เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นที่หลายๆ คนในโลกโซเชียล กำลังติดตามความเคลื่อนไหวกันอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของพระเอกหนุ่มคนดัง เอส กันตพงศ์ ที่เกิดเหตุการณ์วูบหมดสติ เมื่อไม่นานมานี้
โดยล่าสุด คริสติน่า ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมร่ายข้อความ อัปเดตสถานการณ์ของสามี ตั้งแต่วันที่ เอส กันตพงศ์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ว่า สวัสดีค่ะ วันนี้ฉันอยากจะมาอัปเดตอาการของ คุณเอส ที่ผ่านมา ฉันและทางครอบครัว ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณเอส เนื่องจากทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าในตอนนี้อาการของเอส ยังอยู่ในวิกฤต
พวกเราเสียใจและหนักใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ส่วน วาเลนติน่า ก็ร้องไห้เรียกหาแต่พ่อตลอดเวลา แต่ฉันก็พยายามที่จะเข้มแข็งเพื่อลูก แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันกับครอบครัวจะต้องออกมาบอกรายละเอียดทั้งหมดของคุณเอส ฉันรู้ว่าทุกคนกำลังรอฟังข่าวดีอยู่ แต่ในตอนนี้ยังไม่มีข่าวดี เพราะว่าอาการป่วยของเขายังอยู่ในวิกฤต แต่ฉันพร้อมที่จะเปิดใจ และพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้มากขึ้น
อย่างที่ทุกคนทราบ ก่อนเกิดเหตุการณ์ สามีของฉันได้ไปทำงานเป็นพิธีกร งาน Big Debate by Ch7 ที่ลานสยามพารากอน ขณะที่เขากำลังทำงาน หัวใจของเขาได้หยุดเต้นกะทันหัน เขาได้รับการทำ CPR ฉุกเฉิน และนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งใช้เวลานานมาก กว่าที่หัวใจของเขาจะกลับมาเต้นอีกครั้ง ได้รับ CPR ประมาณ 19 นาทีที่สยาม และทั้งหมดใช้เวลาถึง 45 นาที สำหรับการปั๊มหัวใจ รวมบนรถฉุกเฉิน
ฉันต้องขอขอบคุณ ทีมเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินที่ไม่ยอมแพ้ ในการช่วยชีวิตของคุณเอส และ พี่ยา ช่างแต่งหน้าของเขา ที่ตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเขา ตัดสินใจแบบนี้น่าจะช่วยชีวิตเอส ตั้งแต่ที่เขาได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล อาการของเขาก็ยังอยู่ในวิกฤต และมีอาการแทรกซ้อนที่หัวใจ วันก่อนหัวใจของคุณเอสก็มีปัญหาอีกครั้ง และแพทย์ก็ได้ทำการช่วยชีวิตไว้อีกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นทางแพทย์ที่รักษาคุณเอส ได้ออกมายืนยันแล้วว่า เขามีอาการหัวใจอักเสบ แต่ยังไม่สามารถระบุอะไรได้มากกว่านี้
เนื่องจากอยู่ในกระบวนการและขั้นตอนของการรักษาอยู่ แพทย์ได้แจ้งว่า ต้องเฝ้าดูอาการของคุณเอสแบบ “วันต่อวัน” ซึ่งแพทย์ยังหาสาเหตุที่ชัดเจน และหาแนวทางรักษายังไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะต้องรักษาตัวที่ห้อง ICU นานแค่ไหน รวมถึงจะฟื้นตัวเต็มที่ได้เมื่อไหร่
ตอนนี้ฉันอยากจะขอขอบคุณสำหรับน้ำใจทั้งหมดที่เราได้รับ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันอยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยสามีของฉัน โดยเฉพาะช่อง 7 ที่ช่วยเหลือและดูแลคุณเอส ทั้งเรื่องค่ารักษาและให้กำลังใจมาเรื่อยๆ เหมือนเป็นครอบครัวของตัวเอง เพราะเอสทำงานหนัก และทุ่มเทอย่างเต็มที่เสมอ เพื่อช่อง 7 มาตลอด เอสรักงานตัวเองมากๆ
และสุดท้ายขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ที่รักษาคุณเอสอย่างเต็มที่ และแฟนคลับกับเพื่อนๆ ทุกคน ที่ส่งกำลังใจมาให้ค่ะ ยังไงเราจะอยู่ข้างเอสตลอดและสู้ด้วยกัน