วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567
SHARE

แดนนี่ ศรีภิญโญ หายหน้าไปจากวงการบันเทิง 6 ปี เม้าท์แรง ตกอับ ต้องกลับไปทำนา

โพสต์โดย นารีมายา เมื่อ 4 สิงหาคม 2565 - 17:35

นักแสดงมากความสามารถแดนนี่ ศรีภิญโญ ที่วันนี้จะมาเล่าถึงชีวิตหลังหายหน้าจากวงการบันเทิงไป 6 ปี จนถูกเม้าท์ว่าตกอับต้องไปทำนาอยู่ต่างจังหวัด พร้อมเผยเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ลูกบุญธรรมตอนวัยรุ่น และวันที่แม่ที่แท้จริงกลับมาอยู่ด้วยและเสียชีวิตจากไป ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW 

หายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงไป 6 ปี?

แดนนี่ : ตั้งใจหันลังเกษียณตัวเองครับ ไปอยู่บ้านภรรยาตั้งใจทำโน่นทำนี่

หลายคนมองว่าตกอับ?

แดนนี่ : ใช่ บางทีก็มีคนพูด บางสื่อนำเสนอ แล้วเราก็คุยกับลูกพี่เราว่าคนเราก็เหมือนปี๊ปนั่นแหละ วางอยู่เฉยๆมันไม่ดัง เค้าเขี่ยเค้าก็ปล่อยมันไปเถอะ ถ้าเราไม่ได้เป็นก็แล้วไป ผมก็มานั่งคิดว่าเวลาเรามาอยู่ ต่างจังหวัด ความฝันคนในวงการบันเทิงหลายๆคนแก่ตัวไปมีที่ต่างจังหวัด มีบ่อน้ำ บ้านชายนา ผมก็ดำเนินตามความฝันผมทุกอย่างเลย ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ด้วยกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ที่มี ทำข้าวกินเอง ทำขายด้วยเล้กน้อยๆ แต่ไม่เยอะนะ พื้นที่ 7 ไร่กว่า

สาเหตุที่หันหลังให้วงการบันเทิง?

แดนนี่ : ตอนนั้นผมมองว่าวงการบันเทิงยังไงต้องเลิกแน่ไม่ช้าก็เร็ว ถึงแม้จะมีรับแสดงบ้างแต่เป็นพาร์ทไทม์เล็กๆน้อยๆ แล้วผมจะต่อเนื่องด้วยอะไรดี ความฝันของผมคือไปอยู่ต่างจังหวัด แล้วก็มีที่ ทำบ้านเหมือนโรงนาฝรั่ง น้องๆโฮมสเตย์ อาบน้ำตุ่ม นุ่งผ้าถุง กินข้าวริมนา

ก่อนจะมาถึงจุดนี้มีสาเหตุ มาจากซื้อบ้านแล้วต้องผ่อนบ้าน?

แดนนี่ : ภาคที่เราเป็นนักแสดงในกรุงเทพ เรามีความรับผิดชอบ เรามีหน้าที่การงานที่ดี มีรถดีๆขับ มีบ้านหรูๆอยู่ ผมก็ทำงานส่งบ้าน โดยที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่งเงินให้คุณพ่อคุณพ่อก็ไปจ่ายค่าบ้านให้ เมื่อครบดีลสามารถที่จะจ่ายได้มากกว่านี้แล้ว คุณพ่อบอกว่าถ้าโอกาสจ่ายเยอะๆจะดี เพราะที่หนูจ่ายมาเท่านี้ดอกเท่านี้ เงินต้นเท่านี้ ถ้าผ่อนแบบนี้หืดขึ้นคอนะลูกเหนื่อยแน่ เราเลยคิดว่าถ้าผ่อนบ้านหมดแล้วหันหลังให้วงการ เหมือนเรือเดินสมุทรที่ผ่านความหรูหรามามีทุกอย่างบนเรือเมื่อถึงท่าแล้วจอดทุกคนต้องลง

พอไม่คิดว่าจะผ่อนแบบนี้แล้ว เลยหันไปหาผู้ใหญ่?

แดนนี่ : ตอนนั้นทำงานก็สามารถถ้าผมจะแอดวานซ์ค่าตัวรายการนี้สัก 2 ปีได้มั้ย เพื่อที่ปิดบ้าน เค้าถามที่บ้านมีรถกี่คัน เราบอก 3 เค้าบอกมีเท้ากี่เท้า 2 ครับ 2 เท้านี่สามารถขับพร้อมกันได้มั้ย ไม่ได้ครับพี่ ขายซะ เราก็ขายหมดเลย 3 คัน แล้วมาบอกว่าได้เงินเท่าไหร่ เอาเงินไปซื้อปิคอัพ 4 ประตูขี่ มันตอบโจทย์เรานี่หว่า

เงินที่เหลือเอาไปโปะบ้าน?

