bogglingfacts รวบรวม 10 เรื่องราวที่น้อยคนจะรู้เกี่ยวกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา พื้นที่อาถรรพ์กับข้อมูลสุดลึกลับ แฟน ๆ เรื่องเหนือธรรมชาติของเว็บไซต์ จาม ดอทคอม (Jarm.com) ต้องอ่าน
มีหลักฐานว่า กองทัพสหรัฐอเมริกา มีศูนย์ทดสอบ UFO ที่เรียกว่า United States Navy’s Atlantic Undersea Test and Evaluation Center ใกล้กับที่ตั้งของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ปี 1945 กองทัพสหรัฐต้องสูญเสียนักบินฝูงบินทิ้งระเบิด และหน่วยกู้ชีพที่ออกไปค้นหารวม 27 นาย ความน่ากลัวคือบันทึกเสียงจากนักบินที่กล่าวว่า มีบางอย่างผิดปกติ ทุกอย่างแปลกไป ก่อนที่จะขาดการติดต่อไปตลอดกาล
นักสำรวจชื่อก้อง คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยเจอเหตุการณ์ประหลาดที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เขาบันทึกเหตุการณ์ไว้ว่า เข็มทิศใช้การไม่ได้ และเห็นดวงไฟประหลาดลอยอยู่บนท้องฟ้า
วันที่ 3 พฤศจิกายน 1978 เครื่องบินโดยสารสายการบิน Eastern Caribbean Airways หายไปจากจอเรดาร์ น่าแปลกที่ตำแหน่งสุดท้ายของเครื่องบิน อยู่ห่างจากสนามบินไม่เกิน 2 ไมล์ แต่ทีมค้นหากลับไม่พบเครื่องบินเลย
\r\n
เรือรบ USS Cyclops ของกองทัพเรือสหรัฐ สูญหายพร้อมลูกเรือ 306 นาย บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของกองทัพเรือ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการสงคราม
น่าแปลกที่บริษัทประกันภัย กลับไม่คิดเบี้ยประกันที่สูงกว่าปกติสำหรับการเดินเรือผ่านพื้นที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
มีบางทฤษฎีเชื่อว่า นครที่สาบสูญใต้น้ำอย่างแอตแลนติส ความจริงแล้วจมอยู่ใต้ผืนน้ำบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
มีสถิติเก่าที่เคยบันทึกว่า ในแต่ละปี จะต้องมีเครื่องบิน 4 ลำ, เรือ 20 ลำ สังเวยให้กับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา และจากการบันทึกตั้งแต่ปี 1900 มีชีวิตที่ต้องสาบสูญไปแล้วมากกว่า 1,000 ราย
การค้นพบที่อาจเป็นกุญแจเฉลยหายนะของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาคือ มีการตรวจพบก๊าซมีเทนในน้ำ ซึ่งก๊าซดังกล่าวทำให้ความหนาแน่นของน้ำลดลง จึงอาจเป็นผลให้เรือจม ขณะเดียวกันก็ทำให้ชั้นบรรยากาศเหนือผิวน้ำเบาบาง จนเป็นเหตุให้เครื่องบินตก ซึ่งหลายครั้งที่การสำรวจไม่พบก๊าซดังกล่าว เป็นเพราะ มันโดนกระแสน้ำอุ่นทำลายไปซะก่อน
นักบิน Bruce Gernon คือพยานเพียงคนเดียวในโลกที่เคยพบเห็นปริศนาภายในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา หลังท่องผ่านอุโมงค์เวลา นาน 28 นาที เค้ามองไม่เห็นผิวโลกหรือท้องฟ้า จากนั้น ก็โผล่เหนือชายหาดไมอามีเฉยเลย
ขอบคุณ bogglingfacts