เมื่อช่วงวันที่ผ่านมาญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ซ้ำกันหลายรอบ ซึ่งลองมองย้อนดูญี่ปุ่นต้องบอบช้ำกับภัยธรรมชาตินี้มาแล้วหลายครั้ง ทำให้เราสงสัยว่าทำไมประเทศนี้ถึงต้องเกิดไหวบ่อยขนาดนี้
เนื่องจากว่าประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ท่ามกลางวงแหวนไฟแห่งแปซิฟิกซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง
(Photo credit: steamboatisland.org)
วงแหวนไฟนี้มีลักษณะเป็นเหมือนเส้นเกือกม้า ความยาวรวมประมาณ 40,000 กิโลเมตร วางตัวตามขอบมหาสมุทรแปซิฟิก แนวภูเขาไฟและบริเวณขอบแผ่นเปลือกโลก โดยมีภูเขาไฟตั้งอยู่ในวงแหวนมากถึง 452 ลูก และเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาไฟครุกกรุ่นอยู่มากที่สุดถึงร้อยละ 75% ของภูเขาไฟคุกรุ่นทั้งโลก!! จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง โชคร้ายที่ญี่ปุ่นต้องมาตั้งอยู่ทับเส้นวงแหวนไฟแห่งนี้
(Photo credit: sites.google.com/site/volcanoesandtheringoffireurja/)
มีแผ่นเปลือกโลกขนาดเล็กมากมายที่ติดกับแผ่นแปซิฟิก โดยเริ่มตั้งแต่หมู่เกาะมาเรียนา ประเทศฟิลิปปินส์ เกาะบูเกนวิลล์ ประเทศตองกา ไปจนถึง ประเทศนิวซีแลนด์ แนววงแหวนไฟยังมีแนวต่อไปเป็นแนวแอลไพน์ ซึ่งเริ่มต้นจากเกาะชวา เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย
(Photo credit: unclesamsmisguidedchildren)
จากการเคลื่อนตัวทำให้แผ่นเปลือกโลกเสียหาย หรือแตกหักและเกิดการโอนถ่ายพลังงานศักย์ ผ่านในชั้นหินที่อยู่ติดกัน พลังงานศักย์นี้อยู่ในรูปคลื่นไหวสะเทือน และสิ่งที่ตามมาก็คือ
(Photo credit: theaustralian)
หากแผ่นดินไหวระดับอย่างน้อยขนาด 7 แมกนิจูด และศูนย์กลางของแผ่นดินไหวเกิดขึ้นภายใต้มหาสมุทร จะมีคลื่นยักษ์สึนามีขนาดสามารถทำลายล้างชายฝั่งได้ในพริบตาตามมา
(Photo credit: cbsnews)
ประเทศญี่ปุ่นเคยได้บนทึกไว้ว่าแผ่นดินไหวขนาด 7 แมกนิจูด เป็นระดับที่ใหญ่ที่สุด แต่แล้วเมื่อปี 2011 ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวขนาดมากถึง 9.0 แมกนิจูด ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิทำลายล้างซึ่งสูงที่สุดถึง 40.5 เมตร ในมิยะโกะ จังหวัดอิวะเตะ ภาคโทโฮะกุ บางพื้นที่พบว่าคลื่นได้พัดพาลึกเข้าไปในแผ่นดินลึกถึง 14 กิโลเมตร และมีคลื่นที่เล็กกว่าพัดไปยังอีกหลายประเทศหลายชั่วโมงหลังจากนั้น และล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องเจอแผ่นดินไหวขนาด 7.4 แมกนิจูด
(Photo credit: earthquakenewz)
โดยทางการได้เผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นเป็นอาฟเตอร์ช็อกเก่าขนาด 9.0 ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ซึ่งในวันเดียวกันนั้นยังเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีก 2 แห่ง ขนาด 5.6 และ 5.3 แมกนิจูด ทางเกาะเหนือของนิวซีแลนด์
(Photo credit: US Geological Survey)