เรียกได้ว่าเริ่มต้นปีไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ หลังเจอดราม่าชาวเน็ตขุดวีรกรรมสมัยเด็กปมเคยบูลลี่เพื่อน จนล่าสุด “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า…
แจงยื่นฟ้องรุ่นพี่สร้างแชตปลอมใส่ร้าย แต่จบที่ไกล่เกลี่ย
“กรณีเดียวครับ ตามที่แจ้งไปคือมันเป็นเรื่องที่เขามาพูดถึงเราในตอนเรียน ซึ่งเราก็มีการตรวจสอบ จริงๆ ผมโทร.ไปคุยกับเขาเอง เพราะเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนผม ก็มีการคุยถามเคลียร์ใจกัน เริ่มแรกเลยเราก็คุยกันแบบคนกันเองนะ จริงๆ ผมไม่รู้จักเขา แต่เขาเรียนโรงเรียนเดียวกับผม ซึ่งเขาบอกว่าโอเค ผมไม่ได้ติดใจอะไร แต่เราก็บอกว่าอาจจะต้องให้พี่โพสต์ขอโทษหน่อยนะ เพราะว่าหนึ่งคือผมก็จำไม่ได้ เขาก็จำไม่ได้ เราไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้ สุดท้ายผมก็เลยให้เขาติดต่อบุคคลที่สามที่เขากล่าวถึง เขาก็ไปทำแชตปลอมมา แต่เราจับได้ เราก็รู้สึกว่าพอไม่ได้โปร่งใสที่จะคุยกัน
จริงๆ การฟ้องเป็นเหมือนการป้องกันตัวมากกว่า เราก็รักษาสิทธิ์ว่าถ้าเราไว้ใจเขาไม่ได้ เราขอดำเนินการไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นสู่ชั้นศาลครับ แต่เขาก็หยุดแล้วครับ จริงๆ เขาโพสต์ขอโทษเรียบร้อยแล้ว อันนี้ก็เป็นเรื่องไกล่เกลี่ยกันมากกว่า
ความรู้สึกก็ดีขึ้นนะครับ ไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องนี้ขนาดนั้น แต่พอดีเขาดันไปกล่าวอ้างอีกคนหนึ่ง ซึ่งอีกคนหนึ่งผมดันรู้จักเขา เขาก็เลยออกมาเล่าในมุมเขา ผมก็ไม่ได้ติดใจ แต่ในมุมหนึ่งผมก็สงสารเขาด้วย หลังจากฟ้องไปก็ยังไม่ได้ติดต่อเลย ได้เคลียร์แล้วก็สบายใจขึ้นนะครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบมีเรื่องคดีความ มันคาใจนิดหนึ่ง แต่ก็ทำดีที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องฟ้องไปแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่เคยไปถึงขั้นนั้นเลย จะจบที่ไกล่เกลี่ย”
แจงโดนขุดอดีต บางเคสทำจริง ก็ยอมรับ ไปต่อ และขอโทษ อดีตกับปัจจุบันไม่เหมือนกัน เติบโตขึ้น
“พอเราใช้ชีวิตไป ในบางเรื่องที่เราได้รับการ educate มากขึ้น หรือสังคมได้รับการ educate มากขึ้น เราก็มีจุดด่างพร้อยกันหมดแหละ ผมก็มีข้อผิดพลาดมากมายในชีวิตที่ผ่านมา มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ แล้วในฐานะของคนคนหนึ่ง ถ้าเราทำจริง แล้วในวันนี้มันถูก educate ว่าสิ่งนี้มันไม่เหมาะสม มันเข้าใจได้ และก็ยอมรับได้ ก็ยอมรับว่าเราเป็นยังไงในวันนั้น แล้ววันนี้เราเป็นยังไง เราเปลี่ยนไปยังไง ปรับปรุงตัวเองยังไง ข้อดีคือมันสะท้อนสังคมให้เห็นว่าสิ่งนี้มันไม่ดี แล้วมันเป็นสิ่งที่เราก็เคยทำ แต่ในวันนี้เราทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ เราเติบโตมาและเราก็ขอโทษ ที่ในวันนั้นเราอาจจะไม่ได้เข้าใจมันดีขนาดนั้น
\r\nสภาพจิตใจก็ได้อยู่ครับ ไปเรื่อยๆ เพราะว่าเราทำจริงๆ หมายถึงว่าในบางเคส เราก็ยอมรับและเราก็ไปต่อ เราก็ขอโทษ ผมว่ามันเข้าใจได้ ในวันนั้นกับในวันนี้มันไม่เหมือนกัน ก็เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันในวงการด้วยครับ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยชิน เรื่องบางเรื่องมันผ่านมานานแล้ว แต่ถ้ามันจริงเราก็ต้องยอมรับว่ามันจริง ความจริงก็คือความจริง”
ขอบคุณภาพ : bbillkin