มิสยูนิเวิร์สคนล่าสุดของประเทศไทย แอนนา เสืองามเอี่ยม เจ้าของแฮชแท็ก #นางงามกองขยะ ที่วันนี้จะมาเผยเรื่องราวชีวิตที่เจ้าตัวบอกเลยว่าได้ดี เพราะเป็นเด็กวัด พร้อมเผยความเชื่อ มูยังไงให้ได้มง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ, อาจารย์เป็นหนึ่ง และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ชีวิตของแอนนาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ?
แอนนา : ชีวิตที่ผ่านมาถามว่าลำบากไหม เราไม่เคยคิดว่าลำบากเลย แต่พอเราโตขึ้น ได้ฟังเรื่องราวของคนอื่นมากขึ้น มันก็เริ่มกลับมาคิดแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะว่าเราต้นทุนน้อยกว่าคนอื่น แอนนาเติ บโตมาในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะ แล้วคุณพ่อ คุณแม่ แยกทางกัน ทำให้ แอนนาอยู่กับคุณพ่อ 2 ท่าน แต่ พอคุณพ่อไปทำงาน แล้วแอนนาเป็นผู้หญิงคนเดียว คุณทวดที่เป็นแม่ชีก็เลยขอคุณพ่อให้ แอนนาไปอยู่กับคุณทวดที่วัด ทำให้แอนนาอยู่วัดมาตั้งแต่ ป.3 จน จบมหาวิทยาลัย
ตอนเด็กๆ เคยมีความอิจฉาเพื่อนไหม เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีชีวิตที่สุขสบายแล้วมาเทียบกับตัวเอง มีไหม?
แอนนา : ความรู้สึกของหนูที่มองย้อนกลับไป แอนนาไม่ได้มองว่าเป็นความน่าอิจฉาแล้วกัน แอนนา มองว่าเราเป็นแค่อารมณ์เด็กผู้หญิงทั่วไป แอนนาเชื่อว่ามนุษย์ ทุกคนอาจจะมีการมองตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบบ้างบางครั้งว่าทำไมเขาถึงมี ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกว่า ทำไม เขาถึงได้ไปเที่ยวที่ดีกว่า ทำไมเขาถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ มากกว่าเรา แต่มันเป็นแค่โมเมนต์หนึ่งเท่านั้น พอเวลาผ่านไป เรื่องเหล่านี้ก็ลืมไปมันเป็นธรรมดา และเป็นธรรมชาติ ของทุกคน แต่ไม่เคยมองแบบฝั่งใจว่าทำไมๆ
เรามีวิธีการคิดบวกตั้งแต่เด็กแล้วใช่ไหม?
แอนนา : หนูว่าใช่ด้วย อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของเราเติบโตมากับคุณทวด โตมากับวัดเราก็ เลยไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเราขาด หรืออาจจะเป็นความรักที่ทุกคนมอบให้แอนนา ไม่ว่าจะเป็นคุณทวด คุณพ่อ คุณแม่ แม้ว่าเราจะไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ความรักที่ทั้ง 3 ท่านมอบให้ไม่เคยขาดเลย ทุกคนเติมเต็มให้แอนนา เหมือนแอนนาเป็นเด็กผู้หญิงปกติคนหนึ่งเลย
ย้อนกลับไปตอนนั้นเคยมีเรื่องท้อบ้างไหม?
แอนนา : แอนนาว่าทุกคนมีเรื่องท้อหมด แอนนาเลยไม่ได้มองว่าสิ่งที่มันท้อที่สุดคืออะไร แต่ อาจจะเป็นในเรื่องของการศึกษามากกว่า เพราะว่าเป็นประเด็นที่แอนนาหยิบยกขึ้นมาพูดในเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ด้วย แอนนามองว่าการศึกษา ที่ทุกคนบอกว่าการศึกษาเป็นขั้นพื้นฐาน เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ แต่ทำไมเด็กที่มีต้นทุนน้อยกว่าถึงได้รับไม่เท่าเด็กที่มีต้นทุนมากกว่า มันเลยเป็นสิ่งที่ แอนนาอยากมาพูด อยากถ่ายทอดประสบการณ์ บางครั้งเสียงของแอนนาที่มันดังขึ้นอาจจะช่วยเหลือเด็กหลายๆ คนประสบปัญหาการศึกษา ประสบความสำเร็จได้มากกว่าแอนนา
\r\nตอนเด็กๆ เราเคยโดนล้อบ้างไหมว่าเด็กวัดๆ?