แดนนี่ : ไปเทบ้าน ไม่พอโปะ ได้บางส่วน เหลืออีกระดับนึง ผมก็ทำตามที่พี่เค้าสอน ถ้าภายใน 3 ปีนี้ยังไม่หมด ค่อยมายืมใหม่ได้ แต่ตอนนี้ต้องทำแบบนี้ก่อน

ตอนนี้บ้านหมดหรือยัง?

แดนนี่ : จนขายกลับไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว มันหมดภาระเราแล้ว ผมคิดเลยว่าถ้าวันนึงเราเกษียณแล้วมูฟทั้งหมด มีเงินประมาณนี้ ถ้าเราไปอยู่ต่างจังหวัดเงินขนาดนี้มันทำให้เราอยู่ได้ไปถึง อายุ 75-80 ตายก็คุ้ม

ตอนนี้ไม่มีหนี้อะไรแล้ว?

แดนนี่ : ผมปลอดหนี้มาตั้งแต่แต่งงานกับภรรยา 10 กว่าปีแล้ว

ชีวิตที่มีความสุขที่สุดแล้ว?

แดนนี่ : มันมีความสุขตามครรลองที่ ควรจะเป็น แต่เนื่องด้วยสถาณการณ์โรคภัยไข้เจ็บที่มันมีมาตอนนี้

ส่วนนึงที่ได้ดีทุกวันนี้ เพราะพ่อแม่บุญธรรมด้วย?

แดนนี่ : ใช่ครับ พอ่แม่บุญธรรมเป็นแบบสไตล์ ไทยแต่ไม่เนี้ยบมาก สอนลูกๆหลานๆดีประหยัด อดออม เป็นคนกลางๆไม่ได้รวยมาก ไม่ได้จนมาก ตั้งแต่เด็กๆผมจำได้ทำไมพ่อพูดเยอะจังเลย ทำไมต้องให้เก็บตังค์วันละบาท ทั้งๆที่เราได้ 3 บาท เค้าให้เก็บเลยตั้งแต่เช้า เพราะถ้าเอาไปมีสิทธิ์ใช้

รู้มั้ยว่าพอแม่เป็นพ่อแม่บุญธรรม?

แดนนี่ : ตั้งแต่เบบี๋ถึง 10 กว่าขวบนี่ยังไม่รู้นะ มารู้อีกทีตอนที่เราต้องเปลี่ยนสถานะเป็นบุตรบุญธรรม ต้องยกเราให้เป็นของพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามา เราเลยมานึกย้อนตอนเด็กๆเรียกเราว่าไอ้หรั่ง ไอ้หรั่งคืออะไรเรายังไม่รู้เรื่องเลยนะ เรารู้เพราะต้องไปโอนที่ ศาลเยาวชน ปกครองเด็ก ต้องมีคำสั่งศาล

ช็อคมั้ย?

แดนนี่ : ตอนเด็กยังไม่รู้พ่อแม่บุญธรรมคืออะไร แต่รู้มีพ่อแม่ที่อยู่ข้างนอกด้วย ผมยังคิดในใจว่าเราเจ๋งมีพ่อแม่ อยู่เมืองนอกด้วย แล้วมีพ่อแม่เมืองไทยด้วย ไม่รู้เรื่องมารู้ตอนเริ่มโต พ่อแม่จริงๆเราอยู่เมืองนอก ตอนที่พ่อแม่เราคลอดเราตอนนั้นเราเด็กมากการเดินทางขึ้นเครื่องบินก็ลำบาก บวกกับความเป็นอยู่ไม่ดีเท่าที่ ควรกับพ่อแม่ที่แท้จริง พ่อแม่บุญธรรมก็บอกพ่อแม่เราว่าจะเลี้ยงแดนนี่ให้ ถ้ามีที่อยู่ที่กินบ้านช่องดี แล้วค่อยเอาแดนนี่ไปอยู่ ตอน 4-5 ขวบก็ได้

พ่อแม่จริงๆติดต่อมาจะรับไปอยู่ ?

แดนนี่ : ติดต่อครับ ส่งเงินมาให้ใช้เดือนละ 500  พ่อเราก็เก็บไว้ให้ ตอนแกเสียถึงได้รู้ พี่ๆน้องๆเอามาแจง ตังค์ที่เก็บเด็กๆแสนกว่าบาท  เค้าบอกเก็บไว้ให้มันยามยากมันจะได้มีตังค์ของมัน เราก็คิดสิ่งที่พ่อแม่พร่ำ สอนทำไมต้องประหยัด

คำสอนไหนที่ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้?

