ในโลกที่แทบทุกอย่างมีการใช้สแกนลายนิ้วมือ เพื่อป้องกันการจารกรรมข้อมูลสำคัญ แต่กับชายคนนี้ดันเกิดมาไร้ลายนิ้วมือใดๆ นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์และดาบสองคมอย่างแท้จริง
นับเป็นเวลาหลายชั่วอายุคนของตระกูลซาเกอร์ ที่เกิดมาพร้อมร่างกายครบ 32 ทุกประการโดยที่ไม่มีปัญหาใดๆ หากแต่ผู้ชายจากตระกูลนี้ทุกคนจะเกิดมาโดยที่ไม่มีลายนิ้วมือแทบทั้งสิ้น ซึ่งไอ้เรื่องที่ไม่มีลายนิ้วมือในสมัยก่อนนั้นอาจจะยังไม่เป็นปัญหาอะไรมาก หากแต่ในยุคนี้อย่างที่กล่าวไป แทบทุกอย่างต้องสแกนลายนิ้วมือทำให้ผู้ชายจากตระกูลนี้ต้องลำบากกันหน่อย
"ผมจ่ายค่าเทอม สอบจนผ่านทุกวิชา แต่ผมไม่ได้ประกาศนียบัตรเพราะพวกเขาระบุตัวตนผมผ่านลายนิ้วมือไม่ได้" อะมาล ซาร์เกอร์ หนึ่งในสมาชิกตระกูลซาร์เกอร์ กล่าวกับทาง BBC ว่าเวลาที่ต้องใช้งานลายนิ้วมือแล้วเขาไม่มีนั้น มักจะเป็นประสบการณ์ที่น่าอับอายมากสำหรับเขา อย่างเช่นเวลาเขาถูกตำรวจโบกให้จอดขณะขี่รถจักรยานยนต์ แต่เมื่อเขาเอาใบขับขี่พร้อมโชว์นิ้วมือที่ไร้ซึ่งลายเฉพาะบุคคลให้ดูแล้ว เขาก็โดนปรับเงินอยู่เรื่อยเพียงเพราะตำรวจอ้างว่า "ไม่สามารถระบุตัวตนได้"
อีกอย่างหนึ่งคือตอนที่เขาซื้อซิมการ์ดใส่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะต้องมีการสแกนลายนิ้วมือเพื่อให้ตัวตนตรงกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้เขาไม่สามารถมีเบอร์เป็นของตัวเองได้และต้องคอยยืมบัตรโทรศัพท์ของแม่อยู่เสมอ ส่วนสาเหตุของความผิดปกตินี้เกิดจากอะมาลป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมสุดหายากชื่อว่า Adermatoglyphia ทำให้พวกเขาเกิดมาพร้อมมือที่เรียบเนียน ซึ่งบรรดาแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรกันแน่
อะปู ซาร์เกอร์ สมาชิกอีกคนหนึ่งจากครอบครัวนี้ออกมาระบายความในใจ เมื่อถูกถามว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรว่า "ผมเบื่อที่จะต้องมาอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมถามหาคำแนะนำขอความช่วยเหลือสารพัด แต่กลับคว้าน้ำเหลว ไม่มีใครบอกผมชัดๆสักทีว่าผมเป็นอะไรกันแน่ บางคนก็บอกให้ลองไปร้องศาลดู ถ้าหากทุกหนทางมันล้มเหลว เออผมว่านั่นน่าจะเป็นทางออกสุดท้ายแล้ว"
แต่เคราะห์ดีที่เทคโนโลยีสมัยนี้มันก้าวไกลและมีหลากหลายทางเลือกมากขึ้น อย่างเช่นอะปูและพ่อของเขาสามารถใช้วิธีสแกนม่านตาเพื่อระบุตัวตนแทนลายนิ้วมือได้แล้ว ได้ทำบัตรประชาชนอย่างคนอื่นเสียที ซึ่งพวกเขาก็ได้แต่หวังว่าเทคโนโลยีสแกนม่านตานี้จะช่วยให้เขาใช้ชีวิตในยุค 4.0 นี้ได้อย่างราบรื่นเสียที...
ขอบคุณข้อมูลจาก: OddityCentral, Pradip Kumar Nath