สายแนน

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับคดีความระหว่าง นักร้อง สาว เอ๋ มิรา และอดีตสามี ครูไพบูลย์ แสงเดือน หลังจากที่เธอต่อสู้ขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกชาย น้องสายแนน มาอย่างยาวนาน

หลังจากที่เธอหย่ากับอดีตสามี และให้สิทธิ์ปกครอง น้องสายแนน แก่ ครูไพบูลย์ แต่เพียงผู้เดียว กระทั่ง ครูไพบูลย์มีภรรยาใหม่ และมีลูกอีก 1 คน ทำให้ไม่มีเวลาดู น้องสายแนน ต่อมาเธอได้มีโอกาสติดต่อกับลูกชาย ไปรับมาอยู่ด้วยชั่วคราว และน้องสายแนนได้บอกกับเธอว่าไม่อยากกลับไปหาพ่อ เพราะต้องไปนอนกับแม่บ้าน และไม่มีความสุขที่เห็นพ่อกับภรรยาใหม่ทะเลาะกัน จึงอยากจะอยู่กับแม่มากกว่า เธอจึงให้ลูกมาอยู่ด้วย และเรียนหนังสือที่โรงเรียนใกล้บ้าน

โดยมีคุณยายช่วยเลี้ยงดูรับส่งไปโรงเรียนระหว่างที่เธอทำงาน พร้อมวางแผนไว้ว่าหากเรียนจบชั้นอนุบาล 3 จะซื้อบ้านอยู่กับลูกชาย และแม่ โดยเธอจะประกอบธุรกิจที่จังหวัดขอนแก่น และให้ลูกเรียนชั้นประถมศึกษาที่จังหวัดขอนแก่น เธอจึงขอให้ศาลถอนอำนาจปกครอง น้องสายแนน ของ ครูไพบูลย์ ฝ่ายเดียวตามที่เคยบันทึกไว้ แล้วให้เธอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง น้องสายแนน ฝ่ายเดียวแทน และให้ ครูไพบูลย์ ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดู น้องสายแนน เดือนละ 20,000 บาท

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 65 ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเลย จึงมีคำพิพากษาชั้นต้นให้ เอ๋ มิรา มีสิทธิ์ปกครองลูกชาย น้องสายแนน มาอยู่ในความดูแลของตัวเอง แต่เพียงผู้เดียว เป็นที่เรียบร้อยแล้วเอ๋ มิรา เผยว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ ตนเองต้องอดทนผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุดในชีวิต จนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า และมีความคิดที่อยากฆ่าตัวตาย แต่เพราะกำลังใจที่ดีจากทุกคน พร้อมขอบคุณทุกคนที่ทำให้เธอสามารถก้าวข้ามวันร้ายๆแบบนี้มาได้

เอ๋ กล่าวต่อว่า เธอทราบว่าตัวเองชนะคดีจากทนายเก่ง ในขณะที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เธอรู้สึกดีใจมากจนลืมอาการป่วยไปเลย ทั้งนี้เธอยังขอบคุณทนายเก่ง อาจารย์ประจักษ์ชัย ป๋าเทพ และพี่เบิร์ด ที่คอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด และที่สำคัญเธอยังขอบคุณกำลังใจจากแฟนคลับทุกคนอีกด้วย

\r\n

ด้าน ทนายเก่ง เผยว่า แม่และ น้องสายแนน ก็ได้มีการให้การในชั้นศาลด้วย โดยเฉพาะ น้องสายแนน ยืนยันต่อศาลหลายครั้งว่าไม่อยากกลับไปอยู่กับพ่ออีก แต่อยากอยู่กับแม่มากกว่า ศาลจึงได้พิจารณา และพิพากษาเปลี่ยนอำนาจปกครอง น้องสายแนน ของครูไพบูลย์ฝ่ายเดียวให้แก่เอ๋ มิรา ผู้เป็นแม่แต่เพียงฝ่ายเดียวแทน

ส่วนค่าอุปการะเลี้ยงดู 20,000 บาทต่อเดือนนั้น ศาลพิจารณาแล้วว่าทางเอ๋ เบิกความว่าประกอบธุรกิจส่วนตัวมีฐานะมั่นคงแล้วสามารถดูแลลูกได้แล้ว ซึ่งขณะนี้เธอได้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับขายเครื่องสำอาง ขายเสื้อผ้าออนไลน์ ถ่ายเอ็มวี และรีวิวสินค้า จนมีฐานะมั่นคง มีรายได้เดือนละ 100,000 – 200,000 บาท จึงสมควรให้เอ๋ เป็นผู้ออกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูน้องสายแนนผู้เดียว