หลายคนน่าจะทราบกันแล้วว่า สรรพคุณของการกอดนั้นมีแต่คุณประโยชน์มากมาย ด้วยนักวิจัยออกมาบอกว่า การกอดช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด รวมถึงเพิ่มความภูมิใจในตัวเองได้ดีอีกด้วย
แต่นอกจากกอดแล้ว ท่ากอดก็สำคัญอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะมันสามารถบอกสถานะของผู้กอดและผู้ถูกกอดได้ อีกทั้งยังมีความหมายลึกซึ้งแฝงอยู่ภายในอีกด้วย เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนหันมากอดกันมากขึ้น เว็บไซต์ Brightside ได้รวบรวมท่ากอดยอดนิยม พร้อมเผยความหมายที่ซ่อนอยู่มาให้ทุกท่านได้ชมกัน เพื่อเป็นความรู้ในการกอดให้ถูกวิธี และสร้างความสัมพันธ์อันกลมเกลียวแน่นแฟ้นให้มากยิ่งขึ้นไป
1. กอดตัวเอง
ถ้าไม่มีใครให้กอด ก็มากอดตัวเองกันดีกว่า อาจจะฟังดูเหงาๆ แต่การกอดตัวเองนั้นช่วยผ่อนคลายความเครียดทำให้จิตใจสงบ และช่วยให้กำลังใจได้ดีอีกด้วย
2. กอดพร้อมเต้นรำเบาๆ
ถือเป็นกอดที่คลาสสิคมากทีเดียว เริ่มจากเอาแขนโอบรอบคออีกฝ่าย ส่วนอีกฝ่ายก็เอาแขนวางไว้ที่เอว แล้วค่อยๆโยกคลอไปตามเสียงเพลงในฟลอร์เต้นรำ บอกเลยว่าไม่มีอะไรโรแมนติกเท่ากอดนี้อีกแล้ว และถ้าจะให้โรแมนติกกว่านี้ ทั้งคู่ต้องจ้องมองกันและกัน ส่งผ่านความรู้สึกไปทางแววตาอันสุกใส แล้วค่อยๆยิ้มให้แก่กัน บอกเลยยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์
3. กอดแบบสูงต่ำไม่เท่ากัน
กอดแบบนี้ส่วนใหญ่จะเห็นได้บ่อยในคู่รัก และคู่รักส่วนใหญ่ก็จะสูงไม่เท่ากันด้วย แต่นั่นไม่ได้ทำให้กอดของพวกเขาจืดจางไปแม้แต่น้อย เริ่มต้นฝ่ายชายที่สูงกว่า โน้มตัวลงมาเล็กน้อยเพื่อมองตาของฝ่ายหญิง เอามือประสานกันรอบเอว ส่วนฝ่ายหญิงเอื้อมไปโอบที่คอของฝ่ายชาย แม้อาจต้องเขย่งขาสักนิดตามความสูงมากน้อยของฝ่ายชาย แต่นั่นยิ่งทำให้ภาพรวมดูน่ารักและโรแมนติกมากขึ้น
4. กอดจากข้างหลัง
กอดนี้บ่งบอกถึงความรู้สึกลึกๆภายในใจของผู้สวมกอด ส่วนใหญ่กอดนี้มักจะใช้กับการบอกรักแบบอ้อมๆสำหรับใครที่ไม่ชอบพูด อีกทั้งกอดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกภายในใจของผู้กอด ว่าเขาพร้อมที่จะดูแลและรับผิดชอบคนที่เขากอดด้วยใจจริง
\r\n
5. กอดแบบซึมซาบ
นี่อาจเป็นกอดที่ดูธรรมดา แต่พลังทำลายล้างสูงที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งกอดแบบนี้จะใช้เวลานานกว่ากอดอื่นๆสักเล็กน้อย โดยทั้งสองฝ่ายจะสวมกอดแนบไปที่หน้าอกของกันและกัน ออกแรงรัดเล็กน้อยเพื่อส่งผ่านความรู้สึกภายในใจที่มีต่อผู้สวมกอด ทั้งยินดี ปลอบประโลม รักและเป็นห่วงไปยังอีกฝ่าย บางครั้งใช้มือตบเบาๆ เพื่อเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกันก็ดีไปอีกแบบ
6. กอดโลมเล้า
อีกหนึ่งกอดยอดนิยมที่มักใช้กันในหมู่คู่รักที่คบกันใหม่ๆ ปกติกอดนี้จะใช้เวลากับมันสักเล็กน้อย ก่อนจะตามด้วยถ้อยคำสุดโรแมนติกเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้อบอวลไปด้วยความสุขก็ย่อมได้
7. กอดแบบตัวเอ
กอดนี้มักใช้กับคนที่เราเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก โดยเป็นการโน้มลำตัวส่วนบนเข้าหากัน แล้วเอามือโอบพอเป็นพิธี ไม่ได้กอดรัดแน่นอะไรมากมาย และใช้เวลาเพียงชั่วครู่ นอกจากใช้กับคนที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกแล้ว ยังสามารถใช้กับคู่รักที่เลิกรากันไป แต่ความรู้สึกดีๆยังมีให้กันอยู่ได้อีกด้วย
8. กอดเป็นหมู่คณะ
ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ เพื่อแสดงออกถึงความรักใคร่กลมเกลียวกัน โดยเฉพาะเวลานัดเจอเพื่ออัปเดทสถานะชีวิตซึ่งกันและกัน หรือไม่ก็ใช้เวลาจะเริ่มต้นทำโปรเจกต์บางอย่างกับเพื่อนร่วมทีม เพื่อเป็นการแบ่งพลังงานบวกให้คนในทีมมีกำลังใจฝ่าฟันทุกอุปสรรคในการทำโปรเจกต์นี้ให้สำเร็จ
9. กอดลูกผู้ชาย
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ากอดแบบไหน กอดนี้หนุ่มๆมักใช้เวลาทักทายกัน โดยไม่มีการใช้ eye contact เมื่อกอดแล้วจะตามด้วยการตบไหล่เบาๆสักทีสองที แล้วค่อยผละจากกันแล้วจับมือถือไม้ทักทายกันตามปกติ
10. กอดแบบโอบข้าง
ปกติกอดนี้มักจะใช้เวลานั่งข้างๆ ระหว่างคนสองคนเพื่อให้กำลังใจ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน หรือแสดงความเป็นมิตรกับฝ่ายตรงข้าม กอดนี้ยังสามารถทำให้มันโรแมนติกได้ยิ่งขึ้นโดยขึ้นอยู่กับสถานที่ เช่นในโรงหนังก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวทีเดียว
11. กอดแบบหมี
หรือภาษาอังกฤษที่คุ้นหูกันว่า แบร์ฮัก เป็นกอดที่สาวๆน่าจะชื่นชอบมากที่สุดก็เป็นได้ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิด ความผูกพันกันกับฝ่ายชายที่เป็นผู้สวมกอด แต่กอดนี้ถ้าคุณผู้ชายคุมแรงไม่อยู่ จากกอดโรแมนติก อาจกลายเป็นโรแมนตุ้บเพราะทำสาวเจ้าหล่นพื้น เจ็บตัวไปอีกก็เป็นได้ ดังนั้นฝ่ายชายควรเบามือและอ่อนโยนกับหญิงสาวผู้บอบบางของคุณให้ดี กะจังหวะแม่นๆแล้วกอดของคุณจะไร้ที่ติ!
ขอบคุณข้อมูลจาก: Brightside
Photo credit: Leisan Gabidullina/Brightside