เปิดไทม์ไลน์ บิ๊กตู่ลั่น ตัดพี่-น้อง กับเสรีพิศุทธ์

ข่าวที่ 1 : เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลา 20.24 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า ดูจากคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไม่น่าจะทำตามนโยบายได้ โดยเปิดประเด็นด้วยคำถามแรกขอถาม พล.อ.ประวิตร ว่า นาฬิกายืมมาคืนไปหรือยัง ไม่ได้เสียดสีแต่กลัวกล้องทีวีจับเดี๋ยวมีปัญหา หลังจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายต่อว่า ท่านนายกฯ มาเป็นนายกฯ เพราะมายึดอำนาจถือเป็นกบฏแต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ท่านก็อ้างว่าบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย แต่เวลาผ่านมาทุกคนรู้ว่าข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะได้คิดจะยึดอำนาจมาก่อนแล้ว 3 ปี จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สรุปต่อว่า ถ้าเป็นตนคงไม่หน้าด้านเป็นต่อ ไม่เป็นดีกว่า ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นมาอีกพูดสวนทันทีว่า ตนทนฟังมานานแล้ว ผมกับท่านรู้จักกันมานานแล้ว แต่งงานวันเดียวกัน สมรสพระราชทาน วันนี้ไม่ถือว่าเป็นรุ่นพี่ผม ท่านไม่ให้เกียรติผมเลย วันก่อนก็พูดว่าจะชักปืนยิงผม ถ้าชักปืนยิงวันนั้นท่านก็ติดคุก เหรียญรามาท่านได้ผมก็ได้ แต่ผมไม่เคยคุย ผลงานต่างๆ ผมมีมากมาย พูดจาหยาบคาย อวดอ้างอำนาจ ท่านไปทบทวนของท่านเอง แล้วเดินออกจากห้องประชุมทันที ส่งผลให้ประธานตัดสินใจพักการประชุม 21.15 น. หลังกลับมาประธานขอให้ถอน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ยอม กล่าวว่าผมคำไหนคำนั้น ประธานพรเพชร จึงสั่งให้ออกจากห้องประชุม

ข่าวที่ 2 : กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจบิ๊กเกรียน เล่าเรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่ง อายุ 27 ปี ถูกสาวที่คบหากันนานหลายปี แต่ไม่ได้เจอหน้า หลอกให้โอนเงินไปกว่า 2.3 ล้านบาท ตอนนี้ต้องการตามหาสาวคนดังกล่าว รู้จักเพียงชื่อ "ใบปอ" ให้นำเงินมาคืน ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวพบด้วยว่า "ใบปอ" ภาพไม่ตรงปก จนกระทั่ง เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ พันตำรวจตรีกังวาน โคตตะวงศ์ สารวัตรสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ได้เดินทางไปขออนุมัติหมายจับ นางสาวนิทิวรรณ เรืองทิพวรรณ หรือใบปอ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เบื้องต้นได้นำข้อมูลในเรื่องของคดี ส่งไปให้กับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตรวจสอบแล้ว เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ แต่การออกหมายจับต้องเร่งทำก่อน เนื่องจาก หากรอทางกระทรวงดิจิทัลฯ เงินอาจจะถูกโยกย้าย หรือนำไปใช้หมด อาจทำให้คดียุ่งยากขึ้น โดยพันตำรวจเอกชาญฤทธิ์ ทรัพย์สมบัติ ผู้กำกับการ สน.พลับพลาไชย 2 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในคดีดังกล่าว ถือเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง คือ มีโทษจำคุกถึง 5 ปี จึงสามารถออกหมายจับได้เลย โดยไม่ต้องออกหมายเรียกก่อน ติดตามได้ในรายการจามเจาะข่าว..