ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง (Monkeypox) ที่กำลังมีการแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งการแพร่นั้น สามารถติดได้จากสารคัดหลั่ง และในผู้ป่วยหลายรายดูออกได้ยากว่าเป็นฝีดาษลิงหรือไม่

ล่าสุด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ถึงอาการฝีดาษลิงยุคใหม่ โดยระบุว่า

"อาการฝีดาษลิงยุคใหม่ 5/6/65 สิ่งที่ต้องระวังและทำให้หลุดรอดจากการวินิจฉัยของแพทย์ และคนติดเชื้อเอง อาจไม่ตระหนักด้วยซ้ำ
1. ไม่เหมือนคลาสสิกในตำราก็ได้
2. เป็นจุด แผลจิ๋ว ๆ ตุ่มน้ำ หนอง ขนาดไม่ใหญ่ก็ได้ จำนวนไม่มาก
3. ลักษณะบอกยากว่าเป็นเริม งูสวัด ซิฟิลิส

4. อยู่ในที่ตกสำรวจในบริเวณก้น รูช่องทวาร องคชาติ โดยที่ไม่มีที่ส่วนอื่นของร่างกาย
5. อาการอื่นนอกจากไข้อาจไม่มีหรือไม่ชัดเจน เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต
6. เป็นการติดต่อจากคนสู่คน และคนที่ติดเชื้อ เริ่มหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงไม่ได้ชัดเจน จัดเป็นการแพร่ในระดับชุมชน

ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างตรงที่อาการไม่รุนแรงแม้แพร่ติดต่อได้ระดับหนึ่ง และที่คนอาจจะชอบก็คือไม่ต้องกลัวเสียโฉมมาก ข้อมูลรวบรวมจาก UK health security agency US CDC WHO และ จากรายงานในประเทศต่าง ๆ"