แดนนี่ : อดทน อดกลั้น อดออม นี่คือพ่อ ส่วนแม่เป็นห่วงอย่างเดียวถ้ามี ครอบครัว มีลูก รักกันให้มาก เพราะลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจระหว่างบุคคล 2 คนถ้ามีไรเกิดขึ้นให้หันไปมองลูกแล้วชีวิตคู่จะอยู่ยาวเหมือนพ่อกับแม่

ที่บ้านแปะคำสอนไว้?

แดนนี่ : พ่อผมจะเป็นคนชอบพูดว่าจดจำ จดจริงๆ เขียนใส่สมุดบันทึก เค้าเป็นคนละเอียด ผมติดเขียนแบบเค้า เพื่อนๆมาที่บ้านบอกว่ามีนิทรรศการกระดาษไทยหรือยังไง แม้กระทั่งบนรถก็แปะ ผมได้อันนี้มาจากพ่อเลย

แม้กระทั่งวันสุดท้ายฝากฝังเรื่องมรดกให้ด้วย?

แดนนี่ : พอถึงอายุขัยท่าน บ้านที่พ่อแม่ไม่มีคนอนู่ ทำยังไง พี่ๆบอกขายแล้วแบ่งตังค์กัน ซึ่งผมพึงสังวรณ์ลูกบุญธรรมไม่ ต้องไปยุ่งกับเค้า ไม่ต้องเอ่ยปากใดๆทั้งสิ้น พอเสร็จงานพ่อแม่จะลพี่ๆกลับ พี่สาวบอกว่าแดนนี่ต้องอยู่ด้ย แม่กับพ่อได้สั่งไว้ว่าอย่าทิ้งน้อง สงสารมัน เลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็ก ที่สำคัญมันตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ดีพอสมควร มันก็ไม่ได้มากตามอัตราส่วนเพราะมีหลายคน แต่มันเป็นความภูมิใจที่ว่าพี่ ๆรักเรา

มีโอกาสได้เจอพ่อแม่แท้ๆของตัวเองบ้างมั้ย?

แดนนี่ : ได้เจอครับ พอเราโตขึ้นรู้ความว่าต้องเปลี่ยนเป็นบุตรบุญธรรม สมัยก่อนเขียนจดหมาย ถ้าโทรศัพท์บ้านดังเที่ยงคืนคือแม่โทรมา เพราะมันสว่างที่โน่น ตอนที่แม่กลับมาผมอายุประมาณ 17-18 วัยรุ่นเต็มตัว แม่กลับมาเพราะมีเหตุผลตอนนั้นไม่บอก แม่กลับมาเพราะทุพพลภาพตอนนั้นแม่ผ่าตัดสมองที่เมืองนอก ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ไม่ได้โอนเป็นบุตรบุญธรรม เพราะการผ่าตัดสมองโอกาสรอด 10-15 เปอร์เซนต์ แต่เนื่องจากวิวัฒนาการของเมืองนอก แม่ผมเป็นคนปรกติแต่ทุพพลภาพตั้งแต่ผมอายุ 13-18 กลับมาอยู่กับผม จากนั้นอีก 2 ปีแม่ถึงได้เสียในอ้อมกอดผมเลย

ช่วงเวลาที่กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นยังไงบ้าง?

แดนนี่ : มีความสุขมาก ไทยคำอังกฤษคำเพราะเค้าอยู่ที่ โน่นนาน จูนกันยากพอสมควรแต่มีความสุข อย่างน้อยแม่ก็ได้กลับมาอยู่กับผมช่วงสุดท้าย ถึงแม้มันจะสั้นนัก แค่นี้ผมดีใจแล้ว

โมเมนต์ช่วงสุดท้าย?

แดนนี่ : จำได้ เค้าบอกฉันไม่ได้ทิ้งแกนะ มันมีความจำเป็นตั้งแต่เด็ก ฉันต้องไปทำงานหาเงอนเพื่อที่ จะเอาแกกลับไปอยู่ที่นั่น ถึงแม้จะเอาแกกลับไปไม่ได้ แต่ฉันกลับมาแล้วนี่ไง

อยากบอกอะไรกับคุณแม่?

แดนนี่ : ไม่เคยลืมแม่นะ สักวันนึงเมื่อเอวาลูกผมโตขึ้ นรู้ความ ผมจะพาไปเยี่ยมแม่ที่สุสาน ถึงแม้จะเป็น 2 ปีสั้นๆที่แม่กลับมาอยู่กับผม แต่มันคุ้มแล้ว 18 ปีแม่หายไปทำงานหาเงิน ให้เงินตากับยายดูแลผม ถึงแม้จะไม่มาก แต่มันก็เป็นน้ำพักน้ำแรงเท่าที่ พ่อแม่คู่นึงจะทำให้ได้

ขอบคุณ คุยแซ่บshow



แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com