เรียกว่ามีมรสุมซัดเข้ามาในชีวิตครั้งใหญ่ สำหรับ ลุกซ์ ชาญวิทย์ น้องสุดที่รักของ ใบเตย สุธีวัน นอกจากเรื่องที่พี่สาวและพี่เขยอย่าง ใบเตย-ดีเจแมน จะต้องเข้าเรือนจำ ในคดีโกงแชร์ Forex-3D แล้ว ลุกซ์ ยังสูญเสียแฟนหนุ่ม จากอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชน เมื่อวันที่ 4 พ.ค. และได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจ ถึงเรื่องราวความสูญเสียที่เกิดขึ้น ในงานแถลงข่าว DM The Charity ครั้งที่ 14
โดย ลุกซ์ พูดถึงเหตุการณ์ ตอนรู้ข่าวของแฟนว่า “คบกับแฟนมา 12 ปี เราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันเลย ก็ยอมรับว่าวันแรกเราไม่ได้เข้มแข็งเลย ทำใจยากมาก เพราะลุกซ์อยู่กับเขา ตั้งแต่ไปเจอที่ห้องฉุกเฉินเลย ซึ่งวันนั้นเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน โรงพยาบาลเขาโทรมาบอกว่า แฟนเกิดอุบัติเหตุอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าตอนเที่ยงคืน
ตอนนั้นสิ่งที่ลุกซ์รู้สึกเลยคือ รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้ว เพราะปกติที่ผ่านมา 12 ปี เราคุยกันรู้เรื่อง แล้วถามตอบกันรู้เรื่อง เข้าใจกัน แต่วินาทีนั้นเขาไม่ได้คุยกับเราแล้ว ก็เลยทำใจเป็นระยะหนึ่ง ตั้งแต่วินาทีนั้นว่า นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แล้วเราก็เหมือนจะต้องรับให้ได้ เพราะ ณ วินาทีนั้น ลุกซ์จะต้องเป็นคนที่ทำทุกอย่างต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตัดสินใจรักษา เพราะว่าอุบัติเหตุอ่ะ เขาจะไม่เริ่มรักษาเลย เพราะถ้าญาติหรือคนใกล้ชิดไม่ได้มาหา ต้องมีสติอันดับแรกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
แล้วลุกซ์ก็อยู่ในความหวังในทุกๆ วัน ว่าเขาจะกลับมา หลังจากที่เขาออกมาจากห้องฉุกเฉินปุ๊บ อีกวันหนึ่งเขาก็ได้รับการผ่าตัดสมอง หมอก็ออกมาบอกว่า จะมีโอกาสกลับมาแค่ 3% เราก็ใช้ชีวิตอยู่กับความหวังมากๆ ถึงแม้จะเป็น 3% ของหมอ แต่สำหรับเรา มันยังเป็น 100% ทุกวัน ผ่าตัดรอบที่สองก็ไม่ดีขึ้น คุณหมอก็พูดตรงไปตรงมาว่า เขาอาจจะเป็นได้แค่เจ้าชายนิทรา ณ วันนั้นเลย เราก็เลยอยู่กับความผิดหวังมาเรื่อยๆ จนกระทั่งครบ 14 วัน แกก็ไม่ได้อยู่กับเราต่อ”
ลุกซ์ เล่าต่อว่า “คือจริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องนั้นโดยคนเดียว จริงๆ ในใจ 100% ก็อยากให้เขาอยู่ เพราะเราก็รู้สึกว่าเขามีโอกาสที่ต้องได้ใช้ชีวิตต่อ แต่ท้ายที่สุดแล้วอาการเขาแย่มาก ชั้นผิวหนังที่เราเห็นว่าเขาเป็นปกติ ลมหายใจที่เขาหายใจปกติ เขาหายใจแรงขึ้นพะงาบๆ ผิวหนังเขาเริ่มเปลี่ยนสี เหมือนทุกอย่างก็บอกเราอย่างชัดเจนว่าเขาคงไม่ได้สู้ต่อ เพราะฉะนั้นเราก็เลยคุยกับที่บ้านเขาพ่อกับแม่เขาอีกทีว่า พ่อกับแม่อยากจะเปลี่ยนการตัดสินใจไหม พ่อแม่เขาเลยเชื่อเรา แล้วเราก็ตัดสินใจที่จะยกเลิกใช้เครื่องปั๊มหัวใจ”
นอกจากนี้ ลุกซ์ ยังเผยถึงการเยียวยาตัวเองว่า “ตนคือคนที่ได้ใช้ชีวิตต่อ เราต้องใช้ชีวิตของเขาให้เป็นประโยชน์ที่สุดในทุกๆ วัน ไม่อยากให้เขาเห็นลุกซ์ในมุมอ่อนแอ การใช้ชีวิตต่อมันเหนื่อยกว่ามาก เพราะเขาบอกเราอยู่แล้ว ด้วยอาการเขาว่าไม่ไหว เพราะฉะนั้นเราจะต้องไม่ฝืน ด้วยการไม่ปล่อยเขาทรมาน เรายอมเจ็บใจวันนี้ดีกว่า ยอมให้เขาไปสบาย
ในช่วงอุบัติเหตุ ที่ไหนบอกว่าดีก็ไปหมด ไปทำเกือบทุกศาสนาเลย แต่สุดท้ายสิ่งเดียวที่ลุกซ์รู้สึกว่ามันคือเรื่องจริงก็คืออาการของเขา ลุกซ์นั่งจับมือเขา ตัวเลขตั้งแต่หัวใจเต้นอยู่ 130 กว่า จนวินาทีสุดท้าย รู้สึกว่าเขาไปอย่างสงบมากๆ จริงๆ ที่ลุกซ์ไปทำมาทั้งหมด ลุกซ์ถอนหมดเลย ถอนคำบนบานศาลกล่าวทุกที่ออกหมดเลย เพราะรู้สึกว่า การรั้งเขาไว้มันไม่ได้เป็นผลดีกับเขาเลย”
ขอบคุณข้อมูลจาก brighttv.co.th