วันพุธที่ 24 เมษายน 2567
SHARE

4 วิธี หยุดพฤติกรรม "ยืมเงินคนอื่น" (สักทีเหอะ!)

โพสต์โดย แสงอุษา เมื่อ 21 มีนาคม 2565 - 16:33

ใช่ค่ะ.. อ่านไม่ผิด นี่คือ 4 ข้อ หยุดพฤติกรรมตัวเอง ไม่ให้ยืมเงินคนอื่น ไม่ใช่วิธีจัดการกับคนชอบยืมเงินค่ะ เพราะไม่รู้จะหาวิธีร้อยแปดแค่ไหน ก็จัดการไม่ได้สักที ตราบใดที่ "คนยืม" ก็ยังมีพฤติกรรมเดิมๆ ยืมเหมือนเดิม.. ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ ตาละห้อยมายืมเงินเราตลอดๆ ซึ่งไม่ว่าเราจะหาวิธีจัดการกับคนพวกนี้มามากมายแค่ไหน สุดท้ายก็ยังมีหลุดรอดมายืมเราจนได้ หรือต่อให้ยืมเราไม่สำเร็จ ก็ไปหาเหยื่อรายอื่น เดือดร้อนคนอื่นๆ รอบๆ ข้าง ไม่จบไม่สิ้น ซึ่งมัน "น่ารำคาญ" แหละ.. จริงมั๊ยล่ะ

วันนี้ ผู้เขียนจึงขอเจาะจงถึง "คนที่ชอบยืมเงินคนอื่น" กรุณาเข้ามาอ่านให้จบ และช่วยปรับพฤติกรรมของคุณ ก่อนที่คุณจะกลายเป็นคนที่ คนรอบข้าง "รังเกียจ" ไปมากกว่านี้ค่ะ!

เรื่องเงิน.. เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใคร ออกใคร มันไม่สำคัญว่า คุณลำบากเหลือเกิน คุณเดือดร้อนเหลือเกิน และคุณคิดว่า คนที่คุณรู้จัก จะต้องรักคุณทั้งหมด จะต้องช่วยเหลือคุณทั้งหมด ฮัลโหล.. ตบหน้าตัวเองสัก 1 ฉาด แล้วลองค่อยๆ สำรวจตัวเอง ปรับพฤติกรรมตัวเอง จากคำแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ

1. หาต้นเหตุของความเดือดร้อน

คนเดือดร้อนคือใครคะ.. ตัวคุณ ลูกเมียคุณ สามีคุณ พ่อแม่พี่น้องคุณฯลฯ คุณต้องถามตัวเองว่า "ใคร" ทำให้คุณเดือดร้อน แน่นอนว่า คำตอบ ต้องไม่ใช่ "คนที่คุณกำลังจะไปยืมเงิน" เพราะเวลาที่คุณเดือดร้อน ส่วนหนึ่ง มันก็มาจากตัวคุณนั่นแหละ ไม่ว่าคุณจะทำตัวเองเดือดร้อน หรือเห็น-อก เห็นใจคนรอบข้างที่กำลังเดือดร้อน จนต้องอยากออกตัวไปหยิบยืมเงินคนอื่นมาให้ มันก็เกิดจาก "ความคิดของตัวคุณ" ทั้งนั้น

 

แล้วทีนี้ เมื่อคุณกำลังเดือดร้อน คุณก็ควรจัดการปัญหานั้นด้วยตัวเอง และไม่ไป "เพิ่ม" ความเดือดร้อนให้คนอื่น เพราะการที่คุณกำลังคิดจะไปยืมเงินคนอื่น นั่นคือคุณกำลังจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย (ซึ่งอาจจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานของคุณ เพื่อนสนิท คนรอบๆ ตัวคุณ) ซึ่งมันใช่เรื่องไหมล่ะคะ ต้นเหตุของความเดือดร้อนของคุณ ทำไมคุณต้องไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นต่อ?

 

คุณอาจจะกำลังเถียงในใจ ว่า.. ทำไมล่ะ คนที่คุณกำลังจะไปยืมเงิน ดูดีมีฐานะ ใช้ชีวิตดีๆ ให้ยืมเงินสักนิดสักหน่อย เขาก็ไม่เดือดร้อนหรอก... ตบหน้าตัวเองรอบ 2 แล้วอ่านข้อต่อไปค่ะ!

