วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2567
SHARE

“อนุวัต เฟื่องทองแดง” โร่แจ้งความ หลังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ-หลอกปล่อยกู้

โพสต์โดย เพลิงไร้ควัน เมื่อ 26 มกราคม 2566 - 17:47

เวลา 09.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนายอนุวัต เฟื่องทองแดง ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เจ้าของฉายา "อนุวัตจัดให้" เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จากกรณีถูกแก๊งคอลเซนเตอร์นำรูปภาพและวีดีโอไปใช้ในการหลอกเพื่อกู้ยืมเงินสินเชื่อออนไลน์ ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อหลายร้อยคน สร้างความเสียหายต่อหน้าที่การงานและชื่อเสียง แต่เนื่องจากพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญา ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิต ผบก.ตอท. เป็นผู้รับเรื่องแทน

นายอนุวัต กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางตำรวจไซเบอร์ เนื่องจากมีกลุ่มมิจฉาชีพ นำคลิป และภาพถ่ายที่ตนเคยเป็นพรีเซนเตอร์ สินเชื่อให้กับบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกกฎหมายใช้ชื่อ "เงินไชโย" แต่ของมิจฉาชีพใช้ชื่อ" ชโย แคปปิตอล" แต่กลุ่มมิจฉาชีพนำภาพกับคลิปไปตัดต่อเปลี่ยนชื่อที่ใกล้เคียง ทำให้คนหลงเชื่อ เข้าไปติดต่อขอกู้สินเชื่อ พอเหยื่อตายใจโอนเงินไปให้ ก็จะทำที่มีทีมงานติดต่อเข้ามาทั้งทีมรับเรื่อง ทีมสินเชื่อ มีการขอสำเนา เอกสารต่างๆ เหมือนกับบริษัทสินเชื่อ จากนั้นจะมีการแจ้งว่าได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะหลอกล่อให้เหยื่อโอนเงินเพื่อประกันเงินกู้ หรือมีการโอนเงินไปผิดบัญชีให้มีการโอนใหม่ หรือไม่ก็จะออกอุบายว่าไม่ได้ทำการยืนยันตัวตน ให้โอนเงินมาเพื่อยืนยันตัวตน หรือระบบมีการล็อกอยู่ ให้โอนเงินเพื่อปลดล็อก หรือออกอุบายว่าบัญชีของท่านเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ให้โอนเงินมาเพื่อล้างบัญชีเป็นต้น ซึ่งทุกอย่างเป็นการคุยผ่านทางออนไลน์ ไม่ได้เจอตัวตนจริง ทั้งนี้มีผู้เสียหายนับ 100 คน มูลค่าความเสียหายต่อคนตั้งแต่หลัก 1,000-1 ล้านกว่าบาท

โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งการแอบอ้างตนในลักษณะนี้ทำให้คนหลงเชื่อจำนวนมาก หลายคนที่ไหวตัวทันก็ไม่โอน หลายคนที่ไหวตัวไม่ทันโอนไปแล้วก็ทักมาหาตนในช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก ตอนแรกๆ ก็ไล่ตอบทีละคน แต่ตอนนี้มันเยอะขึ้นจนตอบไม่ไหวแล้วจึงต้องออกมาแจ้งความ ซึ่งในตอนแรกตนตั้งใจที่จะช่วยคนที่เดือดร้อน แต่ตอนนี้กลับกลายว่าเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ทำมาหากินหลอกเหยื่อ ทำให้ตนรู้สึกอึดอัด และเกรงว่าจะมีผู้เสียหายเยอะว่านี้จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ และให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดให้ได้ ซึ่งหลังจากนี้อาจจะต้องระวังเรื่องการอ่านข่าวที่เกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ มากขึ้น หรืออาจจะไม่อ่านข่าวในลักษณะนี้อีก และได้นำคลิปมาเปิดเปรียบเทียบคลิปจริงและคลิปที่มิจฉาชีพตัดต่อโชว์ต่อสื่อมวลชน

ขณะที่ ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับใครที่ถูกหลอกให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนวันนี้มาร้องทุกข์กล่าวโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ความผิดเกี่ยวกับการตัดต่อภาพ และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องการร้องขอคือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นเว็บไซต์ ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นอกจากนี้ยังอยากให้ธนาคารเข้ามาแจ้งความเป็นผู้เสียหายด้วย เพราะถ้าธนาคารมาเองเรื่องจะเร็วมากยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่ามาตรการทางด้านการเงินเราอ่อนแอ โอนเข้าปุ๊บก็มีการโอนต่อยักย้ายถ่ายเทไปเป็นสกุลเงินอื่นได้อย่างรวดเร็ว ยากต่อการติดตาม

\r\n

ขอบคุณภาพ : anuwat4949



แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com