งานเข้าอิแม่อีกล้าวววว! เรียกได้ว่าที่ผ่านมาโดนโยงปมดราม่ามาโดยตลอดแต่ยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการสักทีสำหรับ หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ ผู้จัดละคร เจ้าของตำแหน่งร้ายซุปตาร์ระดับแถวหน้าของวงการ
ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้มีโอกาสออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก กลางรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ในทุกๆ ประเด็นร้อน ทั้งข่าวลือขาเตียงหักสามีมีบ้านเล็ก? ไปจนถึงกรณีถูกโยง ใช้อิทธิพลเส้นใหญ่กันซีน เจมี่ บูเฮอร์ จนต้องจบอาชีพนักแสดง? โดย หนิง ปณิตา ได้ไขข้อข้องใจให้เราฟังว่า...
ถูกโยงว่าเป็น นางร้ายหน้าเหวี่ยง หอบเสื้อผ้าออกจากบ้านสามี ?
"ไม่ใช่หนู แต่ว่าเมื่อวานหนูไปงานอีเวนต์ แล้วคราวนี้หนูก็ไม่เคยเห็น แต่ก่อนนักข่าวจะมาสัมภาษณ์เอาข่าวนี้มาให้ดู เรายังตกใจเลยว่าเป็นใคร พอนักข่าวบอกว่าเป็นเรา เราก็ตกใจ เพราะปกติเราชอบโดนใช้ฉายาว่านางร้าย เราเลยบอกว่าไม่ใช่ เพราะทุกวันนี้ก็ยังอยู่บ้านสามี ตอนนักข่าวสัมภาษณ์ถึงเรื่องครอบครัว เราก็ตอบอย่างที่เคยตอบ
ซึ่งเราต้องทำใจว่าชีวิตที่เกิดมาเป็นผู้หญิง เอาเป็นว่าน้อยมากที่จะไม่เจอเรื่องคบซ้อนหรือเจ้าชู้ คือบางทีเราอย่าไปมองแค่ภาพในอินสตาแกรมที่หลายคนสร้าง"
พักหลังไม่ลงรูปสามี ?
"ที่ไม่ลงรูปเพราะไม่ค่อยได้ลงรูปอยู่แล้ว สังเกตว่าถ้ารูปไหนที่ไม่สวยหนูก็ไม่ลง หนูจะลงเฉพาะรูปที่คิดว่าได้แล้ว มันสวย หรือว่าตลกแล้ว มันเยินไปเลยถึงจะลง ประกอบด้วยว่าช่วงโควิดที่เราอยู่ด้วยกันบ่อยก็เลยลงรูปถี่ แต่พอกลับมาทำงานค้างเยอะๆ มันก็ไม่ว่างที่จะต้องมานั่งลงรูป"
ถ้ามีบ้านเล็กจริงเราจะทำยังไง ?
"ก็ทำเหมือน ธัญญ่า ไงค่ะ เพราะเขาเป็นประธานชมรม อยู่หมู่บ้านเดียวกันมีอะไรเราก็โทรหากันได้ เหมือนกับมีเขาเป็นไอดอล เพราะกรณีตัวอย่างอย่างที่เราพูดไปว่าน้อยคนที่จะไม่เจอเรื่องราวเหล่านี้อยู่ที่ว่าจะรับมือยังไง ซึ่งน่าจะต้องเจอเรื่องราวเหล่านี้จริงๆ อย่าไปพยายามต้องเลิก หรือบังคับทำให้เราไม่มีความสุข ถ้าตราบใดเขายังอยากที่จะมี ถ้าใจเขาจะไป เขาก็ไป เพราะสุดท้ายทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา"
พูดถึงประเด็น เจมี่ บูเฮอร์ ที่เราก็โดนโยงด้วยเหมือนกัน ?
"ในเรื่องที่เราถูกโยง มันเกิดจากที่วันนั้นเราไปเข้าห้องน้ำปั๊มน้ำมันตอน ตี 5 ซึ่งเราจะไปเข้าห้องน้ำห้องไหนเขาก็ดักเราไม่ให้เข้าไป แล้วมาด่าเราว่าเราเป็นดาราจะไปแกล้งเขา เดี๋ยวเขาจะแฉเราแค่นั้นเอง แล้วก็มาเจอข่าวเจมี่ ซึ่งประเด็นนี้ไม่ใช่เราแน่นอน ส่วนตัวก็ดูเจมี่ไว้ อาจจะติดต่อมารับงานละครด้วย ต้องบอกเลยว่าเกิดเป็นเราโดนตลอด พอหลังๆ มาเราก็เบาตลอด"
\r\nเดินสายกลางพึ่งทางธรรม เคยคิดอยากจะบวชตลอดชีวิตไหม ?
"เราเคยใช้ชีวิตแบบไม่ต้องพึ่งอะไร เครื่องสำอางไม่เติมแต่ง มันรู้สึกถึงความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นอะไรที่เราอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ในปัจจุบัน แล้วเราถูก เราก็มักจะปลีกวิเวกเป็นระยะช่วงๆ เพื่อไปปฎิบัติธรรม ห่วงลูกก็ห่วง ห่วงจิตวิญญาณตัวเองก็ห่วง เหมือนหล่อเลี้ยงทั้งทางโลกและทางธรรม"
เมื่อไหร่จะเห็นวันที่เราไปบวชตลอดชีวิต ?
"ก็คงรอลูกโตก่อน อันนี้เราก็บอกไม่ได้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ความรู้สึกที่เราไปอยู่ในสถานที่แบบนี้ เมื่อเราไปอยู่ตรงที่เกี่ยวกับการปฎิบัติธรรมมันจะเกิดความรู้สึกแบบนี้ตลอด ซึ่งถ้าหากกว่านั้นเกิดขึ้นแล้วจริงๆ นักบวชที่ชื่อปณิตา จะกลับมาบอกชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อปณิตา ว่าทุกวันนี้ต่อให้ไปเป็นนักบวช วันนั้นเราจะบอกตัวเองเสมอว่าเธอเก่งมากแล้ว เธอก็ยังต้องสู้ต่อไป สู้กับสภาวะจิตของตัวเองที่ให้รู้ว่าอันนี้คือดี อันนี้คือไม่ดี แยกแยะให้ถูก
แต่บางสถานการณ์ก็แยกแยะไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้ก็คือจะเว้นก่อน ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ว่ากันถ้าเกิดมีเรื่องอะไรเดี๋ยวนี้คนใกล้ตัวจะรู้ว่าเราจะพูดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน เราอยากขอบคุณตัวเองว่าเธอเก่งมาก ขอบคุณตัวเองที่มีธรรมะในใจ ขอบคุณในความพยายามที่อยากจะเป็นในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น"
ขอบคุณภาพ : ningpanita jintumwattana