คุณแม่ยังสาว นิโคล เทริโอ ขอควงลูกชายสุดฮอต น้อง ทิกเกอร์ วั ย 17 ปี ที่ตอนนี้เป็นลูกไม้ใต้ ต้น เป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว พร้อมเคลียร์ประเด็นใช้เส้นสายดันลูกชายเข้าวงการ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่ มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
สาเหตุที่เราอยากเป็นศิลปิน เพราะคุณแม่เป็นศิลปินหรือเปล่า?
ทิกเกอร์ : เกี่ยวข้องบ้าง จริงๆ มันเป็นธรรมชาติ ผมชอบศิลปะอยู่แล้ว พอเห็นว่าผมเขียนเพลงได้หรือมีโอกาสแบบนี้ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ที่สุด
แม่ภูมิใจลูกขนาดไหน?
นิโคล : ดีใจที่เขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก และเอ็นจอย กี้รู้จักลูกดีว่าแบบอะไรที่ไม่ใช่ตัวเขามันจะเห็นชัดเลยว่ามันไม่ ใช่แล้วกี้ไม่มีทางที่จะดันแบบ...ไม่ๆ แต่จะซัพพอร์ตหนุนอยู่ ข้างหลัง บางทีความปลื้มของเรา เขาก็ต้องเอาเราไปเก็บเพราะเราจะเยอะ กรี๊ดแบบ...คือเราลืมไง ด้วยความที่เราเป็นแม่
การที่มีพ่อ แม่ ดังทั้งคู่มันกดดันเราไหม?
ทิกเกอร์ : ไม่ค่อยครับ แต่ ผมกดดันตัวเองมากกว่าว่าแบบวันนี้เสียง การแสดงโอเคไหม
เราตั้งแม่ไว้เป็นต้นแบบไหมว่าผมต้องเก่งเท่าแม่ให้ได้?
ทิกเกอร์ : ครับ แบบวิธี การทำงานต้องให้เท่าแม่ให้ได้
ทุกวันนี้ลูกคุมคุณแม่ร้องเพลง?
นิโคล : เทคนิคการร้องเพลงมันไม่เหมือนกับตอนที่พี่กี้ร้องเพลง เราพยายามนะ แต่มันไม่ เหมือนกัน ความเอื้อนมันจะต่างกัน
แม่เป็นศิลปินมาก่อน มีวิธี การสอนหรือแนะแนวทางลูกยังไงบ้าง?
นิโคล : ไม่ได้มาบอกว่าอย่างนี้ ๆ นะ เพราะกี้คิดว่าประสบการณ์ แต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่ เจอไม่เหมือนกัน ตอนนี้ การทำงานของกี้กับทิกเกอร์น่าจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว เอารวมๆ ก็ทีละก้าวๆ ทำอะไรที่เราต้องทำให้ดีที่สุด แล้วผลเป็นยังไงเราก็ต้องภูมิใจในสิ่งที่ เราทำ
แต่มีงานหนึ่งที่คุณแม่ทำลูกหลงทาง คือไปตีบทให้ลูกหลงทาง?
นิโคล : ใช่ๆ เราก็มีบทเรียนของเราด้วย ก็คือเตรียมออดิชั่นหนัง บทดีจัง ผู้กำกับอยากเจอว่าทิกเกอร์เหมาะไหม ก็มีบทมาให้หน้าหนึ่ง เราก็ต้องสร้างอดีตเอง คือเราเรียนมาสร้างอดีตให้ตัวละครแน่นๆ เวลาทำอะไรมันก็จะชัดเจนอยู่ในนั้น แต่บทไม่มีอะไรเลย
แล้วพาลูกหลงทางยังไง หมายถึงตอนที่พาลูกไปออดิชั่นต่อหน้าผู้กำกับเราเล่นเกินไปเหรอ?
