แอนนี่ บรู๊ค คุณแม่สายสตรอง ออกมาเปิดใจผ่านรายการแฉ วันที่ 18 มกราคม 2564 ถึงเส้นทางชีวิตถูกด่ามาตลอด 10 ปี ตั้งแต่สมัยยังไม่มีไดเรกไอจี
แอนนี่ บรู๊ค เล่าว่า สมัยนั้นพอมีข่าว ก็ตามไปคอมเมนต์ในข่าวนั้นๆ พอเราเปิดเพจเพื่อที่จะทำมาหากิน ก็เริ่มเข้ามาในพื้นที่ของเรา เรายอมรับมาเสมอ ยอมรับมาตลอดเวลา เรื่องความผิดพลาดของเรา ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง กับสิ่งที่ตัวเองทำ จะโดยตั้งใจก็ตาม ไม่ตั้งใจก็ตาม ยอมรับมันมาเสมอ
ด้านมดดำ รีบพูด ที่เชิญมาวันนี้ จะมาขอโทษ เพราะก่อนหน้านี้เป็นคนเปิดประเด็นเรื่องที่เธอไปทำงานเป็นเด็กดริ๊งที่ต่างประเทศ
แอนนี่ บรู๊ค บอกว่า ตอนนั้นได้รับกระแสคำวิจารณ์เยอะ เป็นผู้หญิงไม่ดี เป็นผู้หญิงมั่วยั่ว เหมือนกับไม่เหมาะที่จะมาเป็นแม่คน เขาก็ยังใช้คำเก่าๆ เมื่อ 10 ปีที่แล้วมาตอกย้ำกับเรา
ตอนนั้นแม่ก็ป่วยติดเตียง งานในวงการบันเทิงไม่มี เป็นคนไม่มีรายได้เลยร้อยเปอร์เซ็นต์ โทรไปของาน ขอออกรายการนั้นหน่อยนะ เขาบอกให้รอ ก็รอมาเป็น 10 ปี
ในระหว่างที่เราเลี้ยงลูก ลูกเราก็ต้องกิน ต้องใช้ และวันหนึ่งเราก็ไม่คิดว่าเราเลี้ยงลูกจนโต ประมาณ 5-6 ขวบ แล้วเขามาบอกกับเราว่า “แม่ครับ ผมอยากเรียนโรงเรียนที่มีฝรั่งเยอะๆ อยากเรียนโรงเรียนที่พูดภาษาอังกฤษจังเลยแม่” คิดว่าแล้วจะไปเอาเงินที่ไหนอ่ะ ตอนนั้นทำน้ำพริกขายกระปุกละ 30 บาท ทำหมูฝอยขาย และงานรับหมด พัน สองพัน รับหมดทุกอย่างมันไม่พอ
\r\n
"ก็มีดราม่าอีกว่า ทำไมเราจมไม่ลง ทำไมเราไม่ส่งลูกเรียนโรงเรียนวัด ใจคนเป็นแม่เมื่อได้ยินว่าลูกอยากเรียนภาษา คุณได้ยินคุณอยากจะทำเพื่อลูกไหม คุณจะสู้ไหม แล้วตอนนั้นเพื่อนโทรมาหาเรา ถามว่าไปไหม ไปนั่งร้องเพลง ไปนั่งดริ้ง แอนพูดตรงนี้อย่างไม่อายเลยว่า แอนก็ไป ได้เงินมาก็ส่งลูกเรียน ไปๆ กลับๆ อยู่อย่างนี้ 5 ปี"
"พี่น็อตคะ 10 ปีที่แล้ว แอนอาจจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี แอนดูแย่มากในสายตาของทุกๆ คน ดูมั่วซั่ว ดูเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจ เป็นผู้หญิงที่แบบว่าไม่น่าให้อภัย แต่ในระยะทาง 10 ปีที่เดินมาถึงทุกวันนี้ ที่แอนสามารถมานั่งอยู่ทุกวันนี้ เป็นแม่ของ ด.ช.ฑีฆายุ ได้อย่างภาคภูมิใจมากว่าแอนทำหน้าที่แม่อย่างดีที่สุดมากๆ แล้วอ่ะค่ะ"
