เรียกได้ว่าเป็นอดีตนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก สำหรับ อ่ำ อัมรินทร์ ที่ประสบความสำเร็จไปหมดทุกด้าน ทั้งการแสดงในบทพระเอก นักร้องที่มีเพลงดังมากมาย เป็นนักกอล์ฟนักกีฬาที่มีชื่อเสียง แต่แล้วชีวิตกลับพลิกผัน ล้มป่วยจนทำงานไม่ได้ เงิน ทรัพย์สินที่เคยมีก็หมดตัวไปตามกาลเวลา ซึ่ง อ่ำ บอกว่า เหมือนเป็นเวรเป็นกรรมต่อกัน โดย อ่ำ ได้เปิดใจเล่าถึงอดีตที่ผ่านมาทางรายการ แฉ โดยบอกว่า...
เมื่อก่อนทุกอย่างประสบความสำเร็จหมด เงินก็มาเต็มไปหมด จนวันหนึ่งล้มลง มาแบบคาดไม่ถึง มาแบบไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเคยทำกับร่างของตัวเองไว้ นอนน้อย ดื่มจัด เลยทำให้ร่างกายมันสะสมมานานมาก จากนั้นก็หมดทั้งบ้าน มีหนี้สิน ทรัพย์สินที่เคยสร้างตั้งแต่เด็กจนโตก็หายไปหมด
เริ่มจากป่วย มันเป็นกรรมพันธุ์ ตอนแรกป่วยเป็นเกาต์ พอรักษาเสร็จแล้วมาเป็นรูมาตอยด์ แต่โรคนี้มันรักษาไม่หาย ซึ่งตอนนี้ทุเลาดีขึ้นมากแล้ว ตอนที่ป่วยมันมาหมดเลย จะใส่กางเกงก็ยังยากเลย คือตอนนั้นเราเป็นนักกีฬากอล์ฟ ใช้ร่างกายหนักมาก ทั้งเล่นกอล์ฟ ดื่มหนักมาก จนร่างกายไม่ได้พัก เลยทำให้มันสะสมจนไม่ไหว สุดท้ายเขาก็มาเช็กบิล เงินที่คิดว่าจะเก็บไว้ใช้ตอนแก่มันก็หมด เพราะเอามาใช้รักษาตัวเอง และเอามาใช้ดำรงชีวิตในตอนนั้น เพราะมันไม่มีเงินเข้ามาเลย ก็ต้องเอาของเดิมออกมาขายมาปล่อยจนไม่เหลืออะไร สุดท้ายคือไปบวชเพื่อปลงทางโลก ไม่สามารถที่จะยึดเก็บอะไรไว้ได้แล้ว พอแล้ว
อ่ำ ยังบอกอีกว่า ตอนที่ป่วยอย่าว่าแต่เงินหลักสิบเลย ก็ยังหาไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราขี้เกียจนะ แต่ร่างเราหาไม่ได้ มีงานติดต่อเข้ามา แต่เราไม่สามารถลุกไปทำงานได้ โรคเกาต์มันเป็นกรรมพันธุ์ แต่รูมาตอยด์มันเป็นโรคเวรโรคกรรม มันเป็นโรคกระดูกอักเสบโดยไม่มีสาเหตุอย่างรุนแรง โดยที่ไม่มีสัญญาณบอกก่อน อาการของมันคือเริ่มปวดข้อมือด้านขวาแล้วมาต่อด้านซ้าย ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟ จากนั้นก็เริ่มลงเข่าลงขา