ทิกเกอร์ : เหมือนผมเล่นเป็นบทดราม่ามากกว่า ใช้สายตาเกินไป
นิโคล : เราผิดเอง
ทิกเกอร์ : ผู้กำกับก็บอกว่ามันไม่ต้องขนาดนั้น สบายๆ คุยกับแม่เป็นเพื่อน
หนังเรื่องแรกคือใจฟูสตอรี่ แล้วทิกเกอร์ยังเล่นละครเรื่องแรกด้วย?
ทิกเกอร์ : ครับผม เรื่องสายรุ่ง เรื่องใจฟูสตอรี่เราถ่ายไปปีที่แล้ว แล้วสายรุ่งถ่ายประมาณปีนี้
คนภายนอกมองพ่อ แม่เป็นดารา ใช้ เส้นสายดันบ้างไหมที่ผ่านมา?
นิโคล : ไม่มี ง่ายไหม
ทิกเกอร์ : ไม่ง่ายครับ
การที่เราเข้ามาด้วยตัวเอง เหนื่อย ยาก อะไรที่ยากที่สุด?
ทิกเกอร์ : ต้องพิสูจน์ให้ตัวเองและคนรอบข้างดูว่าฉันเข้ามาเอง พ่อ แม่ ไม่ได้ดัน
ภูมิใจไหม วันนี้เราทำได้แล้ว?
ทิกเกอร์ : ครับ
\r\nเรื่องความรักคุณแม่หวงไหม?
นิโคล : ไม่หวง ตอนนี้ลูกไม่มี ความรัก คือเขามีเพื่อน คือเวลาก็ไม่มี แล้วตอนนี้ทำงาน เรียน หวงไหมไม่ ห่วงไหมห่วงแต่ กี้ดูจากตั้งแต่ทิกเกอร์มีเพื่อนมา เพื่อนเขาน่ารักทุกคน เขาเป็นคนที่โลกสวยงาม เป็นเด็กใสๆ กี้ก็คิดว่าโลกเขาจะเป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆ
ผู้หญิงแบบไหน ที่เราอยากได้เป็นลูกสะใภ้?
นิโคล : ได้หมดเลย ขอให้เป็นคนดี แล้วรักลูกเราด้วยความจริงใจ
ทิกเกอร์ถ้าวันหนึ่งตะมีแฟนต้องเป็นแบบไหน?
ทิกเกอร์ : ผมไม่รู้ครับ ผมไม่ได้ติดอะไรเลยครับ
ที่โสดเพราะโฟกัสเรื่องงาน หรือเพราะแม่ยังไม่ให้มี?
ทิกเกอร์ : งานครับ
อยากให้คุณแม่มีคนมาดูแลหัวใจไหม?
ทิกเกอร์ : ได้ครับ ไม่หวง
เราอยากให้คนแบบไหนมาดูแลแม่?
ทิกเกอร์ : คนดีครับ
วันนี้ทิกเกอร์มีความลับอยากบอกคุณแม่กลางรายการ?
ทิกเกอร์ : ขอบคุณที่คุณแม่ซัพพอร์ตความฝันของผม
แม่อยากบอกอะไรลูก?
นิโคล : ภูมิใจ แล้วก็ยินดีด้วย แล้วก็รักที่สุดเลย มีลูกอยู่คนเดียว แล้วเป็นลูกที่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ลูกที่ทำให้มามี๊ ใจฟูได้ขนาดนี้
ตอนนี้เป็นห่วงอะไรซึ่งกันและกันบ้าง?
นิโคล : ตอนนี้ที่เป็นห่วงที่สุดคือเรื่องสุขภาพ เรื่องการพักผ่อน แต่ว่ามันเป็นงานอยู่ ในวงการ ทำงานตรงนี้มันก็จะเป็นแบบนี้ เวลาอะไรมามันก็ จะมาเยอะๆ แล้วมันจะมีช่วงที่เราได้พักได้อะไรก็มีเวลาพักตอนไหนก็พักให้มากๆ แต่รู้ว่ามันแทบจะไม่มีเลย สู้ๆ
ทิกเกอร์ : ผมก็เป็นห่วงสุขภาพโดยรวมเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ ทำงานหนัก เวลาว่างๆ เราก็เลยดูแลกัน
ขอบคุณ คุยแซ่บShow