เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์ที่ยาวนานข้ามปีเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่ดาราสาวพลัดตกเรือเสียชีวิตจนทำให้กลายเป็นเรื่องราวที่สะเทือนวงการไม่น้อย ล่าสุดวันที่ 24 ก.พ.2566 นางภนิดา สิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดังที่ตกเรือเสียชีวิต ครบ 1 ปี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ ฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มอีก 40 ล้านบาทกับจำเลยที่ 3-6 คือ จ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร, กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ และ ภีม ธรรมธีรศรี หลังจากได้รับเงินเยียวยาไปแล้ว จากจำเลยที่ 1-2 คือ โรเบิร์ต ไพบูลย์ และ ปอ ตนุภัทร โดยเป็นการวางเงินสด 4 แสนบาท และแคชเชียร์เช็คอีก 1.6 ล้านบาท รวม 2 ล้านบาท ในวันที่ 21 ก.ย.2565
นอกจากนี้ยังทำสัญญาประนีประนอมกันในส่วนแพ่ง โดยทางจำเลยต้องร่วมกันจ่ายเงินให้คุณแม่แตงโม เดือนละ 30,000 บาท เป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งคิดเป็นเงินรวมทั้งหมด ที่คุณแม่จะต้องได้รับคือ 9.2 ล้านบาท
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ม.ค.66 แซน วิศาพัช พร้อมด้วย นายพรศักด์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วยตัว เปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ หลังคุณแม่แตงโม ยื่นคำร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มอีก 40.8 ล้านบาท กับจำเลยอีก 4 คนในคดี
แซน วิศาพัช เปิดเผยว่า อยากถามคุณแม่แตงโมว่า คิดว่ารวยขนาดนั้นเลยหรอ ตนทำผิดอะไร พวงมาลัยบนเรือยังไม่ได้จับเลย วันเกิดเหตุไปกินข้าวบนเรือ ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลทุกคนบนเรือ ทำไมถึงต้องมาเรียกร้องเงินอีก 40.8 ล้าน ไม่ยอมจบสักที เอาเปรียบกันเกินไปหรือไม่ ซึ่งคุณแม่เซ็นสัญญาประนีประนอมไปแล้ว ควรจะจบได้แล้ว ตอนนี้ตนรู้สึกเหนื่อยมากแล้วกับเรื่องนี้
แซน วิศาพัช เปิดเผยว่า ยืนยันจะไม่ยอมจ่ายเงิน 40.8 ล้าน จะสู้ให้ถึงที่สุด พอได้คุยกับกระติก ทุกคนก็ยืนว่าจะไม่ยอมจ่าย หลังจากนี้จะปรึกษาทนาย อาจจะฟ้องกลับคุณแม่กรณีไปฟ้องเท็จเรื่องคดีฆาตกรรม ทำให้สังคมรุมประณามด่าตนมาตลอด อยากบอกคุณแม่ว่า “พอเถอะแซนเหนื่อย ขอร้องจบได้แล้ว”
\r\nด้าน ทนายพรศักด์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2565 ทางคุณแม่แตงโมและจำเลย ได้ไกล่เกลี่ยนัดแรกที่ชั้นศาล ตอนแรกคุณแม่เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท แต่พอได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกัน จึงมีการทำสัญญาข้อตกลง โดยปอกับโรเบิร์ตยินดี รับผิดชอบจ่ายเงินเยียวยา 9.2 ล้านบาท ซึ่งคุณแม่ไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายจาก จำเลยที่ 3-6 ในตอนนั้นทุกอย่างมันต้องจบแล้ว แต่พอวันนี้คุณแม่กลับเรียกค่าเสียหาย จากจำเลยอีก 4 คน รวม 40.8 ล้านบาท คงต้องไปต่อสู้กันตามกฎหมาย
ขอบคุณภาพ : sanddsandd