ข่าวที่ 1 : กลายเป็นกระแสในสังคมออนไลน์อีกครั้ง สำหรับคดี "แพรวา 9 ศพ" จนขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวีตของไทย หลังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ คนหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อที่อยู่บนรถตู้ ที่ถูก นางสาวแพรวา อายุ 17 ปี ขับรถชน ได้รับบาดเจ็บไหปลาหัก 3 ท่อน เข่าซ้ายแตก ออกมาทวิตเล่าเรื่องราว ว่า ผ่านมา 9 ปี แต่ไม่ได้เคยได้รับการดูแลเยียวยาเลย ครั้งแรกที่เราได้เจอแพรวาหลังเกิดเหตุ แพรวามาพร้อมกับแม่และช่างภาพ โดยนั่งรถเข็นเข้ามา ซึ่งเรายังนอนติดเตียงอยู่เลย คนที่พูดทั้งหมดคือแม่ เมื่อพูดจบแม่ถึงบอกให้แพรวา “ขอโทษพี่เขาสิลูก” แพรวาก็พูดว่า “หนูขอโทษค่ะ” ก่อนจะมีการมอบขนมเปี๊ยะพร้อมกับถ่ายรูป นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน ตอนเรารู้สึกไม่โกรธแล้วเพราะมันคืออุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ เรารู้สึกดีนะที่เขามาขอโทษ ที่เขาไม่พูดเองอาจจะเพราะยังเด็กและคงกลัวด้วย แต่พอแพรวาและแม่กลับออกไป พี่พยาบาลก็มาเล่าให้ฟังว่า แพรวาเดินมาปกตินะ แต่มาขอรถเข็นที่หน้าวอร์ด ตอนนั้นเราอึ้งไปสักพักเลย และหลังจากนั้นก็ไม่เคยมาอีกเลย เข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่สิ่งที่ควรทำคือความรับผิดชอบ และสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด คือวันไกล่เกลี่ยคดี เขาเสนอเงินให้ก้อนนึงบอกจะได้จบๆ จากนั้นก็ขอลดเงิน บอกว่าถ้าไม่เอาก็ ไปฟ้องเอง ตนเองงงมาก เรื่องนี้ไม่ขึ้นอยู่ที่เงินเท่านั้น อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ตนต้องนอนนิ่งๆ บนเตียง ขยับไม่ได้ 2 เดือน ต้องหัดเดินอีก 2 ปี ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ต่างทวีต ย้อนถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น พร้อมทวงถามความยุติธรรมให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิต
ข่าวที่ 2 : เกิดเหตุศาลาริมน้ำซึ่งมีร้านขายอาหารตามสั่งและน้ำดื่มหลายร้าน บริเวณท่าเรือข้ามฟากแสงวนิช ริมแม่น้ำแม่กลอง ข้างวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ซึ่งมีความยาวประมาณ 20 เมตร กว้างประมาณ 10 เมตร และเป็นอาคารเก่าสร้างเมื่อประมาณปี 2515 หรือเมื่อ 47 ปี มาแล้ว เกิดทรุดตัวจมหายไปทั้งหลัง โดยมีประชาชนที่มานั่งรับประทานอาหารกว่า 20 คน ได้รับบาดเจ็บ 22 คน มีผู้สูญหาย 2 คน เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม นำชุดกู้ชีพประดาน้ำลงงมค้นหาผู้สูญหาย โดยมีคลิปผู้บาดเจ็บจำนวนมากตะเกียกตะกาย ร้องขอความช่วยเหลือ
ในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและค้นหาผู้สูญหาย นั้น เจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย นักประดาน้ำ 36 นาย โดยแบ่งกำลังนักประดาน้ำ 6 ชุดชุดละ 2 นาย ใช้เวลาในดำประมาณ 15-20 นาที ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน โดยวางแผนการดำเนินงานกันลงสำรวจอาคารศาลาที่ถล่มลงในแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งมีน้ำลึกประมาณ 8 เมตร เป็นอุปสรรคในการค้นหาอย่างมาก เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว ประกอบกับใต้น้ำมืด และศาลาซึ่งน้ำที่ถล่มมีซากปรักหักพังทำให้ยากต่อการสำรวจ ติดตามทั้งหมดนี้ได้ในรายการจามเจาะข่าว...
ขอขอบคุณคลิปและรูปภาพ Twitter TinTin และ FB. ปิง แม่กลอง