จากกรณีที่ ติ๋ม ทีวีพูล ออกมาเปิดใจแถลงข่าว เกี่ยวกับทิดสมปอง ทำให้หลายคนจับตามอง ในประเด็นที่ทิดสมปอง ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า "ถ้าเป็นที่ดินสปก.และตรวจสอบว่าผิด ก็ต้องปล่อยให้ไปตามขั้นตอน แม้จะถูกยึดคืนก็ต้องทำตามกฎหมาย แต่ทั้งหมดไม่มีชื่อตัวเองครอบครอง ตอนนี้ตระหนักแล้วที่ไปพูดเล่นพูดจริง ถือว่าคิดน้อย"
ล่าสุด นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า จากการสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 จังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินในพื้นที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ของนายสมปอง นครไธสง หรือ ทิดสมปอง เบื้องต้นพบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้น สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. เคยประกาศเป็นเขต ส.ป.ก. มาก่อน แต่สภาพไม่เหมาะกับการทำเกษตรกรรม จึงส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมป่าไม้
ผลการตรวจสอบเสร็จแล้ว 6 แปลง จากทั้งหมด 11 แปลง พบว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูซำผักหนาม อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ กว่า 200 ไร่ ซึ่งได้ปลูกต้นยางพาราไว้ แต่ไม่มีเอกสารชี้ชัดว่าเป็นที่ดินในความครอบครองของผู้ใดกันแน่ โดยส่วนที่เหลือจะตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป พร้อมเตรียมให้เจ้าหน้าที่แจ้งความเอาผิดกับผู้บุกรุกป่าสงวน ตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ป่าไม้แห่งชาติ
ขณะที่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ส.ป.ก. ชี้แจงเรื่องของนายสมปอง นครไธสง ที่กว้านซื้อที่ดิน ส.ป.ก. ในท้องที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ กว่า 300 ไร่ เพื่อปลูกยางพารา หรือให้ญาติถือครองที่ดินแทน
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ระบุว่า พื้นที่ที่เป็นข่าวเดิมเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม โดย ส.ป.ก. ได้รับที่ดินมาและมีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอคอนสาร อำเภอหนองบัวแดง กิ่งอำเภอภักดีชุมพล อำเภอหนองบัวแดง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอแก้งคร้อ และอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2531 ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 105 ตอนที่ 241 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2531 ซึ่งเป็นการประกาศให้อำเภอคอนสารเป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอ
\r\nเมื่อทราบข่าว ส.ป.ก. ได้มอบหมายให้ ส.ป.ก.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในทันที โดยได้สืบหาข้อมูลเพิ่มเติมจากทั้งผู้ปกครองท้องที่และราษฎรในพื้นที่เกี่ยวกับตำแหน่งและขอบเขตของแปลงที่ดินเทียบกับแผนที่แนวเขตปฏิรูปที่ดิน
รวมทั้งตรวจสภาพการทำประโยชน์ในแปลงที่ดินที่เป็นข่าวแล้ว พบว่า ที่ดินส่วนใหญ่อยู่นอกเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน และมีเพียง 1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน และเกษตรกรผู้ซึ่งได้รับอนุญาตฯ ยังคงทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองโดยการปลูกหมากและมะพร้าว
ทั้งนี้ ส.ป.ก. ไม่ได้นิ่งนอนใจและยังคงเดินหน้าตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปจากข้อมูลการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน หนังสือร้องเรียน สายด่วน ส.ป.ก. และการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบตามภารกิจอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก brighttv และ สมปอง นครไธสง