กำลังเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับคู่รัก วิว วรรณรท และ เจษ เจษฎ์พิพัฒ เหตุเพราะมีเพจดังออกมาหย่อนคำใบ้ ประเด็นคู่รักดาราส่อแววเลิก ไม่มีการลงรูปคู่ และไม่กดไลก์รูปในอินสตาแกรมกันและกัน งานนี้ชาวเน็ตต่างพุ่งเป้าไปที่คู่ของ เจษ-วิว ที่ถูกโยงในข่าวรักล่มไปก่อนหน้านี้ แถมพักหลังๆ ฝ่ายหญิงมักจะโพสต์ข้อความเศร้าอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้หลายคนยังได้มีการโยงนางเอกสาว ปราง กัญญ์ณรัณ เข้ามาเกี่ยวกับดรามาครั้งนี้อีกด้วย ท่ามกลางความสงสัยว่าสถานะของ เจษ-วิว นั้นเลิกกันจริงหรือไม่
ล่าสุด หนุ่ม เจษ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงประเด็นดังกล่าวผ่านสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยเผยว่า “คุยกันสักพักแล้วว่าเลิกกัน มันก็เหมือนทุกคู่ที่มีทั้งความสุขและเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน พยายามปรับเข้าหากันเรื่อยๆ เราเต็มที่กันทั้งคู่แล้ว เริ่มจากคุยกันเรื่องปัญหา เถียงกัน มาถึงจุดที่ต่างคนต่างรู้สึกว่าถ้าปรับเกินกว่านี้ มันจะเป็นการเอาเปรียบอีกฝ่าย
เรื่องที่หลายคนโยงไปถึง ปราง ตอบชัดเจนเลยว่าไม่มีใครมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น ด้วยความที่ละครเป็นแนวโรแมนติก เราเลยลงภาพ ทั้งหมดเป็นภาพจากงาน เป็นการโปรโมท ผมมีไปขอโทษเขาเพราะได้เห็นว่าเขาโดนว่าเสียๆ หายๆ เราเป็นเพื่อนร่วมงานและสนิทกัน แต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น ผมขออนุญาตลงรูปตามปกตินะครับ เพราะเป็นเรื่องของงาน คิดว่าถ้าเราเลี่ยงที่จะไม่ลงรูป มันแสดงถึงความไม่บริสุทธิ์ใจมากกว่า
ส่วนเรื่องที่คนบอกจะไม่ติดตามเรา ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของแต่ละคน สำหรับแฟนคลับที่ซัพพอร์ตเรามาตั้งแต่แรก ก็ต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง มันไปต่อไม่ได้จริงๆ ยอมรับว่าเสียดายเวลา แต่สิ่งที่ดีระหว่างทางก็เยอะมากๆ วันนี้คิดว่าควรออกมาทำอะไรให้ชัดเจน เพราะเรื่องนี้ทำให้หลายคนเดือดร้อน ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ ของผม ไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อนหรือลำบากใจตอบเรื่องผม
สำหรับสภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นแต่ยังไม่มากเท่าไร ยังคงเป็นห่วงและรักเขาอยู่ครับ แต่ถ้าไปต่อในสถานะคนรัก มันอาจจะเหนื่อยเกินไปสำหรับเราสองคน เขาเป็นคนที่ดีและหวังดีกับผมมากๆ ในอนาคตจะกลับมาคืนดีกันไหม ยังตอบอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เสียใจคือ ไม่ได้มีใครผิด แต่เราหาตรงกลางตรงนั้นไม่ได้ ถามว่าได้คุยกันไหม หลังจากนั้นเราไม่ได้คุยกันเลย ไม่รู้ว่าถ้าเราทักไป มันจะเป็นยังไง เราก็พูดความจริงเท่าที่จะพูดได้ครับ
\r\nถามว่าสามารถร่วมงานกันได้ไหม วันนี้แล้วแต่ความสบายใจของเขาเป็นหลัก อาจต้องใช้เวลา เพราะสุดท้ายแล้วเขาคือผู้หญิง และเราคือผู้ชาย รู้สึกว่าการเลิกกัน มันเป็นทางที่เราจะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันในเรื่องที่ไม่จำเป็น และไม่รู้สึกว่าความสัมพันธ์มันเหนื่อย เพราะปัญหาที่เจอทำให้เราต้องมานั่งทะเลาะกัน เราสองคนต่างไม่มีเวลาและทำงานทั้งคู่ มันอาจมีผลต่องานและตัวเราทั้งคู่ รู้สึกโล่งใจขึ้นที่ได้ออกมาพูด คนน่าจะรู้เรื่องจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องนั่งเดา ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้ผิดหวังครับ”