น้าเน็ก เสนาหอย และป๋อง กพล รวมตัวกันทำรายการย้อนยุคไปสมัย 80-90 ที่งานนี้น้าบอกทุ่มทุกอย่างทั้งกลัวทั้งเสี่ยง แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ สปอนเซอร์เข้ารัวๆ ทั้งเล่าเรื่องหมดแพชชั่นกับงานในวงการบันเทิง
มารวมตัวกันได้ยังไง?
น้าเน็ก : ผมทำคอนเทนต์ออนไลน์ในเพจที่ชื่อน้าเน็ก 55 ทั้งเฟซบุ๊กและยูทูบ เราอยากมีคอนเทนต์ใหม่ เราสังเกตได้ว่าคนยุค 80 90 เขาไม่มีอะไรดู เพราะอายุ 40 กว่า กำลังงานยุ่ง กำลังห่างเพื่อน ความรับผิดชอบเยอะ ไม่มีคอนเทนต์เฉพาะเลย ผมเลยคิดว่าถ้าเรามีรายการทอล์คโชว์คุยเกี่ยวกับความหลัง เวลาเรารวมตัวกันเราคุยเรื่องเมื่อก่อนทั้งนั้น ถ้ามีคอนเทนต์นี้ในออนไลน์จะเป็นยังไงซึ่งคิดแล้วมันเสี่ยงมาก เพราะออนไลน์เป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ ผมเป็นเจ้าภาพคอนเทนต์นี้เสี่ยงมากว่าจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า พนันหมดตัวแทบจะทุกอย่างเชื่อว่ามันต้องดีแน่
ทำไมถึงเลือกพี่หอยกับพี่ป๋อง?
น้าเน็ก : ตอนแรกตัดสินใจเอาคนเดียวคือพี่ป๋อง แต่หุ้นส่วนผมอีกคนอยากได้พี่หอย เราเลยเอา 3 คนเลย บุคลิกคาแรคเตอร์ 3 คน 3 แบบ วันแรกที่จะไลฟ์คอนเทนต์นี้ผมยอมรับเลยว่านอนไม่หลับ เพราะว่าเราโม้ไว้เยอะ ไม่ว่าจะกับลูกค้า คนดูหรืออะไรก็ตาม ถ้ามันแป๊กขึ้นมามันจะเสียหายร้ายแรงมาก ไม่อยากมาตายตอนแก่จะเสียหมามาก ปรากฏว่าใน ep.แรก คนประเดประดังดูเยอะมาก
ป๋อง : ส่วนตัวพี่สนิทกันอยู่แล้วคนรุ่นเดียวกัน พอเขาเอ่ยปากมาเราก็โอเค เราชอบอะไรที่มันย้อนยุคอยู่แล้ว มันมีเสน่ห์เยอะ
เสนาหอย : เน็กโทรมาแล้วบอกคอนเซ็ปต์รายการผมถามมีใครบ้าง พอรู้ว่าเป็นป๋องผมอยากจะแคนเซิลเลย
หมดแพชชั่นในชีวิตการทำงาน?
น้าเน็ก : พอเราอายุเยอะแล้ว 50 up แล้วยังต้องทำงานในวงการบันเทิงอยู่เนี่ย เรารู้สึกว่าถ้าเราอยากยืนระยะเราต้องออกแรงมากกว่าปกติ เพราะว่าวันนี้กำลังแข่งกับคนรุ่นใหม่ที่เป็นยุคสมัยของเขาในขณะที่เราต้องโคตรพยายามเลย รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากเย็น เราอยู่วงการนี้มานาน รักในสิ่งที่เราทำ ถ้าให้เลิกไปเราก็ไม่มีอะไรจะทำ มันไม่ได้หมายถึงเรื่องเงินทอง คอนเทนต์นี้มันพนันด้วยศักดิ์ศรี อย่างมากถ้ามันแป๊กขึ้นมาก็ถูกล้อแค่นั้น
เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตครั้งยิ่งใหญ่เลย?
น้าเน็ก : ใช้คำนั้นได้เลย พอเรามารวมเป็นแก๊งแล้วมันประสบความสำเร็จมากๆ ล่าสุดในไลฟ์สดลูกค้า 7 ตัว ที่จริงมันมากกว่านี้ แต่มันแปะไม่หมดแล้วเรามีแก๊งไลน์มาคุยกัย ผมรู้สึกมันโคตรดีเลย
เดี๋ยวหมดแพชชั่น เดี๋ยวอยากทำงาน อารมณ์วัยทองหรือเปล่า?
