วันรับปริญญาถือเป็นวันที่ใครหลายๆ คนต่างตั้งตารอคอยเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นวันที่ประสบความสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งของชีวิต เช่นเดียวกับสาว คารีสา สปริงเก็ตต์ หรือ คารีสา เดอะเฟซ นั่นเอง
โดยล่าสุด สาวคารีสา เดอะเฟซ ได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล (เอกการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์) ซึ่งในวันรับปริญญาก็มีหลายคนต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับเธออย่างมากมาย รวมทั้งครอบครัว คุณพ่อ - คุณแม่ของเธอ
ซึ่งทางสาวคารีสาได้โพสต์รูปภาพในโมเมนท์สุดน่ารักๆ กับครอบครัว พร้อมระบุความในใจสุดซึ้งว่า "นางสาว คารีสา สปริงเก็ตต์ ลูกสาวของคุณแม่น้องนิด อำไพ คุณพ่อเดวิด สปริงเก็ตต์ เรียนจบ ป.ตรี ด้วยระยะเวลา สี่ ปี !!
เหตุผลในการมาเรียนมหาลัยของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน แต่สำหรับหนูฟังแล้วอาจจะดูเฉยหน่อยแต่ก็จริง หนูทำให้พ่อกับแม่ อยากให้ท่านภูมิใจ อยากให้ท่านรู้สึกว่าท่านคือพ่อแม่ที่ดีที่สุด มีลูกที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนเด็กหนูค่อนข้างเป็นเด็กเกเร ชอบมีเรื่องให้แม่ร้องไห้เสียใจ และทำให้แม่ได้แต่โทษตัวเค้าเองว่าเป็นแม่ที่ไม่ดี เลี้ยงลูกแค่นี้ก็ทำไม่ได้ พอหนูเริ่มเข้า ม.4 เกรดหนูก็ล่วงลงไปเรื่อยๆ ละคิดว่าไม่เป็นไรอย่างน้อยเราก็ทำงานหาเงินและก็คิดว่าจะไม่เรียนแล้ว ม.4 ก็พอ ไม่มีใครคาดหวังด้วยซ้ำว่าหนูจะเรียนจบไหม
\r\n
ระหว่างนั้นแม่ก็มีการเปรียบเทียบตัวหนูกับลูกคนอื่นมาตลอด ชมว่าลูกคนนี้ดี เรียนจบ ทำงานที่ดีนั้นไม่ได้ทำให้หนูคิดได้นะคะ มันยิ่งทำให้หนูประชดตัวเองให้อิสระเสรีสุดๆไปเลย จนกระทั่งวิชาการแสดงได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของหนูเป็นอย่างมาก ทำให้หนูวิเคราะห์ตัวเอง และสิ่งที่มากระทบจิตใจอย่างมีสติละเอียดมากขึ้น มันทำให้หนูเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่
พ่อกับแม่ไม่ได้เกิดมาพร้อมคู่มือการเลี้ยงหนู เขาพูดไม่เป็น แต่เขื่อสิว่าเค้ารักเรามากๆ การเลี้ยงลูกให้ดีมันไม่มี how to หรอก แต่พอโตขึ้นมาหนูถึงเข้าใจ subtext ของสิ่งที่เค้าคอยสอนมากขึ้น เราต้องเลือกเอง ว่าอยากมีชีวิตแบบไหนและมุ่งไปทางนั้น หนูเลยตัดสินใจลงเรียนพร้อมกับทำงานไปด้วย ทำให้ชีวิตยากขึ้น ท้าทายขึ้น เราจะได้ไม่เป็นคนขี้เกียจ หรือได้อะไรมาง่ายจนโลกแคบเกินไป
วันนี้หนูมีงานทำ มีรถ มีบ้าน ของตัวเอง เรียนจบให้พ่อแม่แล้ว อยากให้เขาไปที่ไหนก็มีแต่คนชมลูกเขาให้เขาฟัง อยากให้เขากอดตัวเอง บอกกับตัวเองว่าเค้าเป็นพ่อแม่ที่ดีมากๆ สำหรับหนู ทุกวันนี้ที่หนูมีมันมาจากการเลี้ยงดูของเค้า หนูไม่ได้โตมากับครอบครัวที่รวยที่สุด เข้าใจที่สุด อบอุ่นที่สุด หนูเลยกล้าพูดจริงๆ ว่าชีวิตมันมีทางเลือกให้เราเสมอ อยู่ที่ว่าเรามองแบบไหน หนูพูดได้ว่าถ้าหนูไม่ได้มาอยู่กรุงเทพ ต้องมาแข่งขันตัวเองกับชีวิตจริง ตอนนี้หนูอาจจะทำงานง่ายๆ เรียนไม่จบ ใช้ชีวิตไม่มีคุณภาพอยู่พัทยาแล้ว
และขอบคุณพัทยาที่เป็นพื้นที่ที่ปลูกฝังความสดใส บังเทิง มาให้หนูตั้งแต่เด็กๆ วันนี้หนูโคตรดีใจเลย ที่หนูทำสำเร็จมาก้าวนึง ขอบคุณความรักความช่วยเหลือจากทุกๆ คนที่เข้ามาในชีวิตหนูเลยนะคะ หนูโชคดีมากๆ ที่มีทุกคน"