เรื่องสิวๆมันไม่ขี้ปะติ๋วอย่างที่คิดนะหนูๆ หลายคนเห็นเป็นไม่ได้ ต้องบีบสิวให้มันพุ่งปรี๊ดออกมาอย่างสาแก่ใจ แต่หารู้ไม่!! มันอาจส่งผลเสียอย่างมหาศาลแบบที่คนรักผิวหน้ามิอาจรับได้ มาดูกันว่าเพราะอะไร
เว็บไซต์ จาม ดอทคอม (Jarm.com) ขอเตือนเพื่อนๆหน้าใสอยากไกลสิวทั้งหลายให้มาดูข่าวนี้ก่อน เมื่อ wittyfeed เขาเอาข้อมูลมาแฉว่า ผลของการบีบสิวนั้น มันส่งผลเสียมากมายนาจา
ดร. เดวิด อี. แบงค์ กล่าวว่า มันต้องใช้เวลานานถึง 8 สัปดาห์ ตั้งแต่ที่รูขุมขนเริ่มปิด สั่งสมสิ่งอุดตัน จนกระทั่งมันพุพองออกมาในรูปของสิว
ซึ่งพวกเราพอเห็นว่ามีสิวผุด ก็จะพากันหาสารพันยามาแต้ม หารู้ไม่ว่า เรามาพบช้าไปแล้วนานถึง 8 สัปดาห์!! แต่อย่ากังวลไป สิวมันไม่ได้ทำลายชีวิตขนาดนั้น มันมีทางแก้ แต่อย่างแรก เรามารู้จักสิวกวนใจทำลายความเซลฟ์กันก่อนว่า มันมีลักษณะแบบไหนบ้าง
1. สิวหัวดำ (Blackheads) สิวที่ปรากฏกายออกมาสีเข้มเด่นชัด ลักษณะแข็งๆอุดตันในรูขุมขน ไม่รบกวนให้เรารู้สึกเจ็บอะไร ...แต่มันเด่นมากอ่ะแก
2. สิวหัวขาว (Whiteheads) ลักษณะก็ตามชื่อเลย คือ สีขาวๆ ขนาดเล็กๆ ไม่ปรากฏออกมานอกรูขุมขน แต่จะโผล่หัวนูนๆออกมา ไม่เจ็บ แต่ก็พอมองเห็นให้ได้รำคาญ
3. สิวอักเสบ (Papules) สิวลักษณะนี้ มีทั้งที่เป็นสีเนื้อและเป็นสีแดง ไม่มีของเหลวหรือหัวหนองปรากฏให้เห็น มักจะมีขนาดไม่ใหญ่เกิน 5 มิลลิเมตร บางครั้งก็เจ็บแต่บางครั้งก็ไม่รู้สึกอะไร
4. สิวหัวหนอง (Pustules) ลักษณะนูน แข็ง ข้างในมีหนอง มักจะมีสีแดงแต่หัวเหลือง ส่วนที่นูนจะหยาบ มองเห็นเด่นชัด สัมผัสแล้วสะดุดมือเชีย
5. สิวหนองขนาดใหญ่ (cysts) สำหรับสิวลักษณะนี้ เรามักเรียกว่าซีสต์ มีขนาดใหญ่ มักจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 5 มิลลิเมตร ตอนยังไม่อักเสบจะไม่รู้สึกอะไร แต่เพียงไม่นานเมื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือเหลือง จะทำให้เจ็บปวด
ส่วนสาเหตุที่เราไม่ควรจะบีบสิวอย่างมันส์มือเพราะ สิวทำให้ผิวหนังรอบรูขุมขนหดตัว ปิดกั้นรูขุมขนที่อุดตันเอาไว้ ดังนั้น สิวก็จะเจริญเติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนังที่ปิดนั้น ทำให้เราเห็นเป็นผิวนูนๆ และเมื่อไหร่ที่เราบีบสิว ชั้นผิวหนังที่เป็นเสมือนกำแพงก็จะถูกทำลาย จนเกิดการอักเสบ บรรดาแบคทีเรียที่สะสมอยู่ก็จะเข้าสู่ชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป แล้วยิ่งเราบีบสิวแบบเค้นหมด รีดมันส์ เอาออกแม้กระทั่งน้ำมันในผิว มันก็ยิ่งเป็นสาเหตุให้เกิดวงจรอุบาทว์ เพราะผิวหนังที่สร้างขึ้นใหม่ จะสร้างบนบาดแผลแล้วก็พาลขังแบคทีเรียเอาไว้ จนเป็นเหตุให้เกิดสิวที่วิกฤตกว่าเดิมอย่างซีสต์แทน
ดังนั้น เป็นไปได้อย่าบีบสิวจนผิวอักเสบจะดีกว่า ทางออกที่แพทย์ผิวหนังมักจะใช้กันคือ
1. การรักษาด้วย Benzoyl peroxide หรือยาตระกูล BP ซึ่งมีส่วนในการฆ่าและชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย ลดปริมาณกรดไขมันบริเวณรูขุมขนให้น้อยลง แต่ก็มีข้อควรระวังคืออาการแพ้ ผิวอักเสบ ลอกเป็นขุย
2. น้ำมันทีทรี (Tea tree oil) แม้การรักษาด้วยน้ำมันทีทรีจะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลเพราะสกัดจากธรรมชาติ แต่ก็ออกฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย และลดการอุดตันได้เช่นกัน ทว่า ผลข้างเคียงก็มีเพราะหากใครแพ้ ก็ทำให้เกิดอาการอักเสบได้เช่นกัน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก wittyfeed