น้าเน็ก : พอวัยนี้มันจะอารมณ์ผิดหวังมาก ดีใจมาก มันทำให้เรา 3 คน มีชีวิตชีวา เวลาเราไปไหนมีคนมาทัก ดูชอบมาก มันทำให้เราเหมือนกลายเป็นบอยแบนด์แก่ๆ มันไม่ได้เป็นแค่คอนเทนต์ มันกลายเป็นสังคมที่หน้าจอ เหมือนการเลี้ยงรุ่นใหญ่ๆ
\r\n
มีคอนเทนต์โทรไปแล้วใจสั่น?
น้าเน็ก : มีอยู่วีคนึง จะให้โทรหาสาวที่เราแอบชอบ ผมก็ไม่คิดว่าจะต้องโทรให้หอยโทร อุ้ม ลักขณา แล้วเขาไม่รับ ป๋อง ก็โทรหาน้องลูกหมี เขาชอบนางแบบ ผมก็นึกว่าจบ ป๋องแอบรู้ว่าผมปลื้มป๊อก ปิยธิดามาก เลยโทรไปผมพยายามห้ามแล้ว เค้าก็รับสาย ไม่ได้พูดไรเลยก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว คนเดียวที่ผมชอบเลย เขามาเป็นพิธีกรช่องแกรมมี่ ผมเป็นโปรดิวเซอร์เราก็แอบมองจากระยะไกล จนเราเติบโตมาทำเบื้องหน้าเราก็ไม่ได้คิดที่จะบอกหรืออะไร ผมบอกว่าเขาเป็นสาวสวยที่ขายฝีมือจริงๆ ไม่แปลกเลยที่เราชอบเขา
พี่ป๋องยกให้เสนาหอยเป็นไอดอล?
เสนาหอย : จริงๆ เราไม่รู้ เขาเพิ่งมาบอกเรา เพราะเวลาผมเจอเขาจะชอบโชว์ผักที่เราปลูก เขาก็อยากทำเหมือนเราเพราะเค้ามีที่อยู่
ป๋อง : เราตามเค้าในไอจี เขาทำตั้งแต่ที่เป็นดินแดงๆ จนผ่านไป 2 ปี มันขึ้นมาเต็มไปหมด เริ่มมีการเก็บขายได้ เรามีลูก ลูกยังเด็ก กะซื้อที่สักแปลงทำสวนปลูกผัก ก็มีเขานี่แหละเป็นแรงบันดาลใจไอดอลของเรา
เสนาหอย : แล้วเขาก็เป็นไอดอลของผม เขาบอกผมมีเมียมีลูก เขาบอกว่าสักวันจะเจอผู้หญิงที่ทำให้เราทุกอย่าง รู้สึกทำให้เรามีความสุข
ใครเจ้าชู้ที่สุด?
ป๋อง : น้าเน็กเลยกินเงียบ
เสนาหอย : ก็มีคุยบ้าง ผมไม่อยากบอกตรงๆ เผื่อเราพลิกผู้หญิงเค้าจะเสียหาย ผมไม่เคยเชื่ออย่างที่ป๋องพูด จนวันนี้ผมรู้สึกนิดๆ ละ คนที่ทำให้เราทุกอย่าง รักเราดีเริ่มเชื่อเค้านิดๆ แล้ว
น้าเน็ก : ในคนๆ นึง เรามีหลายสถานะ ถ้าผมจะเป็นแฟนของใครสักคนนี่เป็นด้านที่ผมทำได้ไม่ดีที่สุดเลย ผมมีเอาไว้ให้ผู้หญิงเสียใจเล่นบทแฟนได้ไม่ดีเลย วันนี้เราก็มีคนที่เราชอบมีคนที่คุย แต่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะยังไง มันเป็นด้านที่ผมไม่ถนัดมากที่สุด เราอยู่ในวันที่เรารู้แล้วว่าเก่งอะไรไม่เก่งอะไร ไม่เก่งก็ไม่พยายามทำมันเท่านั้นเอง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
คุยแซ่บโชว์