ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวออกมาว่า แม่แตงโม เปลี่ยนใจไม่คิดที่จะยื่นฟ้องการฆาตกรรมคนบนเรือ ในฐานะผู้เสียหายเพียงคนเดียว ด้วยหลักฐานหรือข้อมูลที่ได้เห็น "เรื่องการยื่นฟ้องตรงการฆาตกรรมคนบนเรือ ยังไม่คิดที่จะยื่นฟ้อง
ในฐานะผู้เสียหายเพียงคนเดียว ด้วยหลักฐานหรือข้อมูลที่ได้เห็น พบว่ามีแค่ภาพ คลิปเสียง เป็นข้อมูลเบื้องต้น ค่อนข้างมีน้ำหนักน้อย ไม่มีความเชื่อมโยง ถึงขั้นที่ชัดเจนว่าเป็นการฆาตกรรมได้
ส่วนตัวเลยกลับมาคิดทบทวน ว่าหากตนเองในฐานะผู้เสียหายเพียงคนเดียว เข้าไปยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรง อาจจะส่งผลเสียในอนาคต ถ้าน้ำหนักของพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ตนติดคุกเพียงคนเดียวได้ โดยที่ไม่มีใครมาช่วย"
ทำให้ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ต้องรีบออกมาไลฟ์สดชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า "การดำเนินคดีอาญาในการฟ้องตรง จะมีการประชุมทีมงาน สรุปรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับ คดีแตงโม ในช่วงเย็นวันที่ 14 มิถุนายน และจะมีการตรวจคำฟ้อง ถกประเด็นนี้กันอีกรอบ
การฟ้องกลับ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ถามว่าจำเลยฟ้องกลับได้ไหม สามารถฟ้องกลับได้ แต่สุดท้ายก็ต้องรอคดีหลัก เพราะฉะนั้นเราต้องรอบคอบ เพื่อให้แม่ปลอดภัย และการเบิกความครั้งนี้ อัจฉริยะเป็นคนเบิกความแทนแม่ทั้งหมด ส่วนตนเป็นพยาน ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป ซึ่งอาญาเรากำลังคำนวนอยู่ว่าจะฟ้อง 289 ฆาตกรรม หรือฟ้อง 290 ที่เป็นการทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดการเสียชีวิต
\r\nซึ่งต้องดูคำพิพากษาของศาลฎีกาให้รอบคอบ ส่วนพยานเรื่องบาดแผลใบพัด เราได้ประชุมกันแล้ว แต่ยังไม่ได้ประชุมเรื่องสำนวน ซึ่งวันนั้นประชุมหลายชั่วโมง เกรงว่า แม่แตงโม จะรับข้อมูลมากๆ เลยไม่อยากให้มา เพราะแม่ยังอยู่ในช่วงเศร้า และขอยืนยันว่าฟ้อง 100% ส่วนมาตราไหนอีกเรื่องหนึ่ง"
ทั้งนี้ บางช่วงบางตอนของการไลฟ์สด ส.ส.เต้ ได้พูดถึงคดีแพ่งด้วยว่า "การจัดงานศพ ในส่วนของ 3 วันสวด การเผาศพ เอกสารนี้เราต้องรอจากผู้จัดการส่วนตัว อั้ม พัชราภา ส่วนหนี้สินเรื่องบ้าน รถ และต่างๆ ที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย ต้องรวบรวมเพื่อฟ้องแพ่ง รายได้ตั้งแต่ อายุ 37 ปี อายุ 50 ปี น่าจะประมาณ 200 ล้านบาท แต่เราฟ้องแค่ 100 ล้านบาท เพราะส่วนใหญ่ศาลให้ครึ่งเดียว จริงๆอยากฟ้องอาญาและแพ่งพร้อมกัน แต่กลัวเอกสารทางราชการจะมาไม่ครบ"
ขอบคุณ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์