จากกรณีที่ นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้แถลงข่าวเปิดหลักฐานทวงคืนความยุติธรรมให้ แตงโม ถึงขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565
ล่าสุด ไทด์ เอกพัน ให้สัมภาษณ์ผ่านอมรินทร์ทีวี เรื่องคดีแตงโมว่า "ตนเป็นคนไปรับร่างแตงโมขึ้นมาจากน้ำ และเห็นบาดแผลแตงโมอย่างชัดเจนเป็นคนแรก ที่คุณอัจฉริยะนำออกมาแถลงเมื่อวานว่ามีการนำศพแตงโมออกมาเพื่อมาเปรียบเทียบกับใบพัดเรือ จนทำให้ศพมีบาดแผลเพิ่ม เพื่อให้สอดคล้องกับคำให้การของแซน ที่ตนเองจำได้ บาดแผลที่ขาต้นขาขวาใหญ่ และก็รอยเจาะที่ตรงหน่องข้อพับ ที่มีไขมันไหลออกมา และก็มีขีดแผลเล็ก ๆ มันขีดเล็ก แบบหนังถลอก ไม่เยอะอะไรมาก นอกนั้นไม่เจออะไร จากที่พี่ดูจากบาดแผลน้องแตงโม ถ้าได้ดูอีกครั้ง จะจำได้เลยว่าบาดแผลไหนคืออันเก่าที่พี่เห็น เพราะพี่เป็นคนที่อยู่ชิดร่างน้องแตงโมนาน และใกล้ชิดมากที่สุด พี่จำได้ว่า แผลน้องแตงโมมีตรงไหนบ้าง"
"หากถามว่าเชื่อไหมว่ามีการทดสอบร่างแบบนั้นจริง มันเป็นการให้เกิดบาดแผลเพิ่ม ตนเองไม่ได้คิดไปถึงนั้น เขาอาจจะทำแบบนี้ก็ได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าคุณอัจฉริยะเขามีหลักฐานหรืออะไรก็ตามที่บ่งชี้ว่าทำให้เกิดบาดแผลเพิ่ม ก็เป็นในเรื่องของคุณอัจฉริยะตรวจสอบ ตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาเล่นอะไรกัน เราไม่ทราบ แต่ว่าตอนนี้ อยากดูบาดแผล และร่างของแตงโมอีกครั้งหนึ่ง และตนจะรู้เลยว่าอันไหนคือแผลที่เกิดขึ้นใหม่ อันไหมของเก่าพี่จำได้หมด พี่พูดในสิ่งที่เห็น และพี่ก็พูด ไม่ได้ปรุงแต่งหรืออะไรเลยในเรื่องร่างกายของน้อง พูดและพิสูจน์ได้ คำที่พูดทั้งหมดพิสูจน์ ไม่ได้ว่าจะเป็นนิติเวช หรือนิติวิทยาศาสตร์ อะไรต่างๆ"
"สามารถเข้าไปตรวจสอบร่างของพี่แตงโมคือจริง แต่สิ่งที่พลาดก็คือฟัน แต่พี่ยืนยันว่าพี่เห็นหักจริง ซึ่งคุณหมอพรทิพย์ก็อธิบายว่าอาจเห็นหักจริง ๆ แต่พอล้างทำความสะอาดออกมา อาจจะเป็นคราบดินคราบโคลนติดอยู่ หากทางอัยการอยากให้พี่ไทด์เข้าไปให้ข้อมูลเรื่องรอยแผลของแตงโม ตนเองพร้อมมาก ด้วยความยินดี เพราะจำได้บาดแผลของน้อง เพราะพี่เป็นคนพลิกร่างของน้องให้ตำรวจถ่ายรูป และก็เจอ ตรงนี้มีบาดแผล ตรงนั้นมีบาดแผล มีอะไรบ้าง แต่ไม่เยอะ ถึง 20-30 แผล อะไรประมาณนั้น นอกนั้นอาจเป็นรอยขีดข่วน จากกิ่งไม้ ใบหญ้า หรืออะไรขีด แต่ไม่มีใบพัดเรือแน่นอน ไม่มีอะไรที่ระบุเป็นใบพัดเรือ น่องโดนเจาะเป็นรู ไม่ใช่ใบพัดเรือแน่นอน ที่มีใขมันน้องออกมา ไม่ใช่แน่นอน"
