วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567
สาระน่ารู้!! เคยสงสัยไหมตาปลาเป็นได้ไง ลองมาดูคลิปนี้ จะทำให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น
SHARE

สาระน่ารู้!! เคยสงสัยไหมตาปลาเป็นได้ไง ลองมาดูคลิปนี้ จะทำให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย Uchiha Jarm เมื่อ 28 กรกฏาคม 2558 - 22:02

 

          รู้หรือไม่ ?? สาเหตุของตาปลาอาจเกิดได้ทั้งจากสาเหตุภายนอก หรือสาเหตุภายในของร่างกาย

สาระน่ารู้!! เคยสงสัยไหมตาปลาเป็นได้ไง ลองมาดูคลิปนี้ จะทำให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น

  • ตาปลาเกิดจากสาเหตุภายนอก

หรือการกระทำของตัวคุณเองอย่างเช่น ใส่รองเท้าที่คับ บีบรัด หรือแน่นมากเกินไป รวมทั้งเดินเท้าเปล่าบ่อยๆ ซึ่งนอกจากจะเกิดบริเวณเท้าแล้ว อาจเกิดที่อวัยวะส่วนอื่นได้ เช่น บริเวณนิ้วมือที่ออกแรงกดมากเวลาจับปากกา เป็นต้น

  • ตาปลาเกิดจากสาเหตุภายใน

หรือความผิดปกติของร่างกาย เช่น มีรูปเท้าผิดปกติ ทำให้เท้าถูกดทับมากมีกระดูกเท้าปูดนูนออกมา หรือเป็นโรคข้อรูมาตอยด์

 ตาปลากับการดูแลรักษา

                การรักษาตาปลาโดยเบื้องต้นนั้นคุณสามารถทำได้เอง โดยผลการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน

  • ใช้หินขัดเท้า โดยแช่เท้าในน้ำอุ่นแล้วขัดถูบริเวณที่เป็นตาปลา
  • เฉือนตาปลาออก ควรทำให้ตาปลานิ่มลงก่อน โดยการแช่เท้าในน้ำอุ่นแล้วใช้มีดโกนเฉือน ซึ่งหากเฉือนอย่างถูกต้อง ไม่ลึกเกินไปก็จะไม่ทำให้เลือดออก ดังนั้นเมื่อเฉือนไปแล้วมีความรู้สึกเจ็บก็ควรหยุดทันทีเพราะหากมีเลือดออกอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้ ดังนั้นจึงควรต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง
  • ใช้ยาทา ตัวยาจะทำให้ตาปลานิ่มลงและค่อยๆ หลุดไปเอง เช่น ยาที่มีส่วนผสมของกรดซาลีไซลิก (Salicylic Acid) โดยยาอาจอยู่ในรูปของยาทาทั่วไป หรือเป็นพลาสเตอร์ข้อดีของการทายาคือ ราคาไม่แพงเมื่อหายแล้วจะไม่มีแผลเป็น ส่วนข้อเสียคือ ถ้าไม่หมั่นทายาก็จะไม่หาย หรือถ้าทายามากไปอาจทำให้ผิวถลอกและมีการติดเชื้ออักเสบได้
  • วิธีแบบภูมิปัญญาไทย คือผ่ากระเทียมสดเป็นชิ้นหนาๆ แล้วนำมาถูกบริเวณที่เป็น แล้วแปะส่วนที่เหลือตรงตาปลา พันทับด้วยผ้าพันแผลปล่อยไว้ข้ามคืนแล้วค่อยแกะทิ้งทำซ้ำทุกคืนประมาณ 1 – 2 สัปดาห์

          หากมีอาการเจ็บมาก และรักษาเองเบื้องต้นแล้วยังไม่ได้ผล อาจต้องรักษาโดยการจี้ออกด้วยการใช้ไฟฟ้าหรือเลเซอร์ หรือใช้การผ่าตัด ซึ่งรักษาหายได้เร็วกว่าการทายา แต่อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ และมีค่าใช้จ่ายสูง

          วิธีที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการเกิดตาปลา ควรเลือกรองเท้าที่กระจายน้ำหนักตัวได้ทั่วฝ่าเท้า เพื่อลดการเกิดแรงกดมากๆ ในบางจุด ไม่ใส่รองเท้าที่คับแน่น หรือรัดเกินไป พื้นรองเท้าควรนิ่มและยืดหยุ่นได้ดี หากรูปเท้าของคุณมีความผิดปกติ ควรเลือกรองเท้าที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับอาการ คนที่น้ำหนักมากจะมีแรงกดทับมาก ทำให้เป็นตาปลาได้ง่ายกว่าจึงไม่ควรปล่อยตัวให้อ้วน รวมถึงเลือกถุงเท้าที่ไม่รัดแน่นไป และควรใส่ถุงเท้าก่อนสวมรองเท้าเพื่อลดการเสียดสี นอกจากนี้ควรดูแลรักษาความสะอาดของเท้า หมั่นดูแลไม่ให้ผิวที่เท้าแห้งโดยการทาครีมบำรุง เพื่อสุขภาพที่ดีของผิวหนังที่เท้าของคุณคับ

ขอบคุณข้อมูลจาก healthmeplease.com

เรียบเรียงโดย Boxza.com

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com