จากกรณีที่มีผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อกชื่อ “pramotpanket” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่สร้างความประทับใจให้กับชาวโซเชียลอย่างมาก เป็นภาพของหญิงเร่ร่อนวัยกลางคนที่มีสภาพร่างกายผอมโซและแต่งกายมอมแมม เมื่อผู้ถ่ายคลิปขอให้เธอร้องเพลง เธอได้โชว์เสียงร้องอันไพเราะราวกับนักร้องมืออาชีพ ทำให้ผู้ชมต่างรู้สึกทึ่งและประทับใจ ผู้ถ่ายคลิปยังมอบอาหารให้เธอเป็นการตอบแทน คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจและมีการแชร์ต่อกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์
![](https://u1.jarm.com/news/2024/06/174026/17173317031.jpg)
ซึ่งชาวโซเชียลไม่เพียงแต่ชื่นชมในเสียงร้องของเธอเท่านั้น แต่ยังพยายามสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจนพบว่า หญิงคนนี้คือ “อิ๋ว เสาวลักษณ์” อดีตนักร้องที่เคยมีชื่อเสียงในวงการเพลงลูกทุ่ง ใช้ชื่อในวงการว่า “เอ สะเลเต” เธอเคยร้องเพลงตามคาเฟ่และงานต่างๆ ในพื้นที่อำเภอสีคิ้วและจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงเคยเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง “ไมค์ทองคำ” ด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่มากขึ้นและสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้เธอต้องแยกวงและห่างหายไปจากวงการเพลงหลายปี จนกลายเป็นหญิงเร่ร่อนที่เห็นในคลิปวิดีโอดังกล่าว
![](https://u1.jarm.com/news/2024/06/174026/17173317171.jpg)
ล่าสุด ทราบว่าปัจจุบันเธอไปอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านที่รู้จักกัน ที่ซอยเทพประทาน ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อไปถึงบ้านดังกล่าว ก็พบกับ “อิ๋ว เสาวลักษณ์” ซึ่งกำลังรู้สึกตื่นเต้นกับกระแสข่าวในโซเชียล ที่มีการพูดถึงเธออย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้ โดยมีนางเสนาะ ชอบสุข อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านที่อิ๋วมาพักอาศัยอยู่ และนายเทวัญ ชัยจันทึก อายุ 37 ปี หลานชายของอิ๋ว ที่เคยร่วมวงดนตรีด้วยกัน มาให้กำลังใจด้วย
![](https://u1.jarm.com/news/2024/06/174026/17173317311.jpg)
ขณะที่ “อิ๋ว เสาวลักษณ์” หรือนางสาวเสาวลักษณ์ แกมขุนทด อายุ 46 ปี เล่าให้ฟังถึงเส้นทางชีวิตเธอว่า เธอเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 15 ปี ขณะที่เธอเพิ่งเรียนจบชั้น ม.3 ได้ไปดูวงดนตรี “หนึ่งนคร” ของแสนรัก เมืองโคราช ซึ่งเป็นวงดนตรีดังของเมืองโคราช ที่มาเล่นอยู่ที่วัดหลวงปู่โต อ.สีคิ้ว (วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี หรือวัดสรพงษ์)
![](https://u1.jarm.com/news/2024/06/174026/17173317451.jpg)
ทำให้เกิดความประทับใจและได้สมัครเข้าไปเป็นแดนเซอร์ที่วงดนตรีหนึ่งนคร ตั้งแต่นั้นมา โดยระหว่างที่เป็นแดนเซอร์ ก็ฝึกหัดร้องเพลงกับนักร่องในวง จนสามารถไต่เต้าขึ้นไปเป็นนักร้องนำในวงดนตรีได้สำเร็จ และเดินสายไปร้องเพลงทั่วประเทศอยู่กับวงดนตรีหนึ่งนคร เป็นเวลา 7 ปี กระทั่งได้มีนายห้างศิริพงศ์ ปรีดาพงศ์ แห่งค่ายเพลงช้างเผือก มาพบเธอเข้า จึงได้ชวนเธอไปออกอัลบั้มเพลง ที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้ชื่อในวงการว่า “เอ สะเลเต” ออกอัลบั้มแรกชื่อ “คนนี้ใช่เลย” มีเพลงอยู่ในอัลบั้มทั้งหมด 11 เพลง
![](https://u1.jarm.com/news/2024/06/174026/17173317601.jpg)
แต่เพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอคือเพลง “รถติด” ซึ่งออกอัลบั้มมาช่วงเดียวกับที่ตั๊กแตน ชลดา นักร้องสาวโคราชเช่นเดียวกันเธอ ที่ออกอัลบั้ม “หนาวแสงนีออน” โดยเธอได้เดินสายร้องเพลงในเวทีคอนเสิร์ตต่างๆ ไปทั่วประเทศ และออกทีวีหลายช่อง นอกจากนี้ยังมีผู้จัดการส่วนตัว ดูแลเรื่องคิวงาน และเรื่องเงินรายได้ จนสามารถมีเงินนับสิบล้านบาท ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ 2 หลังอยู่ที่ ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
![](https://u1.jarm.com/news/2024/06/174026/17173317761.jpg)
ระหว่างที่เธอกำลังรุ่งกับค่ายเพลงดังกล่าว ก็เริ่มหลงแสง สี เสียง ชอบเที่ยวกลางคืนเป็นประจำ จนกระทั่งไปเกี่ยวข้องกับสุรา และยาเสพติด ส่งผลให้ร่างกายเริ่มอิดโรย หน้าตาเริ่มทรุดโทรม งานคอนเสิร์ตก็เริ่มหดหาย ทำให้นายห้างไม่ต่อสัญญา เธอจึงหันมาใช้ชีวิตเป็นนักร้องตามร้านอาหาร และรับจางร้องเพลงให้กับวงดนตรีอิเล็กโทรนตามงานต่างๆ แล้วแต่จะมีคนจ้าง แต่เงินที่ได้มาก็ใช้ไปกับการเที่ยวเตร่ ดื่มสุรา และเสพยาเสพติด จนร่างกายซูบผอม ไม่เหลือเค้าเดิมอยู่เลย ขณะเดียวกันก็ได้ขายบ้านทั้ง 2 หลังออกไปในราคาแค่หลังละ 2 แสนบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาประเมิน 3-4 ล้านบาท และนำเงินเหล่านั้นไปใช้กิน ใช้เที่ยวจนหมดตัว ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปี
![](https://u1.jarm.com/news/2024/06/174026/17173317911.jpg)
สุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ญาติต้องพาเธอไปบำบัดอาการทางจิต ที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และออกจากโรงพยาบาลมาก็กลายเป็นคนเร่ร่อน อยู่ในตลาดสดอำเภอสีคิ้ว จนกระทั่งมีคนไปพบนอนอยู่หน้าห้องน้ำในตลาด และพาเธอมาอยู่ด้วยในปัจจุบัน ซึ่งเธอบอกว่า ที่เป็นคนเร่ร่อนเช่นนี้ ก็เพราะเป็นคนชอบใช้ชีวิตอิสระ อยากไปไหนก็ไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายอะไร แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบร้องเพลง เวลามีงานที่ไหน เธอก็มักจะชอบไปร้อง เต้น อยู่หน้าเวทีเป็นประจำ บางครั้งคนเห็นและจำได้ ก็จะให้ติ๊บพอได้เงินไปซื้ออาหารประทังชีวิต ซึ่งเธอก็คิดถึงชีวิตในช่วงเป็นนักร้องเช่นกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ตอีกสักครั้ง.