"ส่วนกรณีที่ แอนนา ออกมาไลฟ์สด มีการต้องข้อสงสัยว่า แตงโมจนน้ำหายไปนานแต่ไม่มีการอืด ในตรงนี้ก็ได้พูดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้ว ไม่ใช่แค่น้องแตงโมที่จมลงไปในน้ำ ถ้าเสียชีวิตโดยธรรมชาติ พอขึ้นมามันก็น่าจะเปลี่ยนรูปไป แต่ที่พี่พูดก็คือมีด้านหนึ่งช้ำเลือดช้ำหนอง และตาข้างหนึ่งไม่ปิด ตาบวม คือมันก็ผิดธรรมชาติอย่างที่พี่สงสัยอยู่แล้ว มีการแถลงออกมาว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งพี่ก็พอรับได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่พี่ต้องข้อสงสัย มันจะทำให้เกิดการชันสูตรใหม่ในกรณีเรื่องฟันครั้งที่แล้ว มันเป็นการพิสูจน์ใหม่ และตอนนี้สัญญาณหรืออะไรก็ตามที่อยู่ตามร่างกายของน้องแตงโม ก็บ่งบอกว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ คือสิ่งที่พิสูจน์ได้ จากมุมมองตนเอง ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาขาน้องเข้าไปอย่างไร ตอนนี้ตนเองคิดอย่างเดียวว่าขอให้เรื่องกระจ่างโปร่งใส อย่างที่ 5 คนบนเรือแจ้ง ขอให้ใครบ้างคนบนเรือออกมาพูดความจริงทั้งหมด ขอภาวนาหรืออะไรดลจิตดลใจพูดความจริงออกมาสักคน จะได้จบ สงสารน้อง "
\r\n"กรณีเมื่อวานคุณอัจฉริยะ มีการนำคลิปออกมาโดยการกล่างอ้างว่าเป็นร่างของแตงโม ทำให้ทางอัยการมีการเรียกทีมชันสูตรเข้าพบเพื่อให้ปากคำ ตรงนี้ตนเองไม่ขอก้าวก่ายหรืออะไรทั้งสิ้น ส่วนเรื่องวันนี้ก็มีข่าวใหม่ว่าเจอยาเสียสาวจากคนบนเรือ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร ต้องเป็นเรื่องกระบวนการสืบสวนว่ายาตัวนี้เอามาทำอะไร เพื่ออะไร แล้วที่แถลงข่าวไปไม่ได้มีการพูดถึง ทำไมตอนนี้ถึงออกมาพูด เพราะอะไร ต้องชี้แจงให้ประชาชนหายสงสัยด้วย "ต้องบอกว่าพี่สงสารน้อง ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ อยากให้จัดการ ทำอะไรให้ถูกต้อง เสร็จแล้วก็จำนำร่างของน้องไปทำพิธีฌาปนกิจให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มาเจออะไรกับวังวนเป็นอะไรแบบนี้ มันไม่น่าจะมาอะไรแบบนี้เลย ถ้าทำอะไรโปร่งใส บริสุทธิ์ ทำให้สิ่งที่ถูกต้อง ตอบสังคมได้ ชัดเจน สังคมต้องการอะไร สังคมได้รู้ว่า เราทำนั้นบริสุทธิ์คือจบแล้ว"
"ก็ต้องขอบคุณคุณอัจฉริยะติดตามเรื่องนี้จนกระทั่ง มีผลตอบรับจากสังคมโซเชียลขึ้นมา มันก็เป็นอีกทางหนึ่งที่เราจะได้เรียกความยุติธรรมให้กับน้องแตงโม ในจุดตรงนี้ อยากถามว่า ในวันที่ 24 พ.ค. ยังจะเป็นการฌาปนกิจน้องเหมือนเดิมแน่นอนไหม แต่ในรูปคดีก็ทำไป กำหนดการฌาปนกิจก็ดำเนินไป ไม่มีผลอะไรใช่ไหม ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ในเรื่องการอยากขอเข้าไปดูร่างแตงโมอีกครั้ง คิดว่าจะลองคุยกับคุณแม่ หรือพี่ต่อย ดายศ ก่อนนำร่างไปทำพิธี ยอมรับว่าอยากจะขอเห็นร่างน้องครั้งสุดท้าย เพื่อยืนยันบาดแผลทั้งหมดจะได้สิ้นสงสัยว่ามันมีอะไร ผิดปกติไหม เพราะเราเองก็สงสัยเหมือนทุกคน"