ของกินบางอย่าง เราก็กินเป็นธรรมเนียม เหมือนดูหนังต้องมีข้าวโพดคั่ว แล้วทำไมดูกีฬาในสนามต้องกินฮอทดอก และนี่คือที่มาของฮอทดอกในสนามกีฬา
หลายคนเป็นนะ แบบว่าเวลาชมอะไรสนุกๆต้องหาของกินมาทำให้ปากเพลิน แน่นอนว่า การดูกีฬาก็ต้องมาคู่กับของกินแกล้ม ซึ่งก็มีตั้งหลายอย่างทั้งถั่ว, ข้าวโพดคั่ว, ลูกชิ้น แต่ถ้าจะเอาแบบอเมริกันสไตล์ก็ต้องฮอทดอก (ขอบคุณภาพจาก pinterest)
ภาพที่แฟนกีฬาโดยเฉพาะเบสบอลหรืออเมริกันฟุตบอลจะคุ้นเคยกันดี คือ พ่อค้าของกินแกล้มที่เดินขายบนอัฒจันทร์ และนี่เลยพ่อค้าฮอทดอก เทวดาของแฟนกีฬา ว่าแต่...ทำไมดูกีฬาต้องกินฮอทดอก ที่มาของมันก็มีหลายตำนาน แต่ที่เล่ากันบ่อยก็มาจาก 2 ผู้อพยพที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันทั้งคู่ ซึ่งเรื่องราวก็นับย้อนไปในปี 1890 นู่น (ขอบคุณภาพจาก cbssports)
คนแรกคือ Chris Von de Ahe ผู้อพยพชาวเยอรมัน ว่ากันว่า เขามีสนามเบสบอลเป็นของตัวเอง และแทนที่จะมีรายได้แค่ค่าเช่า ค่าชม เขายังคิดค้นอาหารเข้ามาขาย ด้วยการนำขนมปังแท่งยาวๆ ถือถนัดๆ มาห่อไส้กรอก ของกินเลื่องชื่อของเยอรมัน แล้วมันก็เลยฮิตในหมู่ผู้ชมกีฬาไปเลย (ขอบคุณภาพจาก honestcooking)
คนที่สองเป็นชาวอังกฤษ ชื่อ Harry M. Stevens ที่แต่เดิมขายไอศกรีมในสนามแข่ง แต่เห็นว่ายุ่งยากแถมพอเข้าฤดูหนาวก็ขายยาก เลยเปลี่ยนเป็นขนมปังไส้กรอกที่เขาเรียกว่า "ไส้กรอกดัชชุน" ปรากฏว่าขายดี เพราะราคาถูก อุ่นกินง่าย แฟนกีฬาถือเข้าไปในสนามง่ายๆ ตั้งแต่นั้นมา มันเลยกลายเป็นของกินยอดนิยมระหว่างชมกีฬาไปเลย (ขอบคุณภาพจาก hot-dog)
เป็นไงล่ะ ที่มาของฮอทดอกในสนามกีฬา บางทีจุดเริ่มต้นก็มาจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในการทำเงิน จากเรื่องเล็กๆของพ่อค้า กลายมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปเลย (ขอบคุณภาพจาก honestcooking)
ขอบคุณข้อมูลจาก mentalfloss
แปลและเรียบเรียง Boxza