลิกเรียน จน ถึงตี4 ได้ค่าจ้างวันละ 20 บาท ช่วยกัน 2 คน กับพี่สาว ได้มาก็ให้แม่ 30 บาท ที่เหลือแบ่งกับพี่สาว อดหลับอดนอน เวลาง่วงก็ไปแอบนอนใต้ท้องรถบรรทุก
ได้เรียนหนังสือถึงชั้นอะไร
ธงธง : เรียนถึงม.2 แล้วก็เข้ามากรุงเทพฯ พ่อแม่บอกว่าไม่มีเงินส่งเรียนแล้ว ให้ออกมาเล่นลิเก ตอนนั้นเล่นได้ประมาณ2ปี พี่ชายก็ประสบอุบัติเหตุ ทุกคนก็ต้องกลับมาดูพี่ชาย
\r\n
เคยทำงานอยู่ในสถานบริการ
ธงธง : แม่เคยรับจ้างนวด แล้วไปนวดให้เจ้าของบ่อน เค้าถูกใจแม่ เลยให้ไปเป็นแม่ครัวที่ซ่อง เราก็ตามแม่ไป โดยการไปเก็บรองเท้า
เคยเห็นแม่โดนรังแกในบ่อน
ธงธง : มีอยู่วันนึง ได้ยินเสียงคนโวยวาย เราก็เข้าไปดู ภาพที่เห็นคือ เจ้าของบ่อน นั่งเล่นไพ่ แล้วกำลังเสีย แม่เราก็เอาข้าวไปให้เค้า แต่เค้ากินแล้วไม่ถูกปาก เค้าก็เตะจานข้าวแม่ แล้วแม่ก็นั่งเก็บเศษอาหาร โดยไม่มีใครช่วย เราอยากเข้าไปช่วย แต่ก็เข้าไปไม่ได้ จนเราต้องเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วก็ร้องไห้ เราบอกกับตัวเองว่า ต่อไปนี้จะทำทุกอย่างเพื่อแม่
เคยลำบากถึงกับต้องเอาหิ้งพระไปจำนำ
ธงธง : ใช่!! ตอนนั้นอยู่ที่โคราช เอาหิ้งพระไปจำนำได้ 70 บาท ชีวิตตอนนั้นคือไม่เหลืออะไรเลยที่บ้านลำบากมาก แต่เชื่อไหมว่า ถ้าเทียบตอนนั้นกับตอนนี้ เห็นได้ชัดเลยว่า ตอนที่เราจน แต่เราก็มีความสุขนะ เพราะความสุขมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะ ความสุขมันขึ้นอยู่กับปัจจุบันนะขณะนี้ว่า เรายอมรับความจริง ว่า เราฐานะแค่นี้เราสามารถจะมีความสุขกับอะไรบ้าง ถึงเราจะจนแต่เราก็จนแบบมีคุณภาพ
ถึงแม้จะผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายมาหลายครั้ง แต่เจ้าตัวก็เลือกนำประสบการณ์ในชีวิตมาเป็นบทเรียนสอนใจ มากกว่าที่จะนั่งจมอยู่กับความทุกข์ที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
DARASTORY