 

2. ปรับทัศนคติของตัวเอง ว่าเงินใคร ใครก็หวง

 

เลิกความคิดที่ว่า คนที่ดูดีมีฐานะกว่า จะไม่เดือดร้อนอะไร เวลาที่ถูกยืมเงิน เลิกความคิดพวกนี้ค่ะ เพราะมันทำให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่ "เห็นแก่ตัว" มากแค่ไหน ขนาดตัวคุณเองยังหาเงินมาหมุนไม่ได้ คุณก็น่าจะรู้ว่าเงินมันมีค่าแค่ไหน หามายากแค่ไหน แล้วทำไมกับคนที่เขาดูมีฐานะ เขาจะไม่คิดแบบนั้นคะ คุณก็รู้ ว่าไม่มีใครเสกเงินได้ แต่ละคนก็มีวิธีหาเงิน มีวิธีเก็บเงิน มีวิธีจัดการกับเงินตัวเอง ตามสไตล์ของตัวเอง ตามความสามารถของตัวเองทั้งนั้น การที่เขามีมากกว่า เขาก็อาจจะเคยเดือดร้อนมาก่อน และแก้ไขปัญหาของตัวเองมาแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควร "คิดไปเอง" ว่าการมีมากกว่า คือเป็นเป้าหมายให้คนรอบข้างที่ "มีน้อยกว่า" มาหยิบยืมได้ง่ายๆ

 

ดังนั้น ถ้าคุณสำนึกได้ว่า เงินใคร ใครก็หวง คุณก็ควรเริ่มหยุดความคิด ที่จะไปจ้องยืมเงินคนที่มีมากกว่า เวลาคุณเดือดร้อนสักที เพราะมันยิ่งทำให้คุณดูเป็นคนที่เห็นแก่ตัว และคนเห็นแก่ตัว ก็ย่อมจะมีแต่คนที่รังเกียจ คุณเองคงไม่อยากเป็นที่รังเกียจของคนรอบๆ ข้างใช่ไหมคะ ดังนั้น อ่านข้อต่อไปเลยค่ะ

 

3. รู้ตัวสักที ว่าการยืมเงิน มันทำให้คุณดูไร้ค่า และน่ารังเกียจ

 

ใช่ค่ะ.. ไม่มีใครเห็นคุณน่ารักหรอกค่ะ ถ้าคุณเอ่ยคำว่า "ขอยืมเงินหน่อย" ไม่ว่าเงินนั้น จะมาก จะน้อย ความเดือดร้อนของคุณ ไม่ได้ทำให้คนรอบข้างคุณเห็นใจหรอกค่ะ เพราะสุดท้าย เรื่องของคุณ ปัญหาของคุณ มันก็คือปัญหาของคุณค่ะ! คนที่เคยให้เงินคุณยืมไป ไม่ว่าคุณจะคืนเขาแล้ว หรือจนป่านนี้ก็ยังไม่คืน เขามีแต่ความรังเกียจ และอยากเลิกคบคุณกันทั้งนั้น ไม่มีใครรักคุณแบบที่คุณคิดไปเองหรอกค่ะ ทุกวันนี้ ที่เขาอาจจะไม่ได้เอ่ยปากทวงคุณ ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจ ไม่ได้หมายความว่าเขาเห็นเงินเป็นเศษขยะที่ไม่ได้อยากได้คืน แต่..เขาเห็นคุณเป็นเศษขยะที่ไม่อยากจะเสวนาด้วยต่างหากค่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าการ "ยืม" แต่คุณ "ไม่คืน" ก็ไม่ต่างอะไรกับ การถูกขโมยเงิน ซึ่งมันไม่มีใครเต็มใจให้ใครขโมยเงินหรอกค่ะ จริงไหมคะ

 

คนที่มีพฤติกรรมชอบยืมเงินคนอื่น แล้วเวลาเขาไม่ให้ ก็ยิ่งไปด่าเขา ไปโกรธไปเกลียดเขา ว่าเขา-งก บ้าง ไร้น้ำใจบ้าง ผู้เขียนอยากจะช่วยตบหน้าคุณ รอบที่ 3 แล้วบอกว่า คุณแม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลยค่ะ เพราะคนที่เห็นแก่ตัว ไร้น้ำใจ คิดแต่เรื่องของตัวเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล มันคือตัวคุณเอง คุณลองส่องกระจกดูค่ะ ว่าถ้าคุณเกลียดคนรอบข้างที่เขาไม่ให้เงินคุณยืม แล้วคุณมีเหตุผลอะไรบ้าง ที่พวกเขาควรจะรักคุณ?

