เพจดังถามจี้ "ไบรท์ วชิรวิชญ์" ซื่อสัตย์กับตัวเองแค่ไหน? วอนทุกคนเปิดใจลองมองข้อเท็จจริง!

หลังจากที่นักแสดงดังอย่าง "ไบร์ท วชิรวิชญ์" ได้ออกมาเปิดใจว่าตนเองก็เป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ Forex-3D คนหนึ่งที่สูญเงินแสนเพราะความโลภบังตา และยืนยันไม่ได้ชักชวนใคร

ล่าสุดเพจดัง "รวบรวมผู้โดนโกง จาก Forex-3d" ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับหนุ่มไบรท์ว่า

"Special 3 แล้วไบร์ท คืนทุนรึยัง? นักลงทุน Forex 3D ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่?

เขียนบทความน่าเบื่อๆ มา 2 โพสต์ เพื่อมาตอบคำถามเนี้ยเนี่ยแหละ

จากบทสัมภาษณ์ของคุณไบร์ท มีประเด็นที่สามารถเอามาประเมิน ข้อเท็จจริงในการลงทุนได้ดังนี้

1. เห็นพี่ๆเล่นอยู่ปีนึง แล้วได้มาตลอด แล้วจึงค่อยลง

2. เงินลงทุนก้อนแรก อยู่ที่ 50,000

3. เอาเงินที่ทำงานได้ ฝากทบเข้าไปเรื่อยๆ

4. มีเอาเงินประกันของแม่ก้อนใหญ่มาลงเพิ่มด้วย

CEO เริ่มเปิด Forex 3D ช่วงกลางปี 2015

ผมจะสมมติให้เลยละกันว่า น้องเริ่มลงทุน กันยายน 2016(เผื่อให้ 1 ปีกว่าเลย จริงๆ ผมว่า น้องน่าจะลงเร็วกว่านั้นด้วยซ้ำ)

ในตารางด้านล่างจะมีการคำนวนให้หมด ว่าน้อง ได้ "ปันผล" เท่าไหร่จากการลงทุน

ในตาราง จะมี ผลตอบแทน คอลัมน์ที่ 2 ผลตอบแทนในที่นี้ คือ ผลตอบแทนต่อเดือนที่ Forex 3d ทำได้ ก่อนหักค่าดำเนินการ(60:40)

คอลัมน์ที่ 3 คือส่วนแบ่งที่ นักลงทุนจะได้ จัดตามระบบคลาส (เขียนไว้แล้วใน โพสต์ที่แล้ว)

คอลัมน์ที่ 4 คือ เอาส่วนแบ่ง% x ผลตอบแทน ของ forex 3d จะได้เป็น ผลตอบแทนจริง ของนักลงทุน

คอลัมน์ scenario 1 , scenario 2 , scenario 3 คือ วิธีการใส่เงินในรูปแบบต่างๆ ของไบร์ท(ถ้าให้ผมประมาณการอะนะ)

คอลัมน์ ปันผล 1 , ปันผล 2 , ปันผล 3 คือ ปันผล ที่ได้ จากแต่ละสถานการณ์การลงทุนของไบร์ท เช่นกัน

โดนปันผลที่เกิดขึ้น เกิดจาก เอา ผลตอบแทนจริง(คอลัมน์ 4) x เงินต้น(ใน scenario ต่าง)

เอาละ มาอธิบายเรื่อง scenario กัน

เรารู้ว่า ไบร์ท เริ่มลง ทุน 50,000 และเพิ่มทุนไปเรื่อยๆ จนจบที่ 755,000 บาท

ระยะเวลาในการลงทุน ประมาณ 30 เดือน

scenario 1 เป็นการคาดการณ์ แบบ "กลางๆ" คือ ไบร์ท ค่อยๆทยอยเพิ่มเงินลงทุนไปเรื่อยๆ เดือนละ 25,000 บาท จนถึง 755,000 บาท ในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 พอดี (สัดส่วน อัพเกรด คลาสต้องมาปรับตอนเดือน กพ 2019 แต่ส่วนต่างนี้เล็กน้อยผมขี้เกียจปรับล่ะ)

