มอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทำร้ายลูกน้อง “แจ๊ส ชวนชื่น” จนเสียชีวิต

ข่าวที่ 1 : เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 62 เวลา 01.00 น. ร.ต.ท.กอบโชค พันธ์แก้ว รองสว.(สอบสวน) สน.มีนบุรีรับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกกระถางต้นไม้ทุบหน้าเสียชีวิต หน้าบ้านตลกชื่อดัง แจ๊ส ชวนชื่น ใกล้กับบ้านเลขที่ 41/39 ซอยนิมิตรใหม่14 แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ จึงประสานแพทย์เวร รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบพบศพนายพรชัย ดีเสือ อายุ 35 ปี เป็นคนงานของแม่ยายของแจ๊ส ชวนชื่น ซึ่งทำงานล้างเครื่องจักรในบ้านของตลกชื่อดัง สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีครีม ไม่สวมรองเท้า นอนเสียชีวิตอยู่ข้างล้อรถฮุนไดสีดำ ซึ่งเป็นรถของตลกชื่อดัง โดยรถมีรอยกระจกร้าวที่ด้านหน้าฝั่งคนขับ และที่หน้าบ้านเลขที่ 41/39 หลังติดกันกับบ้านของแจ๊ส พบร่องรอยทะเลาะวิวาท มีกระถางต้นไม้แตก กองเลือด รองเท้าแตะและพบปืนบีบีกันดัดแปลงตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงกั้นพื้นที่เกิดเหตุพร้อมเก็บหลักฐานไว้ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี อายุ 36ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 41/39 ซึ่งได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ

สอบสวนพยานให้การว่านายเสฎฐวุฒิ ขับรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอยซ์เงิน ทะเบียน กจ 2755 สระแก้วไปชนท้ายรถเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่ปากซอยดังกล่าว ก่อนจะขับหนีเข้าบ้านโดยมีกันชนท้ายรถคู่กรณีติดมาด้วย ทางผู้เสียหายและผู้เสียชีวิตจึงขับตามมาที่บ้านหลังเกิดเหตุเพื่อจะเคลียร์กัน แต่นายเสฎฐวุฒิถือปืนดัดแปลงมาทะเลาะวิวาทกันที่หน้าบ้าน แต่ปืนยิงไม่ออก จึงเอากระถางต้นไม้ทุบใส่หัวผู้เสียชีวิตพร้อมเอาไม้ตี ก่อนหลบหนีไป

หลังจากนั้น แจ๊ส ชวนชื่น โพสต์เดือดลงอินสตาแกรม ด้วยถ้อยคำที่โกรธแค้นนายเสฎฐวุฒิ เพื่อนบ้าน ที่มีปัญหากันมานาน อีกทั้งยังทุบรถฮุนได ซึ่งเป็นรถของลูกสาวแจ๊สอีกด้วย โดยแจ๊สยังโพสต์ข้อความอีกว่า จะไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.มีนบุรี เพื่อติดตามคดี พร้อมฝากชาวโซเชียลและนักข่าว ช่วยตามจับร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

จนเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 62 แจ๊ส ชวนชื่น และ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เดินทางมาแจ้งความที่ สน.รามอินทรา พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วย โดยทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรถเฉี่ยวชน ยันไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน โดยคนร้ายได้ลากศพผู้เสียชีวิตมาไว้หน้าบ้านของแจ๊ส เบื้องต้นแจ้งข้อหาเจตนาฆ่า ข้อหาเผารถทำให้เสียทรัพย์ พกอาวุธปืน โดยอาวุธที่ใช้เป็นปืนไทยประดิษฐ์

ล่าสุด แจ๊ส ชวนชื่น ได้เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ผ่านอินสตราแกรมว่า นายเสฎฐวุฒิ ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วงกลางดึก โดยควบคุมตัวให้เข้าห้องสอบสวนเพื่อสอบปากคำทันที ตำรวจให้ข้อมูลว่าสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุรับว่าเป็นผู้ทำร้ายนายพรชัยจริง แต่อ้างว่าเพราะนายพรชัยบุกรุกเข้ามาในบ้าน จึงทำไปเพื่อป้องกันตัวเอง ซึ่งการให้ข้อมูล 2 ฝ่าย ยังให้การขัดแย้งกัน ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง

ข่าวที่ 2 : กล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ขณะที่รถบิ๊กไบค์ มาจากเลนซ้ายสุด แล้วขี่ไปเลนกลาง ตามประกบรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหน้า ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะเอื้อมมือไปกระชากกระเป๋าของคนซ้อนรถจักรยานยนต์คันหน้า จนล้มลงกลางถนน โชคดีไม่มีรถขับมาชนซ้ำ จากนั้นบิ๊กไบค์คันก่อเหตุก็ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว รถบิ๊กไบค์คันก่อเหตุ สังเกตว่าคนซ้อนท้าย ใส่แจ็คเก็ตสีแดง และมีการสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้าทั้งคนขี่และคนซ้อน

โดยผู้โพสต์คลิป เปิดเผยว่าเหตุเกิดหน้าหมู่บ้านการ์เด้นโฮมหน้าซอยแอนเนกซ์ ถนนพหลโยธิน เมื่อวานนี้ หลังเกิดเหตุตนได้รีบจอดรถลงไปช่วยคนเจ็บ ซึ่งป้าที่ซ้อนท้ายถูกกระชากกระเป๋าไปส่วนลุงไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก ในกระเป๋ามีเงินสด 2,000 บาท ทอง 1 บาท และบัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัสกดเงิน ซึ่งในเอทีเอ็มมีเงินประมาณ 1-2 หมื่นบาท ตนเองไม่ได้ขับตามรถคันก่อเหตุไป เพราะบิ๊กไบค์ขี่เร็วมากคาดว่าไม่ทันแน่นอน และต้องการช่วยคนเจ็บก่อน ผู้เสียหาย เล่าว่าขณะขี่รถจักรยานยนต์โดยมีแฟนซ้อนท้ายมาด้วย สังเกตเห็นรถคนร้ายขับมาประกบ นึกว่าจะขี่แซงไปข้างหน้า แต่ปรากฏว่า คนนั่งซ้อนท้ายฉวยโอกาสกระชากกระเป๋าจากแฟนที่วางอยู่ตรงกลางที่นั่ง ระหว่างคนขับกับคนซ้อน ติดตามได้ในรายการจามเจาะข่าว...