แจง ไม่ปิดปัง ยอมรับ ได้ตัดสินใจเข้ารับการตรวจภายใน หลังได้รับรู้ถึงวีรกรรมที่แจ๊ส ไปทำมา จนเกิดความกลัว

แจ๊ส ชวนชื่น และ แจง แจงจิต ภรรยา ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตและครอบครัว ผ่านรายการตีท้ายครัว พร้อมทั้งเล่าวีรกรรมของแจ๊ส ในอดีต ที่ทำให้แจง ต้องสินใจเข้ารับการตรวจภายในและขอเป็นเจ้าของบ้านเพียงคนเดียวเท่านั้น
แจง : เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นช่วงแจ๊สไปเล่นคอนเสิร์ตที่อุบล และทองหล่อ ซึ่งช่วงนั้นตนไม่สามารถไปได้ เนื่องจากมีอาการป่วยของโรคแพนิค จึงต้องนอนให้เร็วขึ้น ตนจึงโทรให้เพื่อนสืบว่าแจ๊สไปทำอะไรมา เพราะตนเห็นว่าแจ๊สเมาหนักมาก หลังจากกลับจากการทำงานที่อุบลและทองหล่อ ปรากฏว่า แจ๊สได้พาผู้หญิงจากข้างเวที เข้าม่านรูด โดยอ้างว่าถูกวิญญาณพ่อเข้าสิง
แจ็ส : คือตอนนั้นตนรู้สึกเหมือนพ่อมาสิงเรา เพราะพ่อเป็นคนเจ้าชู้ และเป็นช่วงที่พ่อเพิ่งจากไป พอได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ตนก็พบว่าตัวเองเดินอย่างคนไม่มีสติ แต่ตนก็ยอมรับในเวลาต่อมา เพราะแจงให้แม่สืบ อีกทั้งยังเค้นหาความจริงจากคนขับรถอีก จนตนต้องยอมรับในท้ายที่สุดว่าเข้าม่านรูดจริง

แจง : พอตนรู้ความจริง ก็รีบไปหาหมอ ตรวจภายในทันที ด้วยความกลัว เกิดมาไม่เคยใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น ตอนแรกคิดว่า เพื่อนแจ็สที่เป็นผู้หญิง คงจะห้ามแจ๊สได้ ถ้าอยู่ด้วย แต่พอแม่โทรมาบอกว่า คนขับรถให้แจ๊ส ที่แท้ คือ เพื่อนที่เป็นผู้หหญิงของแจ๊สเอง แม่ก็บอกให้ตนเลิกปล่อยให้แจ๊สอยู่กับเพื่อนสาวของเขาทันที เพราะเพื่อนคนนั้นเป็นคนหาผู้หญิงมาให้แจ๊ส เป็นคนไปเรียก เป็นคนไปส่ง พอได้รู้ความจริง ตนก็เสียใจมาก ทั้งๆที่เคยไว้ใจกัน สุดท้ายก็ต้องมาเคลียร์ใจกับแจ๊สก่อน เพราะเรื่องนี้โทษใครไม่ได้ ยอมรับเลยว่า ตอนนั้นเสียใจจริงๆ ไม่เคยเจอ และไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นที่เข้าม่านรูดกับแจ๊ส เพราะตนต้องจัดการแจ๊สก่อน
แจ๊ส : หลังเกิดเรื่อง ตอนนั้นตนก็ไม่ได้ขอโทษนะ ตนขอโทษบ่อยเกินไปแล้ว ให้ดูที่การกระทำแทน เพราะเข็ดแล้วกับเรื่องพวกนี้

เห็นว่ามีการจับเซ็นบ้าน ยกบ้าน ?
แจง : ตามนั้นค่ะพี่ บ้านหลังนี้ใช้ชื่อของตน เพราะตนไม่อยากเสี่ยงอีกแล้ว ถ้าวันหนึ่งเกิดเรื่อง เลิกรากันไป ตนมีลูกต้องดูแล ตนต้องไปเริ่มต้นใหม่ แต่เเจ๊สก็ยังคงมีงานทำเหมือนเดิม ด้วยเหตุผลนี้ บ้านหลังนี้จึงต้องเป็นของตน ถ้าแจ๊สจะไป ก็ไปแต่ตัวเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ตีท้ายครัว