สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่นยังคงวิกฤตต่อเนื่อง ล่าสุดติดต่อเนื่องพันกว่ารายในวันเดียว ด้านผู้ว่าโตเกียวสุดยื้อปิดธุรกิจต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
สำนักข่าว คมชัดลึก รายงานข่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในหลายจังหวัดทั่วญี่ปุ่นเลวร้ายลงอีกเมื่อวาน (29 ก.ค.) กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า มีผู้ติดไวรัสโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ 1,264 ราย เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันเดียวและเป็นครั้งแรกที่ผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุหลักพัน ณ เวลานี้ ญี่ปุ่นมียอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 34,220 ราย จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 81 ราย ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,019 ราย
8 จังหวัดพบผู้ติดเชื้อใหม่ทุบสถิติสูงสุดในวันเดียวกัน อาทิ โอซากา ทางตะวันตก พบผู้ติดเชื้อ 221 ราย ซึ่งยังเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขผู้ป่วยเกิน 200 ในวันเดียวด้วย ผู้ว่าการจังหวัดโอซาก้า นายโยชิมูระ ฮิโระฟุมิ ยอมรับว่าเมื่อดูอัตราผลตรวจให้ค่าเป็นบวกสูงถึง 10% คาดได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จ.ไออิจิ ทางภาคกลาง ติดเชื้อทุบสถิติรายวันที่ 167 ราย ฟุกุโอกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ ติดเชื้อกว่า 100 คน สถิติใหม่อีกเช่นกัน ส่วนโอกินาวะ ทางใต้สุด ที่แม้ยอดติดเชื้อใหม่ไม่มากนักที่ 44 ราย (ไม่รวมยอดติดเชื้อเชื่อมโยงฐานทัพสหรัฐ) แต่ก็เพิ่มจากวันอังคารเท่าตัว และจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มทำสถิติ 3 วันติด ทางด้านอิวาเตะ จากที่เคยเป็นจังหวัดเดียว ใน 47 จังหวัด ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อยืนยันเลย แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปในวันเดียวกัน เมื่อพบผู้ติดเชื้อแล้ว 2 ราย ขณะที่โตเกียวยังเป็นจุดร้อน ติดเชื้อใหม่ 250 ราย ทั้งนี้ใน 9 วันที่ผ่านมา โตเกียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 200 ราย 8 วัน และ 21 วันมาแล้วที่ยอดติดเชื้อใหม่เกินร้อย
ทางการกรุงโตเกียวเคยสั่งปิดร้านอาหารและร้านค้า หลังญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อควบคุมโรค เมื่อ 11 เม.ย.ก่อนยกเลิกเมื่อ 19 มิ.ย. และทางการโตเกียวใช้งบฉุกเฉินไปกับการเยียวยาช่วงโควิดแล้ว 95% จากทั้งหมด 9.35 แสนล้านเยน (ราว 8,900 ล้านดอลลาร์) ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ให้สัมภาษณ์กับ นิคเค เอเชียน รีวิว ว่าการขอให้ร้านอาหารและร้านค้าปิดบริการ เพื่อยับยั้งการระบาดระลอกสองนี้ จะเป็นภาระอย่างมหาศาลสำหรับการคลังโตเกียว แต่จะหาแนวทางอื่นในเชิงยุทธศาสตร์ เช่น อาจขอให้บางภาคธุรกิจ หรือบางพื้นที่แบบเจาะจง ปิดทำการ ตามความจำเป็น ขณะเดียวกัน ทางการโตเกียวกำลังพิจารณาหาสถานพยาบาลแห่งใหม่เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่พุ่งทะยาน...
ขอบคุณข้อมูลจาก: คมชัดลึก
