ทางการเกาหลีใต้จับกุมและตั้งข้อหาชาวไทย ฐานลักลอบขนยาไอซ์หนัก 4 กก. เข้าประเทศ มูลค่า 1.34 หมื่นล้านวอน (ราว 377 ล้านบาท) ผ่านบริการขนส่งทางอากาศเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
1 มิ.ย. 64 ในโลกออนไลน์ได้มีกระแสพูดถึงในวงกว้างหลังจากทางด้าน สำนักข่าว ยอนฮัป ของเกาหลีใต้ รายงานว่า อัยการเขตซูวอน ทางตอนใต้ของกรุงโซล ส่งตัวชาวไทยวัย 32 ปี เข้ารับการไต่สวนในชั้นศาลแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 31 พ.ค. 2564 หลังจากเขาถูกจับกุมและตั้งข้อหาลักลอบนำเข้าสารต้องห้ามจำนวนมากจากประเทศไทย ผ่านบริการขนส่งทางอากาศเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
อัยการระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ถูกตั้งข้อหา หลังจากไปรับยาไอซ์ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในถุงอาหารเสริมประเภทโปรตีน ที่ถูกส่งมาเมื่อ 6 พ.ค. แลกกับค่าจ้างจำนวน 200,000 บาท หรือราว 7.5 ล้านวอน โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดยาไอซ์น้ำหนัก 4 กก. ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.34 หมื่นล้านวอน (ราว 377 ล้านบาท) ได้จากชาวไทยรายนี้ ทั้งนี้จากสถิติในช่วงตลอด 16 ปีที่ผ่านมา มียาไอซ์ถูกลักลอบนำเข้าสู่เกาหลีใต้เฉลี่ย 33 กก.ต่อปี ซึ่งจำนวนนี้ยึดได้จากชาวไทยรายนี้คิดเป็น 12% ของจำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้สำนักงานอัยการยังจับกุมและต้องข้อหาชาวไทยอีก 5 คน และชาวเกาหลีใต้ 2 คนในข้อหาลักลอบขนสารต้องห้ามหลากหลายประเภท รวมถึง ยาไอซ์ 170 กรัม, ยาบ้า 1,576 เม็ด, ยาเค 97 กรัม, ยาอี 55 เม็ด และยาแอลเอสดี 190 ชิ้น เข้าสู่เกาหลีใต้ผ่านการส่งพัสดุจากต่างประเทศ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีก่อนจนถึงพฤษภาคมปีนี้ นอกจากนั้นสำนักงานอัยการเผยอีกว่า พวกเขาสามารถทลายเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดนี้ได้ผ่านการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมศุลกากรเมืองอินชอน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก EasyYukhon
ขอบคุณภาพประกอบข่าวเพิ่มเติมจาก pixabay
