เรียกได้ว่าเป็นว่าที่คุณหมอ ที่มาพร้อมกับความน่ารัก สำหรับ ปุยเมฆ นภสร อดีตนักแสดงสาวมากความสามารถ ที่ตั้งใจเดินตามความฝัน จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยเธอได้แจ้งข่าว เรื่องสิ้นสุดสัญญาในฐานะนักแสดงกับ GMMTV ไปเมื่อไม่นานมานี้ ทำเอาแฟนๆ ใจหายไม่น้อย แต่ก็ร่วมยินดีที่เจ้าตัวเดินตามฝันในฐานะ ‘คุณหมอ’ ได้อย่างเต็มที่
แต่ล่าสุด ทำเอาหลายคนแห่เป็นห่วงเต็มโซเชียล หลังอดีตนักแสดงสาวดาวรุ่ง ปุยเมฆ นภสร หรือ หมอปุยเมฆ ออกมาโพสต์ร่ายยาว ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว แชร์ประสบการณ์ ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง พร้อมกับภาพของตัวเองที่มีน้ำตานองใบหน้า โดยเผยว่า “เห็นช่วงนี้กระแสข่าว intern ลาออกจากระบบกันเยอะ ขอพูดในฐานะคนที่เพิ่งตัดสินใจลาออกมาละกัน งานในระบบหนักจริง แต่ถามว่าอยู่ในระดับทนได้ไหม ทนได้ ไม่ตาย แต่ใกล้ตาย เสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต วินาทีที่ตัดสินใจลาออก คือ ตอนนั้นวน med อยู่เวรทั้งคืน มาราวน์เช้าต่อ ชาร์ตกองตรงหน้าเกือบ 40 คนไข้นอนล้นวอร์ด เสริมเตียงไปถึงหน้าลิฟต์ ภาพหดหู่มาก แถมเหนื่อยและง่วง ราวน์คนเดียวทั้งสาย staff มา 10 โมง เดินมาถาม “น้องยังราวน์ไม่เสร็จหรอ ต้องเร็วกว่านี้นะ” วินาทีนั้นตัดสินใจเลย ดอบบี้ขอลา
คือเข้าใจว่างานมันเยอะ หนักทั้ง intern ทั้ง staff แหล่ะ (staff เองก็ไม่ไหว ลาออกก็เยอะ) และมันดูไม่มีทางออกให้กับปัญหานี้เลย รพ.ไม่มีแนวโน้มจ้างคนเพิ่ม ลดลงทุกปี บอกกระทรวงฯ ลดงบ คนทำงานหารหน้าที่กันจนไม่รู้จะหารยังไง เหมือนอยู่เป็นแรงงานทาสไปเรื่อยๆ อะ ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
แม้จะมีเรื่องให้ทุกข์ใจ แต่เจ้าตัวยังได้แชร์เรื่องราวดีๆ ที่ทำให้อยู่จนครบปี คือ “พี่ๆ young staff ที่เป็น support system ที่ดีสุดๆ งานตัวเองก็เยอะ staff จบใหม่คือเดอะแบก รพ.มากๆ แต่ก็ยังใส่ใจน้องๆ จริงๆข้อความเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราอยู่จนจบปีเลย”
นอกจากนี้ หมอปุยเมฆ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า “เราเชื่อว่าอนาคต อย่างน้อยวงการหมอก็จะไม่ toxic เท่าเหมือนที่ผ่านๆมา น่าจะน่าอยู่มากขึ้น(ในด้านสังคม) เพราะเท่าที่สัมผัส ไม่ค่อยพบเจอถ้อยคำบั่นทอนจาก young staff เลย เหมือนคนรุ่นใหม่มีค.เห็นอกเห็นใจ ใจเขาใจเรากันมากขึ้นอ่ะ ทั้งกับคนทำงานด้วยกันและกับคนไข้ พี่ๆเป็นหมอที่ดีมากจริงๆ”
หลังทวิตฯ ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีแฟนคลับ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งคุณหมอและพยาบาล เข้ามาตอบกลับ ทั้งให้กำลังใจ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เช่นเดียวกัน ซึ่งหลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า งานหนักจริงๆ
\r\nขณะเดียวกัน เธอยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตนยังเป็นหมออยู่ ลาออกจากระบบไม่ได้แปลว่าเลิกเป็นหมอ ไม่ได้เปลี่ยนอาชีพ ส่วนงานในวงการถ้าหากตามกันดีๆ จะรู้ว่ามานานๆ ที มากๆ แทบจะเหมือนงานอดิเรก และปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ลาออกคือ ปริมาณงานใน รพ.รัฐ ที่มากเกินไป ไม่แฟร์กับคนทำงานค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก brighttv.co.th