 

เริ่มตาสว่างได้แล้วนะคะ ว่าคุณดูน่ารังเกียจ แม้จะไม่มีใครกล้าบอกคุณตรงๆ แต่ผู้เขียนบอกแทนอยู่นี่ค่ะ ว่าคุณน่ารังเกียจจริงๆ ซึ่งถ้าอยากเลิกเป็นคนน่ารังเกียจ อ่านข้อต่อไปค่ะ

 

4. ทำตัวให้มีค่า บอกตัวเองว่าจะไม่เป็นที่รังเกียจของสังคมอีกต่อไป

 

ถ้าคุณเริ่มตาสว่างแล้วว่า คนรอบข้างเขารู้สึกกับพฤติกรรมของคุณอย่างไร คุณต้องรวบรวมสติ แล้วปรับตัวเองให้กลับมาเป็น เพื่อนที่ดี คนรู้จักที่น่ารัก ญาติที่น่าเคารพ ฯลฯ หาวิธีคืนเงิน (ที่ยืมคนอื่นไปเป็นชาติ) ไม่ว่าจะมากจะน้อย หาวิธีนำเงินไปคืนเขาให้ได้ค่ะ และล้มเลิกความคิดที่จะยืมแต่เงินคนอื่นให้ได้ ท่องข้อ 2 ไว้ให้ขึ้นใจ "เงินใคร ใครก็หวง" ท่องไว้เลย 3 เวลาหลังอาหารค่ะ และหาวิธีอื่นในการแก้ปัญหา นั่งคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ให้ได้ ว่าคุณจะจัดการกับปัญหาตรงหน้าอย่างไร จะใช้ร่างกาย ลมหายใจของตัวเองอย่างไร ในการหาเงินให้ได้มากขึ้น คิดถึงศักดิ์ศรีของตัวเองไว้ค่ะ ตั้งใจไว้ว่าถ้าคุณยังไม่ตาย คุณจะไม่ยืมเงินใครอีก มุ่งมั่นและทำให้ได้ เพราะตราบใดที่คุณยังมีลมหายใจ คุณหาเงินได้แน่นอนค่ะ งานสุจริตที่ทำแลกเงิน บนโลกนี้มีมากมาย ซึ่งมันขึ้นอยู่กับว่า คุณตั้งใจจะหาหรือเปล่า คนไม่เลือกงาน ไม่มีทางยากจนค่ะ จะได้มามาก หรือน้อย จะช้าจะเร็ว มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจค่ะ คุณต้องหาทางออกอื่นๆ ได้แน่นอนค่ะ ทางที่ไม่ใช่การ "ยืมเงินคนอื่น" อีกต่อไป

 

และนี่ก็คือ 4 ข้อที่ผู้เขียนอยากเขียนถึง คนที่มีพฤติกรรม ชอบยืมเงินคนอื่นนะคะ ยังไม่สายที่คุณจะปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้ ยังไม่สายที่คุณจะทำให้คนที่อยู่รอบตัวคุณ เลิกรังเกียจคุณ ลุกขึ้นมาสู้ค่ะ อย่าเอาวิธีง่ายๆ อย่าใช้ช็อตคัท เดือดร้อนก็ยืม เดือดร้อนก็ยืม คนนี้ไม่ให้ ก็ยืมคนนั้น ยืมคนนี้ คืนบ้างไม่คืนบ้าง มันไม่คูลเลยค่ะ ..ปรับสมอง ปรับพฤติกรรม แล้วกลับมาเป็นคนปกติ ทำมาหากินสุจริต ขยันมากขึ้น สู้งานที่คนอื่นไม่สู้ ลองลุยให้สุดดูหรือยัง หัดลองวิธีที่ยากกว่า แต่มันได้ทั้งศักดิ์ศรี และความน่าเคารพ น่าคบ กลับมาค่ะ

 

...ซึ่งถ้าท้ายที่สุดแล้ว คุณบอกทุกคนว่า ถ้าไม่ให้คุณยืมเงิน แล้วคุณจะต้องตายวันนี้ ก็ลองดูค่ะ ว่าคุณจะตายได้จริงมั๊ย? คุณจะไม่สู้ด้วยวิธีอื่นแล้วจริงมั๊ย? ถ้าคุณบอกว่า "ใช่" นั่นก็หมายความว่า คุณก็พร้อมจะตายแล้วค่ะ การที่คนรอบข้าง ปล่อยให้คนไร้ค่าอย่างคุณ ตายไปสักคน มันก็ยังไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนอยู่ดีค่ะ เพราะคนที่ตายคือคุณ ไม่ใช่พวกเขา!

 

ผู้เขียนขออภัยสำหรับบทความนี้ ที่อาจจะดูจริงใจ แทงใจดำ และตรงไปตรงมาไปหน่อยนะคะ จริงๆ ผู้เขียนตั้งใจจะเขียน "วิธีจัดการขั้นเด็ดขาด กับคนที่ชอบยืมเงิน" แต่คิดไปคิดมา วิธีการจัดการง่ายนิดเดียวค่ะ แค่แชร์บทความนี้ ไปบนโซเชียลของคุณ แล้วใส่แคปชั่นว่า "เข้ามาอ่านซะนะ พวกที่ชอบยืมเงินฉัน" ... จบค่ะ ยิงนกตัวเดียว ได้ปืนสองกระบอก สวัสดีค่ะ!



แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com