เปิดตัวเป็นแขกรับเชิญคนแรกของ ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ในรายการใหม่ TurningPoint งานนี้ปุ๊กลุกเปิดไมค์ถาม ไมค์ ภัทรเดช เปิดใจเล่า จนถึงกับหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว เพราะชีวิตก่อนจะได้มาเป็นพระเอกของไมค์ ภัทรเดชนั้นไม่ง่าย
ไมค์ได้เล่าถึงชีวิตของเขาก่อนเข้าวงการว่า จริง ๆ แล้วตนเป็นคนขี้อาย แต่ช่วงที่เรียน ม.4 มีโอกาสได้ไปร่วมประกวดรายการดัชชี่บอย ผลการแข่งขันปรากฏว่าหนุ่มไมค์สามารถครองอันดับที่ 1 ของภาคอีสาน จนได้มาประกวดต่อที่กรุงเทพและได้รางวัลอันดับที่ 3 จนเกือบจะได้ก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัวแล้ว แต่กลับไปเจอเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเสียก่อน
หนุ่มไมค์เปิดใจว่าคนที่พาเขามาประกวดรายการดัชชี่ ซึ่งเป็นพี่น้องที่รู้จักกัน อยู่ ๆ กลับยื่นข้อเสนอว่าจะพาเข้าวงการหากไมค์ยอมให้เขากินหรือมีอะไรด้วยก่อน ไมค์ไม่สามารถรับได้กับข้อเสนอนี้ จึงตัดสินใจตัดขาดกับพี่คนนี้ หันหลังให้วงการบันเทิงและกลับไปเรียนหนังสือตามเดิม
ไมค์เปิดใจต่อว่าเดิมทีบ้านของตนค่อนข้างมีฐานะ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเนื่องจากที่บ้านทำธุรกิจขายอะไหล่แต่งรถมอเตอร์ไซค์ แต่ช่วงหนึ่งที่ไปเรียนไปที่ประเทศจีน ไมค์รู้สึกผิดสังเกตเนื่องจากปกติแม่จะโอนเงินให้ทันทีที่ติดต่อมา แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น หนุ่มไมค์จึงถามจนได้ความว่าแม่ของตนเพิ่งหย่ากับพ่อ ล้มละลายและไม่มีเงิน
หลังจากนั้นไมค์ ภัทรเดชจึงตั้งเป้าหมายว่าเขาจะต้องดูแลแม่ให้ได้ โดยไมค์สอบได้ทุนที่ประเทศจีน ก่อนจะกลับมาที่ประเทศไทยและได้พบกับโอกาสเพื่อจะได้เข้าวงการบันเทิงอีกครั้ง
ฝันร้ายยังไม่จบไป เมื่อหนุ่มไมค์ต้องเจอกับเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม เขาถูกผู้จัดการดาราคนหนึ่งหลอกขึ้นห้องในโรงแรม พร้อมข้ออ้างว่าให้ถอดเสื้อและกางเกงเพื่อดูหุ่นก่อนจะตัดสินใจว่าจะรับเป็นดาราหรือไม่ พร้อมบอกให้ขึ้นไปนั่งบนเตียง
\r\nเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ไมค์ถึงกับเอ่ยปากว่า รู้สึกอยากต่อยหน้าตนเองที่ตอนนั้นอยากเป็นดารา จนถึงกับทำตามคำบอก แต่โชคดีที่ไมค์มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ทำตามทั้งหมด เขาจึงเอ่ยปากถามว่าทุกคนที่เป็นดาราจะต้องทำแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งผู้จัดการดาราคนนั้นก็บอกกับไมค์ว่าแล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละคน
ครั้งนี้ไมค์จึงตัดสินใจเด็ดขาดอีกครั้งว่าเขาไม่ต้องการเป็นดาราแล้ว และกลับมาเรียนต่อจริงจังเพื่อจะไปทำธุรกิจ จนกระทั่งช่วงเรียนอยู่ปี 4 ไมค์ได้ไปฝึกงานให้กับโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง โดยมีคนเอ่ยปากว่าอยากปั้นไมค์ให้เป็นดารา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าก็ยังคงทำให้เขารู้สึกกลัว แต่ที่สุดแล้วเขาก็อยากจะลองอีกสักครั้ง
ในที่สุดไมค์จึงตัดสินใจที่จะเข้ามาเป็นดารา แทนที่จะทำงานได้เงินเดือน 30,000 บาทต่อเดือน โดยไมค์เล่าเหตุผลว่าเขาเติบโตที่ขอนแก่น ซึ่งตอนนั้นไมค์คิดว่า โตโน่ ณเดชน์ มิน พีชญา อาร์ตี้ เวียร์ ศุกลวัฒน์ทำได้ เขาก็ทำได้
ผ่านไป 3 ปี ไมค์ยังคงไม่ได้ดูแลแม่ตามที่ตั้งใจไว้ เขาได้ทำแต่งานเดินแบบ รวมถึงถ่ายละครเพียงเรื่องเดียว โดยได้ค่าตัวตอนละ 8,000 บาท รายได้ที่เข้ามาหมดไปกับค่าใช้จ่าย รถยนต์ น้ำมัน ขณะเดียวกันเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันกับไมค์กลับมีรายได้มั่นคง มีชีวิตที่ดี ทำให้เขากดดันว่าตนเองคิดผิดหรือไม่ที่เลือกจะเป็นดารา
ไมค์เผยต่อว่า มีโอกาสได้ไปเรียนกับครูเงาะ ทำให้ตนได้รับมุมมองที่ดีขึ้น จนสามารถกลับมาทำงานและมีเงินเก็บได้ คนแรกที่ไมค์คิดถึงก็คือแม่ของเขานั่นเอง ไมค์จึงตัดสินใจซื้อคอนโดและรับแม่มาอยู่ด้วย หนุ่มไมค์ยังเอ่ยปากขอบคุณพี่กบ ผู้จัดการของไมค์ที่คอยช่วยเหลือเขาตลอดเรื่องการเงิน
ก่อนที่ไมค์จะเริ่มหลั่งน้ำตา เมื่อเผยว่าตนเคยคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกว่าตนใช้ชีวิตไปวัน ๆ ได้ถ่ายละครเพียงเรื่องเดียว กลับมากินเหล้าเกือบทุกวัน แต่คนที่ทำให้ไมค์ยังอดทนสู้ก็คือแม่ของเขา นอกจากนี้ไมค์ยังเผยอีกว่าปุ๊กลุกก็คือคนที่คอยเตือนสติ และฉุดให้เขาลุกขึ้นมาใช้ชีวิตอีกครั้ง ซึ่งปุ๊กลุกก็เผยว่าไมค์เองก็เคยทำให้ตนกลับมามีไฟอีกครั้งเช่นกัน
ขอบคุณ Fonthip Watcharatrakul และ mike_pattaradet