ตอนที่ป่วยเหมือนตื่นจากปวด ก่อนนอนก็นอนเพราะปวดแล้วสลบไป แล้วเวลาจะขยับตัวทีลำบากมาก จะไปหาหมอก็กลัวใจเสีย กลัวเจออะไรที่มากกว่านี้ เลยคิดว่าไปวัดเลยดีกว่า จะตายก็ตายไปเลยที่วัด ให้ตายแบบไม่รู้อะไรเลยดีกว่า บางทีตื่นเช้ามามือที่เราเอาผ้าพันไว้ไม่ให้ใครเห็น คือมันบวมเหมือนคนจมน้ำตายแล้วมันอืด เราต้องพันไว้ แล้วก็ยกมือพนมไหว้ว่าพอแล้วได้มั้ย บอกเจ้ากรรมนายเวรให้ปล่อยชีวิตเราไปเถอะ แต่พอมาคิดดีๆ อีกที เจ้ากรรมนายเวรก็คือตัวเราเอง เราทั้งนั้นเลยที่ทำกับตัวเอง
ขายบ้านขายรถไปหมดทุกอย่าง ตอนนั้นกลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ยังดีที่ผมน่าจะมีบุญเหลืออยู่บ้าง จากการที่คิดว่าไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่เอาอะไรแล้ว แล้วจะไปบวช มันเกิดมีศรัทธาหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่ตัวเองอยากจะหาที่ยึดมั่นเพื่อที่จะหลุดพ้น ตอนที่ป่วยเพื่อนก็ชวนให้ไหว้พระที่บ้าน บอกให้ปล่อยวาง ก็เริ่มจากสวดมนต์ สวดที่บ้านบ้าง ไปสวดที่วัดบ้าง จากคนที่ไม่เอาอะไรเรื่องพวกนี้เลย
ตลอดระยะเวลาที่ป่วยอยู่ 2-3 ปี อั้ม อธิชาติ เป็นคนพาไปวัดบางเดื่อ ที่อยุธยา พาไปนั่งสมาธิ ครั้งหนึ่งได้ไปที่พลับพลาไหว้ขอพระเจ้าตาก เปรียบตัวเองเสมือนทหารที่เคยร่วมรบ ทหารที่รบต้องมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวมาก เราก็ต้องฝ่าฟันเรื่องนี้ไปให้ได้ เมื่อก่อนเคยมีทุกอย่าง เป็นเจ้าของรายการทีวีหลายช่อง จนกระทั่งไม่เหลืออะไรเลย มีแค่พ่อแม่ พี่น้อง และครอบครัวที่อยู่เคียงข้าง ต่อมาในปี 2560 ก็ตัดสินใจบวช หลังจากที่บวชชีวิตก็ดีขึ้น งานเริ่มเข้ามา
อ่ำ ยังเผยเรื่องที่ตัวเองก็ไม่เชื่อ แม่บอกว่ามีผู้หญิงเข้าฝันให้ไปที่สุสานวีรชนคนกล้าที่กาญจนบุรี ก็ไม่เชื่อ แต่อยากไปลอง ตอนแรกไปสุสานชาวยุโรปก็ไม่ใช่ คนขายพวงมาลัยบอกให้ไปอีกที่หนึ่ง เป็นอุทยานสงครามเก้าทัพ ไปถึงเวลาใกล้ค่ำ เป็นเนินขึ้นไป จนไปเห็นป้ายอุทยานเก้าทัพ ก็ร้องไห้แบบขาดสติ รู้ตัวแต่หยุดไม่ได้
ขับไปมืดๆ สักพักเหมือนมีอะไรมาช่วยให้เราพุ่งขึ้นเนินไปที่จอดรถ ซึ่งเป็นศาล ไฟหน้าส่องไป เป็นป้ายกรมพระราชวังบวรสุรสีหนาท (บุญมา) พระอนุชาในรัชกาลที่ 1 ที่เคยร่วมรบกับพระเจ้าตาก ตอนนั้นร้องไห้หนักมาก เปิดประตูลงไปนอนหมอบร้องไห้ ตอนนั้นไม่รู้ประวัติอะไรเลย ร้องไห้อยู่นานจนได้สติ เดินเข้าไปทำตามที่แม่บอก ขอขมาทุกดวงวิญญาณ ตอนนี้กลับมาได้แล้ว วางแผนถือศีล 5 และศีล 8 อย่างจริงจัง.
\r\nขอบคุณภาพ : amarin365