เรียกได้ว่าปีนี้เริ่มต้นปีด้วยดราม่าลูกใหญ่เลยทีเดียวสำหรับพระเอกหนุ่มมากความสามารถ หลังจากที่มีแฟนคลับบางกลุ่มทำตัวไม่น่ารัก จนทำให้เจ้าตัวออกโรงเดือดโพสต์เพื่อปกป้องตัวเอง จนทำให้ชาวเน็ตเสียงแตก และกลายเป็นดราม่าตามมาสำหรับนักร้องนักแสดงหนุ่ม มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ ได้โพสต์ข้อความฟาดเดือดถึงแฟนคลับบางกลุ่ม ที่ไม่แยกแยะเรื่องการทำงานและชีวิตส่วนตัว ยังคงพาดพิงถึงอดีตคู่จิ้นอย่างหนุ่ม กลัฟ คณาวุฒิ ทั้งที่ตนยอมรับว่าตอนนี้มีคนรู้ใจแล้ว ความสัมพันธ์กับกลัฟเป็นแค่พี่น้อง แต่แฟนคลับบางส่วนผิดหวัง รับไม่ได้ เข้ามาแซะไม่เลิก ทำให้หนุ่มมิวออกมาทวีตข้อความสุดเดือด แนะให้ไปพบจิตแพทย์ ทำให้มีแฟนคลับบางส่วนไม่พอใจ ที่หนุ่มมิวใช้คำพูดแรง บอกจะเลิกติดตาม ดังได้ก็ดับได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2566 มิว ศุภศิษฏ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว ในงานเปิดตัว Global Project ณ โรงภาพยนตร์ MASTERCARD CINEMA ชั้น 8 SF WORLD CINEMA ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่ตอนนั้นมีอารมณ์ขึ้น เครียดกับผลกระทบที่มีบางส่วนไม่เข้าใจแต่ตนก็ยอมรับได้ และไม่เสียใจที่โพสต์ไปแบบนั้น จากนี้จะระวังในการโพสต์และเตือนตัวเองให้ใจเย็นมากกว่านี้
มีคลิปออกมาว่าถ้าวันนึงแฟนคลับลดลง จะรู้สึกยังไง?
“ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพราะคนเราก็มีขึ้นมีลง ขึ้นใหม่ ลงใหม่ไปเรื่อยๆ ก็คิดว่ามันคงจะอยู่คงที่ตลอดไปไม่ได้หรอกครับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องทั่วไปที่น่าจะเกิดขึ้น ถามว่าถ้าน้อยลงแล้วจะเสียใจมั้ย ก็คงมีมุมเสียใจอยู่แล้วแหละ แต่มันเป็นสิ่งที่สุดท้ายต้องเกิดก็จะต้องทำใจไว้ก่อน (ยิ้ม)”
สิ่งที่เราโพสต์มันเกิดจากความอัดอั้นตันใจยังไง?
“คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ส่วนตัวก็รู้สึกว่าผิดพลาดเหมือนกัน เพราะเรื่องบางเรื่องผมรู้สึกว่าอาจจะคุยกันส่วนตัวก็ได้ แต่ด้วยสเปซระหว่างเรากับแฟนคลับก็คงไม่สามารถเรียกเขามาเพื่อพูดคุยกันให้เข้าใจกันได้ ก็เลยต้องผ่านทางโซเชียล มันก็เลยอาจจะดูรุนแรงเกินไปหน่อยนึง ก็ยอมรับว่าตอนนั้นมีอารมณ์เหมือนกันครับ”
ฟีดแบ็กที่กลับมาค่อนข้างจะแรง เราเครียดมั้ย?
“เครียดเหมือนกันครับ เพราะเสียงค่อนข้างแตก ก็จะมีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ก็รู้สึกว่าด้วยตัวเนื้อหามันเซ้นซิทีฟมากๆ อยู่แล้ว การที่เสียงแตกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันเป็นคอนเทนต์ที่สามารถคิดได้หลายมุม จริงๆ การตอบอะไรแบบนี้ไม่ใช่แค่ผมหรอก ศิลปินทุกท่านต้องเจอปัญหานี้อยู่แล้วกับการคอมเมนต์อะไรต่างๆ และบางครั้งเราแค่อยากอธิบายในมุมมองความคิดของเราบ้างว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็ยอมรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นนะครับ เพราะสิ่งที่โพสต์ไปมันเกิดไปแล้วด้วย และทำให้คนเข้าใจผมมากขึ้นเยอะมากขึ้นเหมือนกันนะ ก็ไม่เสียใจครับ”
หลังจากนี้ต้องใจเย็นลงมั้ยในการโพสต์?
“ต้องใจเย็นลงแน่นอนครับ ต้องคิดเพิ่มขั้นเยอะเลยว่าวิธีการพูดต้องพูดยังไงบ้าง ถ้าเป็นไปได้ที่จัดแฟนมีตอันนั้นขึ้นมา ก็รู้สึกว่าเราสามารถพูดคุยกับแฟนคลับในแบบนี้ได้บ้างหรือเปล่า ก็รู้สึกว่าถ้ามีคราวหน้าก็อาจจะจัดแบบนี้ขึ้นมาใหม่ พูดคุยกันแบบน่ารักๆ”
เราไม่ถึงขั้น social detox เหมือนครั้งที่แล้วมั้ย?
“ไม่ครับ มีช่วงที่ผ่านมาที่ไปเข้าโรงพยาบาล แฟนๆ ก็รู้สึกว่าเราเครียดจนโซเชียลดีท็อกซ์หรือเปล่า จริงๆ ผมติดเกมส์ครับ (หัวเราะ) ไปซื้อเกมส์มา ก็อยากจะเล่นให้มันผ่าน ก็เล่นเต็มสตรีมมาก”
\r\nขอบคุณภาพ : mewsuppasit