ถ้าค่อยๆทยอยลงเงินแบบนี้

เมื่อดูปันผลที่ ไบร์ท จะได้ ตลอด ระยะเวลาการลงทุน จะเป็นเงินประมาณ 1.36 ล้านบาท ซึ่งเกินต้นทุน 755,000 บาท ไปไกลมาก

Scenario 2 คือ สถานการณ์แบบ "เอาใจ FC ไบร์ท"

ที่ ลงเงิน 50,000 บาท แล้วไม่เพิ่มทุนเลย จน เมื่อครบ 2 ปี ในเดือน กันยายน 2018 ไบร์ท เอาเงินประกันแม่ มา All in ทีเดียว 755,000 บาท

ในรูปแบบ scenario 2 Bright ก็ยังได้รับปันผลรวม เป็นเงิน ประมาณ 660,000 บาท ซึ่ง "น้อยกว่า" ต้นทุนเงิน 755,000 บาท ที่ไบร์ท ลงทุนไปทั้งหมด ประมาณ 100,000 บาท

แต่ FC ไบร์ท อย่าเพิ่งเฮนะ ที่ไบร์ท ขาดทุนจาก Forex 3D

เพราะรายได้ปันผล ตรงนี้ยังไม่รวม กำไรจาก "ค่าแนะนำ" ที่ไบร์ท ได้ผ่านดาวน์ไลน์อีก 3 ขั้น (ดาวน์ไลน์ไบร์ท ไม่ได้มีแค่ แม่ กับเพื่อนสนิท แค่ 2 คนนะครับ มีคนอื่นอีกด้วย)

ส่วนค่าแนะนำไบร์ทจะได้เท่าไหร่ เดี๋ยวผมมาเล่า ต่อ ep ถัดไป

Scenario 3 คือสถานการณ์ที่ ผมคิดว่า น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด (จากบทสัมภาษณ์หลายๆอันของไบร์ทเองด้วย)

ไบร์ท น่าจะเอาเงินรายได้ ทั้งหมด ลงทุนใน Forex 3D ตั้งแต่ต้นๆ และ ให้แม่เอาเงินประกันใส่ไปด้วยอีก

ใน scenario 3 นี้ ไบร์ทน่าจะมีเงินลงทุน ถึง 775,000 บาท ในช่วงกลาง ปี 2017

และถ้ามาดูปันผล ทั้งหมดที่ไบร์ทได้ ไบร์ทจะได้เงินไปประมาณ 1.9 ล้านบาท เรียกได้ว่าเกินทุน 775,000 บาทไปไกลโข

และขอย้ำอีกครั้งว่า ไอ้ 1.9 ล้านบาทนี้ ยังไม่รวมรายได้จากการแนะนำ อีก "ก้อนหนึ่ง" ด้วย

สำหรับผมนะ

- ไบร์ท ไม่ผิดเลย ที่ได้กำไรเกินทุน ก็น้องมันลงทุนมานาน จะได้คืนหมดแล้วก็ไม่แปลก

- ไบร์ท ไม่ผิดเลย ที่แนะนำเพื่อน หรือคนรอบข้าง (ก็ไบร์ทไม่รู้จริงๆ ว่ามันคือแชร์ลูกโซ่)

- ไบร์ ไม่ผิดเลย ที่ไม่ออกมาแจ้งความ เพราะไบร์ท ได้กำไรเกินทุนแล้ว แถม คนรอบตัวไบร์ท ก็ ไม่มีใครเสียหาย ไบร์ทจะไปแจ้งความทำไม

- ไอ้ข้อความ ไบร์ทจะเป็นกระบอกเสียง ผมก็เฉยๆนะ มัน ก็แค่ข้อความ pr stunt ของดาราทั่วๆไป คนทั่วไปจะไปคาดหวัง ว่าไบร์ทจะเป็นคนดีของสังคม แบบ ที่ FC ไบร์ทคิด ก็ไม่ใช่เรื่อง

- และไบร์ท ก็ไม่ผิดด้วย ที่จะยืนกระต่ายขาเดียวที่ บอกว่าไบร์ทผู้เสียหาย ก็ไบร์ทสะดวกอย่างนี้อะ (ไบร์ทคงคิดว่าพวกคนทั่วไป จะมาเสือกอะไรกับแถลงการณ์ของกู ตอนกูลงกูยืมเงินพวกมึงมาใช้มั้ง?)