แอนนา : มีบ้าง แต่เข้าใจนะคะมันเป็นช่วงวัยเด็ก แอนนาไม่ได้ โกรธหรือว่าแค้นเขานะคะ สุดท้ายมันก็ผ่านไป ทุกคนมีสิทธิ์ที่ จะคิดแบบนั้น
เป็นเด็กวัดดีจะตาย ได้รางวัลติดตัวมาตั้งแต่เด็ก?
แอนนา : ได้มาเยอะมาก แต่ที่ได้ มาจนถึงทุกวันนี้คือสวดมนต์
ทานข้าวก้นบาตรพระด้วย?
แอนนา : ใช่ค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่ในวัดก็ เลยได้ทานข้าวก้นบาตรพระ แอนนามองว่ามันเป็นข้าวปกตินะคะอย่างน้อยมันก็ทำให้เราอิ่มท้อง ไม่ได้เป็นข้าวที่แตกต่างจากคนอื่นเลย
เคยคิดว่าตัวเองโตขึ้นอยากจะเป็นแม่ชี?
แอนนา : ใช่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมของเราด้วย ก็เลยคิดว่าบั้นปลายชีวิตเราคงไม่ต้องการอะไรแล้วแหละ นอกจากความสงบ ก็เลยตั้งเป้าหมายไว้ตอนเด็กแล้วกัน สุดท้ายเป้าหมายเราก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีเป้าหมายใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ ถามว่ายังมีความคิดแบบนั้นอยู่ไหม มีค่ะ แต่ว่าขอเต็มที่กับตรงนี้ก่อน
ถ้าทุกวันนี้คุณทวดยังอยู่มี อะไรจะขอบคุณคุณทวดไหม?
แอนนา : มีเยอะมากเลย แอนนามีทุกวันนี้ และเป็นคนที่คิดบวกแบบนี้ได้เพราะท่านเลยค่ะ ทุกอย่างที่คุณทวดสอนแอนนามา แม้หลายคนมองว่าช่วงอายุที่ห่างกัน ความคิด การสอนจะไม่ปัจจุบันหรือเปล่า แต่แอนนาอยากบอกเลยว่าทุกคำสอนที่ คุณทวดสอนแอนนามันส่งผลให้ แอนนามีทุกวันนี้ ทำให้แอนนาเป็นคนคิดบวก ให้ แอนนาประสบความสำเร็จได้รับมงกฎนี้ อยากบอกคุณทวดว่าวันนี้ หนูทำสำเร็จแล้ว แล้วทุกคำสอนที่ทวดบอกแอนนามามันทำให้ แอนนาประสบความสำเร็จ
มีคำสอนคำไหนของคุณทวดที่ เราจำได้ถึงทุกวันนี้?
แอนนา : ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น มันเป็นคำที่ทุกคนได้ยินปกติอยู่แล้ว แต่ไม่เคยอิน ซึ่งคำนี้มันเป็นคำปกติของแอนนาเหมือนกัน แต่พอเราเชื่อ และพยายามมากขึ้น มันก็สำเร็จริงๆ แอนนาอยากจะบอกทุกคนว่าสุดท้ายชีวิตเราราบรื่น แต่ความพยายามจะทำให้เราสำเร็จได้ จริง เชื่อมั่นในตัวเอง
เราได้รับตำแหน่งแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ยังทำอาชีพเดิม เราเคยขอให้คุณพ่อ คุณแม่หยุดทำงานไหม?
แอนนา : แอนนาไม่เชิงบอกให้คุณพ่อ คุณแม่เลิกทำงานเก็บขยะ กวาดขยะนะคะ เราแค่อยากให้คุณแม่ สบายมากขึ้นมากกว่า แต่ว่าเรื่องอาชีพแอนนาไม่ได้มองว่าเป็นอาชีพที่แย่อะไร สุดท้ายแล้วอาชีพที่คุณพ่อ คุณแม่ทำมันเป็นอาชีพที่ช่วยเหลือหรือมีประโยชน์ต่อสังคมทั้งนั้น ถ้าคุณพ่อ คุณแม่จะเลิกทำ อยากให้ เขาเลิกทำเพราะว่าเขาตัดสินใจเอง ไม่อยากให้เลิกทำเพราะแอนนาบอก สุดท้ายอาชีพนี้มันก็ส่งประโยชน์แก่สังคม แอนนามองว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่ ให้คุณพ่อ คุณแม่เลิกทำอาชีพนั้น ถ้าเป็นความสุขของท่านก็ยินดี ที่จะสนับสนุนต่อไปเรื่อยๆ
ล่าสุดมีคนจำคุณพ่อได้ มาขอถ่ายรูปด้วย แต่คุณพ่อจะบอกว่าไม่อยากถ่ายด้วยเลย เกรงใจ กลัวว่าตัวคุณพ่อจะเหม็นคุณพ่อทำตัวไม่ถูก?
แอนนา : หนูเข้าใจคุณพ่อเหมือนกัน โทรไปถามคุณพ่อเลยตอนเห็นข่าวนี้ คุณพ่อบอกว่าสุดท้ายแล้วเขาโอเค คือเขาไม่ได้ โกรธอะไร แต่ว่า ณ ตอนนั้นด้วยอาชีพที่เขาทำอยู่ทำให้มีกลิ่นตัว เขาก็เกรงใจมากกว่า คุณพ่อ คุณแม่ แอนนาเป็นคนที่ เกรงใจคนอื่นเยอะมาก ทำให้ แอนนาเป็นคนที่ขี้เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน แอนนาเข้าใจในมุมของคุณพ่อ แล้วพอเราอยู่ตรงนี้ เราก็เข้าใจในมุมของแฟนคลับด้วย ทุกคนอยากให้กำลังใจแอนนา อยากให้กำลังใจคุณพ่อ คุณแม่แอนนา แต่สุดท้ายแล้วอยากจะฝากบอกทุกคนที่รักแอนนาว่าบางครั้งคุณพ่อแอนนายังใหม่มากๆ ก็อยากให้เข้าใจทั้งคุณพ่อ และคุณแม่ แอนนาด้วย แต่แอนนาเข้าใจแฟนคลับทุกคนนะคะ
ตั้งแต่ก่อนประกวดจนวันที่สิ้นสุดการประกวดแอนนาเจอคุณแม่น้อยมาก?
แอนนา : ใช่ค่ะ เพราะว่าแอนนาเทรนด์หนักมากจริงๆ แต่ก็มีโอกาสได้เจอคุณแม่วันที่ 12 ที่ ผ่านมา ได้บอกคุณแม่ว่าวันนี้ หนูทำสำเร็จแล้วนะ
อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง?
แอนนา : ทุกอย่างที่แม่เชื่อ ที่คิดว่าการศึกษาจะเปลี่ยนชีวิตหนู แม่พยายามทำงานหนักเพื่อหนู วันหนึ่งตี 5 ถึง 3 ทุ่มต้องการให้ชีวิตหนูดีขึ้นวันนี้มันประสบความสำเร็จแล้ว ขอบคุณที่เหนื่อยกับหนูมา
แม่รักลูกสาวคนนี้ขนาดไหน?
แม่ : รักค่ะ รักแบบบอกไม่ถูก
แม่คิดไหมว่าลูกสาวแม่ โตมาจะสวยขนาดนี้?
แม่ : ไม่คิดค่ะ
เห็นว่าตอนประกวดน้องแอนนาถือเคล็ดด้วย โอนเงินให้คุณแม่ด้วย?
แอนนา : แอนนาโอนหมายเลขแอนนา 19 บาท แอนนาบอกแม่ว่าหนู ขอเลขบัญชีหน่อย เขาบอกจะโอนมาเท่าไหร่ไม่ต้องโอนมาเยอะมากนะ พอโอน 19 บาท บอกโอนมาทำไม
อันนี้ใครบอกเคล็ดไหม?
แอนนา : แอนนาได้ยินจากพี่ในกอง เป็นพี่ตากล้อง เห็นเราสายมู เขาบอกว่าสิ่งที่เราควรจะบูชาที่สุดคือพระในบ้านเราโอนไปเป็นเคล็ดเล็กๆ น้อยๆ ก็ เลยโอนตามหมายเลขตัวตัวเองไปเลย
คุณแม่อยากบอกอะไรน้อง?
แม่ : อยากให้ลูกตั้งใจเตรียมตัวไปต่างประเทศในการประกวดทำชัยชนะให้สุดๆ เลย ให้กลับมาเม องไทยของเรา
ตอนเราได้ตำแหน่งประโยคแรกที่ เราพูดกับคุณแม่คืออะไร?
แอนนา : เป็นประโยคธรรมดามากเลย หนูพูดว่าแม่หนูได้มงแล้วนะ แม่ บอกว่าดีใจด้วยนะ
แม่ : ตอนที่เขาประกาศได้รางวัลดีใจวิ่งรอบบ้านเลย ช่วงนั้นไม่ค่อยสบายด้วย
ตอนน้องแอนนาเด็กๆ มีช่วงหนึ่ งที่คุณแม่ไปอยู่วัดด้วยเหรอ?
แม่ : ค่ะ เพราะว่าหนูอยากอยู่ ใกล้ๆ ลูก อยากอยู่ใกล้ๆ แม่ชี ได้อยู่รวมกันแบบมีความสุข หนู ทำงานเลิกประมาณ 3 ทุ่ม ช่วงกลับมาจากโรงเรียนเขาจะอยู่กับใคร ถ้าเขาอยู่วัด อยู่กับแม่ชี ก็มีความปลอดภัย แต่เราก็เจอกันน้อย กลับ 3 ทุ่มเกือบทุกวัน
แอนนา : จะมีแค่วันเสาร์ แม่ ทำงาน 2 ที่ ก็จะเป็นช่วงที่ เราได้ทานข้าวด้วยกัน เป็นวันเสาร์ตอนเย็นวันเดียวต่ออาทิตย์
คุณแม่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณแม่เหนื่อยขนาดไหนที่เลี้ยงลูกสาวคนนี้มาเพียบพร้อมขนาดนี้?
แม่ : สนุกกับงานมากกว่า อยากจะเห็นลูกประสบความสำเร็จ ไม่อยากให้เขาเหนื่อย ถ้าเขาเรียนจบสูงๆ มันเป็นแรงบันดาลใจให้ หนูทำงานแล้วให้ลูกได้เรียนสูงๆหนูก็ดีใจแล้วค่ะ
เห็นว่าคุณแม่ให้ความสำคัญกับการศึกษามากๆ ?
แม่ : ใช่ค่ะ
ทำงานกี่อย่างค่ะ?
แม่ : ทำงาน 3 ที่ ต่อวันค่ะ กวาดถนน แม่บ้าน ตอนเย็นก็ไปทำงานอีกรอบ ตอนเช้าตี 5 เลิกเกือบบ่ายโมง ใช้เวลา 15-20 นาทีรีบกินๆ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ขับมอเตอร์ไซค์ไปเลย ต้องใช้ เวลาในความไว แล้วไปเป็นแม่บ้านเลิก 6 โมงเย็นแล้วไปต่อตอนเย็นอีกที่เข้าประมาณทุ่มกว่าๆ
อะไรที่ทำให้แม่รู้สึกว่าอยากให้ลูกคนนี้เรียนสูง ให้ความสำคัญกับการศึกษาขนาดนี้?
แม่ : อยากให้เขามีความรู้เยอะๆ การที่เขามีความรู้ติดตัวเนี่ยมันจะช่วยปรับพื้นฐานในชีวิตเขาดีขึ้น
แอนนาเรียนจบอะไรมา?
แอนนา : แอนนาเรียนจบการโรงแรมและท่องเที่ยวค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราไม่มีโอกาสได้เที่ยวกับคุณพ่อ คุณแม่เลยอย่างคุณพ่อไปได้ไกลสุดคือโรงเก็บขยะตอนเด็กๆ ที่เคยไปเที่ยวกับคุณพ่อ เราเลยคิดว่าอาชีพไหนนะที่ 1.เราได้เที่ยวด้วยแล้วเราได้เงินด้วย ก็เลยอยากเป็นแอร์โฮสเตส ก็เลยเรียนการโรงแรมและการท่องเที่ยว แต่พอจบมาโควิดเลย ก็อาจจะเป็นดวงด้วยเหมือนกัน เราเลยอยู่ ในเส้นทางการประกวดที่หนักมากขึ้น ได้รู้จักเวทีการประกวดเยอะขึ้น
ตอนนี้ลูกสาวเราได้รับตำแหน่งเป็นไอด้อลของผู้หญิงทั้งประเทศทำไมคุณแม่ยังยึดอาชีพเดิมอยู่ คนอื่นเจาคงเลิกแล้วนอนอยู่บ้านให้ลูกเลี้ยงดีกว่า?
แม่ : หนูอยากกวาดถนนไปเรื่อยๆ เพราะทำให้บ้านเมืองสะอาด ได้พัฒนาตามวัด ตามคูคลอง เวลาหนู ไปกวาดวัดหนูอธิฐานว่าขอให้ลูกได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส
หลังจากที่ลูกได้ตำแหน่ง คุณแม่ ชีวิตเปลี่ยนด้วยไหม?
แม่ : มีแต่คนทักเวลาไปตลาด เขา เรียกว่าแม่นางงาม
เวลาไปไหน คนมาขอถ่ายรูปแม่ เยอะไหม?
แม่ : หนูหลบๆ
ลูกสาวคนนี้เคยขอให้แม่หยุดทำงานบ้างไหม?
แม่ : แม่ต้องพักสักทีนะ เหนื่อยมาก แต่คุณแม่ชอบทำงาน มันสนุกดี เพราะเห็นเงินแล้วอยากจะเก็บไว้ให้แอนนาสักก้อนเวลาเราจากโลกนี้ไปแล้ว ถึงเขาจะมีแต่เราก็อยากจะให้เขา อยากเป็นฝ่ายให้มากกว่าฝ่ายรับ
คุณแม่ภูมิใจคุณลูกขนาดไหน?
แม่ : ภูมิใจมาก ไม่ทำให้แม่ผิดหวังเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การครองตัว อะไรหลายๆ อย่าง แอนนาเป็นเด็กดีมากเลย
ตอนนี้โสดหรือไม่โสด?
แอนนา : โสดค่ะ สถานะหัวใจตอนนี้ หนูมีแต่ประกวด
หนุ่มๆ มีเข้ามาจีบบ้างไหม?
แอนนา : ไม่เห็นนะคะ ไม่มี หรอกหนูว่าปกติอ่านแชทก็มีแต่คนให้กำลังใจ ไม่เชิงจีบอะไร แต่ก่อนได้มงก็มีปกติของผู้หญิง ก็มีคุยกันบ้าง แต่ว่าส่วนใหญ่ที่เราเลือกคบ เราเลือกคนที่ซัพพอร์ตเรามากกว่ารูปลักษณ์ ภายนอก
ซัพพอร์ตเรื่องไหนบ้าง?
แอนนา : ทุกเรื่องเลยค่ะ แอนนาไม่ใช่แค่สถานะแฟนเท่านั้นนะคะ ในสถานะเพื่อน แอนนาเป็นคนที่มี ปัญหาอะไรมาเราอยากเล่าให้เขาฟัง ก็อยากให้คนที่รับฟังเราคอยซัพพอร์ตเราในทุกๆ อย่างที่เราเล่าให้ฟัง เวลาเราขอคำแนะนำก็อยาก ให้เขาอยู่ช่วยให้คำแนะนำเรา แล้วมันเป็นความสัมพันธ์ที่ เราแฮปปี้ด้วยทั้งสองฝ่ายที่ไม่ได้มองแต่รูปลักษณ์ภายนอก
สเปคล่ะ?
แอนนา : เปลี่ยนไปตามเวลา ช่วงนี้ชอบแบบอาโป เรื่องคินน์ พอร์ช เข้มๆ ไทยๆ
ขอบคุณ คุยแซ่บShow