ส่วนเรื่องความรัก แอนนี่ บรู๊ค ไม่เคยมีใครใหม่เลย มีคนเข้ามาจีบ เรารู้ว่าสามารถดูแลเราได้ แต่ไม่ผ่านด่านลูกเรา ลูกหวงแอนมากนะ เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ยังไงเรื่องรักต้องผ่านด่านลูกเราก่อน
มดดำ ถึงกับชื่นชม น้องฑีฆายุ อ่านหันงสือออก เขารู้นะเรื่องข่าว เขาเห็นข่าวแม่ไปทำงานกลางคืน และเด็กคนนี้เข้าใจแม่ด้วย เขาตอบว่า ที่แม่ไปทำงานก็เพราะจะหาเงินซื้อคอมพิวเตอร์ให้ผมใช้เรียนหนังสือ
ใช่แอนบอกหมด และเขาก็รู้ด้วยนะว่าเราโดนแขกตี โดนลูกค้าตี ยิ่งเขารู้ เขาก็ยิ่งอยากเป็นเด็กดี เขาเรียนรู้ชีวิตจากการกระทำของเรา ถ้าเกิดว่าแอน เป็นผู้หญิงที่ย่ำแย่มากๆ ผลผลิตจะออกมาตรงกันข้ามเลยนะ แต่ตอนนี้ถ้าตามไอจี น้องอายุ 10 ขวบแล้วนะ เขาจะแกล้งๆ จากการที่เราบอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้ไม่ได้นะ ที่แสดงออกมาเขาทำมาจากใจ
ฝากไว้ตรงนี้นะคะ จะสิบยี่สิบปีข้างหน้า เอามาเลยเรารับได้หมด ว่าแอนได้หมด แต่อย่าบูลลี่เด็กเลย ว่าหน้าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ อย่างล่าสุดแอนลงร้องเพลงกับลูกก็เข้ามาคอมเมนต์ให้รอดูอะไรหรอ ให้รอดูหน้า...ของเด็กหรอ มันยังไม่จบ
เมื่อมีกฎหมายคุ้มครองเด็กเข้ามา เราเลยตัดสินใจจัดการตรงนั้น มาถึงตรงนี้แอนว่าเราว่ามาเริ่มสร้างสังคมใหม่กันเถอะ เราหยุดให้มันหมดไปไม่ได้ แต่ทำให้มันน้อยลงได้
เรามีวิธีการพูดให้ลูกสบายใจ มันโชคดีตรงที่สมัยนี้เป็นยุคของคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เขาจะเห็นว่าเออคนนั้นก็ไม่มีเหมือนกันเนอะ อย่างเช่นเวลาเราพาไปดูหนัง เราจะศึกษาก่อนพาลูกไปดู แอนิเมชันเรื่องที่ดู เขาสอนให้เห็นฟีดแบคโลกของออนไลน์ หนังสอนให้รู้ว่า ยูอย่าอ่านคอมเมนต์ น้องก็มาถามว่าจริงหรอแม่ คอมเมนต์มันยังไงแม่ หนังก็สอนแล้วว่า การอ่านคอมเมนต์มันทำลายความรู้สึกของตัวละครได้ขนาดไหน ซึ่งน้องฑีเป็นเด็กที่ชอบเรื่องของแอนิเมชันและกราฟิกดีไซเนอร์เป็นอย่างมาก พอเขาไปดูตรงนี้ มันเข้าไปถึงใจเขาเลย เขาเลยมีภูมิคุ้มกันตรงนี้ค่อนข้างสูง
แล้วมันสะท้อนไปถึงโรงเรียน คุณครูมาเล่าให้ฟังว่า “แม่เลี้ยงน้องฑีดีมากเลยนะคะ น้องเป็นคนอบอุ่นมาก เพื่อนๆ ขาดเหลืออะไรก็คอยช่วยเหลือตลอดเวลา” ซึ่งทั้งหมดนี้ติดตามชมได้ในรายการแฉ บอกได้คำเดียวว่า แอนนี่ บรู๊ค เป็นชื่อของคุณแม่สุดสตรองจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลและคลิปจาก