เพิ่งผ่านพ้นการขึ้นศาลไปหมากๆ ล่าสุดคุณแม่พร้อม ทนายชัยวัฒน์ โสมากุล ทนายที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ได้มาเปิดใจผ่านรายการ เปิดปากกับภาคภูมิ ทางช่องไทยรัฐทีวี ได้ตอบคำถามเรื่องดังกล่าว พร้อมเผยว่าได้ขอรถคันใหม่จาก ปอ ตุนภัทร เลิศทวีวิทย์ แล้วอีก 1 คัน ขณะที่ปอบอกว่าแค่นี้เรื่องเล็กน้อย
โดยในส่วนเรื่องค่าเยียวยา มีการคุยกันมาหลายครั้งแล้ว เจรจากันมา 5 ครั้ง เจรจากับปอ-เบิร์ต (ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์) ครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นศาล คุณแม่มีทีมทนาย คือท่านชนบทและลูกทีม 4 คน ก็นัดปอ-เบิร์ตทานข้าว จะคุยเรื่องเงินเยียวยา พอดีหัวหน้าทีมของทนาย มีคำสั่งว่าถ้าไม่ได้ 20 ล้านไม่ต้องกลับมา ตอนนั้นปอกับเบิร์ตถึงขั้นทานข้าวไม่ลง
วันนั้นก็วงแตก ฝืดมาก บรรยากาศไม่ราบรื่น ถามว่าตัวเลข 20 ล้านไม่สมเหตุสมผลตรงไหน แม่ว่าอาจกะทันหันไปสำหรับปอ เพราะเขาไม่ทันตั้งตัว อยู่กันมาเป็นลูกแม่ 6 เดือน เดือนนี้เป็นเดือนที่ 7 เราติดต่อคุยกันตลอดตามประสาแม่ลูก แต่ไม่เคยคุยเรื่องเรียกเงินสักนิดเดียว 5 ครั้งที่ผ่านมาเป็นทนายคุย วันนั้นก็วงแตก
ทนายชัยวัฒน์เผยว่า ภาพที่สะท้อนกลับมาหาคุณแม่ ได้รับแค่ 9.2 ล้านเพียงพอแล้วเหรอ เป็นการผ่อนชำระระยะยาว 20 ปี ตรงนี้ตนได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนสนิทคุณแม่ตั้งแต่เดือนมิ.ย. ดูสถานการณ์และความเป็นไปได้ในการเจรจาต่อรอง และประนีประนอม ตนถามความเห็นของคุณแม่ ว่าเจตนาจริงๆ ต้องการลงโทษจำเลย ต้องการเงิน หรือต้องการประนีประนอม ก็ต้องสอบข้อเท็จจริงตรงนั้นให้ได้ก่อน
คุณแม่เผยต่อว่า มีข้อคิดอยู่ข้อนึง ผู้ชายคนนึงแอบไปฟ้องคนในเรือ เอาเอกสารคุณแม่ไปฟ้องคนในเรือ ข้อหาเจตนาฆ่า ซึ่งมันหนัก จำคุกยาว 20 ปี คุณแม่มานั่งพิจารณาว่าไม่ได้นะ มันเกินเหตุ คุณแม่พอจะทราบว่าหลักฐานเรื่องน้องโมหล่นไปในน้ำยังไม่มีเลย หลักฐานยังไม่มีสักอย่างเดียว คุณแม่ดูแล้วไม่เข้าท่าสักเรื่องเดียว
\r\nก็คุยกับทนายว่าไม่ต้องการให้จำเลยโดนลงโทษยาวขนาดนี้ ไม่ประสงค์ให้โดนลงโทษขนาดนี้ มันมากไป ลูกเมียเขาก็มี ลูกเราก็เสียไปแล้ว ลูกเราอยู่ในเรือด้วยกัน อาจจะประมาทตกท้ายเรือ ไม่มีใครเห็น ไปปัสสาวะท้ายเรือ เกาะขาแซน ก็แซนเห็นคนเดียว คนอื่นไม่มีใครเห็นนะ แม่มองว่าเจตนาฆ่ามันแรงไป และมันยากที่จะเจอหลักฐาน ลูกเราก็อาจประมาทด้วย เพราะเขาก็ดื่มสุรากันทั้งเรือ
ถ้าจำเลยติดคุกข้อหาเจตนาฆ่าก็แรงไปที่เขาจะติดคุกเพื่อลูกเรา หรือเพื่อคุณแม่ 20 ปี แล้วคุณแม่ได้อะไร ได้สภาพจิตใจแย่มาก ที่เอาคนไปขังคุกไว้ 20 ปี แล้วครอบครัวเขาล่ะ ส่วนเรื่องความจริงคุณแม่หาเอง คุณแม่อัดคลิปไว้ทุกคืน ไม่ยอมนอน โทรศัพท์เต็มไปด้วยคลิปน้องโม มีทั้งจากบังแจ็คเยอะแยะ
ทนายเผยว่าในเมื่อคุณแม่ให้อภัยปอกับเบิร์ต คุณแม่ก็ปล่อยวาง ให้อภัยคนอื่นด้วย ก็ให้ทนายดำเนินกระบวนการต่างๆ ได้ทันที ก็มีการเจรจากับปอ วันแรกที่คุย บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดีเพราะนำเจตนาคุณแม่ไปบอกคุณปอ เหมือนเป็นแม่ลูกกันมาก่อน ไม่ต้องการให้จำเลยได้รับโทษคุมขังหรือต้องโทษ ก็เป็นไปได้ให้คุณแม่ลดตัวเลขลงมาที่ 9.2 ล้าน มีการชำระเพิ่มเติม 240 เดือน ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ณ ปัจจุบันศาลท่านยังไม่ได้มีพิพากษาตามยอม ที่ลดตัวเลขเพื่อให้คุณปอมีกำลังที่จะจ่าย ทางคุณแม่พอใจ
เมื่อคุณแม่ไม่อยากให้เขาติดคุก ก็เลยลดตัวเลขลงมา คุณแม่ให้อภัย มีการดูแลกันตั้งแต่ต้น คุณปอกับคุณโรเบิร์ต มีการอุปการะคุณแม่ตั้งแต่เริ่มต้น ตลอดเวลา ดังนั้นเงิน 9.2 ล้านไม่ใช่ที่ยอดนี้ เกินแน่นอน
แม่ภนิดาเผยต่อว่า เงินสด 2 ล้าน เป็นแคชเชียร์เช็คเข้าไปแล้ว เงินประจำเดือน เดือนละ 3 หมื่น 20 ปี ที่ตัดสินใจแบบนี้ กับปอคุยกันตลอด แม้แต่การจ่ายเงินก็จ่ายต่อหน้าศาล ก้อนนี้ที่รับมา คุณชัยวัฒน์ มีเอกสารให้คุณปอเซ็น ว่าถ้าอนาคตคุณแม่อยากได้อะไร อยากทำอะไร ให้บอกเลย เดี๋ยวจัดการให้ทุกอย่าง
ถ้ามีการร้องขอ ไม่รวมยอดเงิน 9.2 ล้าน อยากได้อะไรเพิ่มขอให้บอกปอ ลงเป็นบันทึก มีลายเซ็น เช่นแม่อยากได้รถใหม่ เดี๋ยวเขาก็ซื้อให้ แม่ก็บอกเขาแล้ว (หัวเราะ) ปอก็บอกว่าเล็กน้อย เพราะรถราคาไม่มาก คุณแม่อยากเปลี่ยนรถใหม่ รถโตโยต้า รุ่นล่าสุด เล็งมานานแล้ว อยากเปลี่ยนรถใหม่ บอกปอไปแล้ว เพราะรถน้องโมใหญ่ไปสำหรับแม่ ทุกวันนี้คุณแม่ใช้รถน้องโม แต่ขับไม่ค่อยถนัด อยากได้รถใหม่ ปอบอกเล็กน้อย ไม่รวมกับ 9.2 ล้าน
ส่วนต่างหูมุก แซนมากระซิบบอกว่าคุณแม่ขา เดี๋ยวแซนมีของขวัญให้คุณแม่ คุณแม่ก็แปลกใจ เขาบอกว่าเดี๋ยวรอแป๊บนึง กำลังเดินทางมา แล้วเขาก็มายื่นถุงให้คุณแม่ ต่างหูนี้ราคาครึ่งแสน เป็นของแซนคนเดียว
ส่วนที่คนตั้งคำถามว่าคุณแม่เห็นเขาให้แบบนั้นแบบนี้ ดูแลแบบนั้นแบบนี้ เลยลืมคดีลูกสาวหรือเปล่า ที่จะหาความจริง ปลายทางศาลตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด แม่ลืมหรือเปล่า แม่ไม่เคยลืม แต่เรามีคนทำให้แล้ว คือตร. อัยการ ศาล ทนาย เขาทำให้เรา ถ้าคุณแม่ไปทำ ไปทำอะไร กระโดดน้ำหาลูกเหรอ หรือไปยุ่งวุ่นวายเหรอ ก็คิดนะว่าที่พูดๆ ว่าเราจะให้คุณแม่ไปกระโดดหาลูกหรือยังไง ในส่วนของคุณแม่ คุยเรื่องเขาชดใช้ค่าเสียหายก็เป็นสิทธิของคุณแม่
มีคนบอกว่าลูกสาวมีค่าแค่เงิน 9.2 ล้านเหรอ คุณแม่ได้ยินเยอะแยะ ค่าชีวิตลูกมีแค่นี้เหรอ คุณแม่บอกว่าค่าชีวิตของใครก็ตาม ซื้อไม่ได้ด้วยเงินเท่าไหร่ ค่าชีวิตมันประเมินไม่ได้ ส่วนที่เป็นเงินเยียวยาเท่านั้น เพราะเขามีกำลังเท่านั้น ในขณะนั้น แล้วจะให้คุณแม่ไปบี้ ไปหามา 20-30 ล้านเดี๋ยวนี้ มันทำไม่ได้ เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราก็จ่ายเงินกันต่อหน้าศาล เซ็นเอกสาร รับเรียบร้อยต่อหน้าศาล
คุณแม่ไม่ได้ทิ้งในการตามหาความยุติธรรม ตราบใดคดีไม่ถึงที่สุด ศาลก็ไม่ได้พิพากษา การสืบหาพยานเพิ่มเติม ถ้ามีพลเมืองดี หรือมีข้อมูลใหม่ๆ ว่าน้องโดนกระทำโดยเจตนา หรือฆาตกรรม ก็มีสิทธิ์หยิบยกคดีขึ้นฟ้องได้ ตอนนี้ศาลไม่ได้พิพากษาตามยอม ตามที่เราประนีประนอมกัน แต่เหมือนให้ชดใช้ไปก่อนในก้อนแรก
ตอนนี้แม่ก็ให้อภัยทุกคน กระติก ก็ได้เจอ เขาก็น่ารักขึ้น พูดเพราะขึ้น เขาบอกว่าแม่สวยจัง ไปทำอะไรมา แม่ก็บอกว่ากระติกก็สวย ชมกันไปชมกันมา จริงๆ กระติกไม่ได้มีอะไรทะเลาะกับคุณแม่ ไปบ้านน้องโมก็เจอกระติกตลอด ไม่ได้มีปัญหา แต่เขามีปัญหากับน้องโมกันเอง เขาไม่ได้ให้กระติกเป็นผู้จัดการส่วนตัวแล้วก่อนเกิดเหตุ แต่กับคุณแม่ไม่มีอะไรกัน วันนี้ก็ไม่ติดใจ
ส่วนที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อวยพรว่าขอให้อยู่ถึง 20 ปี รับเดือนละ 3 หมื่น เดี๋ยวจากนี้จะไปคุยกับปอ เป็น 5 หมื่น ให้ระยะเวลาลดลงได้ ต่อรองได้ตลอด ส่วนเรื่องรถ ปอเขาขายรถอยู่แล้ว ทุกยี่ห้อเขามีหมด เขาจะเชิญคุณแม่เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย จะไปช่วยเขาขายด้วย
ส่วนที่หมอดูหญิงชายด่าแม่เยอะแยะ ไม่เครียดแล้ว เพราะไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนที่เขาพูด หมอดูบอกว่าคุณแม่ป่วยหนักตอนนี้อยู่รพ. คุณแม่ก็คอมเมนต์ทันทีว่าดิฉันไม่ได้ป่วย กำลังดูคุณอยู่ด้วย และกับคำว่าไม่รักลูก เขาคงคิดของเขาเอง แม่ไม่รักลูกไม่มี ไม่มีใครไม่รักลูกตัวเอง ตอนนี้วางแผนจะทำบุญให้น้อง ตั้งมูลนิธิให้น้องแตงโม แม่เป็นประธาน ปอเป็นรองประธาน
ขอบคุณ เปิดปากกับภาคภูมิ