ป.6 ล้างแค้นแทนพี่ชาย เหตุ ม.3 เบิ้ลเครื่อง จยย.

ข่าวที่ 1 : เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 5 สิงหาคม ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ได้รับแจ้งว่า มีเด็กนักเรียนชายแทงกัน ได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลศรีษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบว่าผู้บาดเจ็บเป็นนักเรียนชาย ม.3 อายุ 15 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐม แต่ญาติๆ ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว พบมีบาดแผลถูกมีดแทง ที่หน้าอกขวา 2 แผล ทะลุปอด อาการสาหัส เมื่อสอบถามเพื่อนนักเรียนชายที่มาด้วยกัน เล่าว่า หลังจากเลิกเรียน เขากับเพื่อนที่บาดเจ็บ กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็มีรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีขี่มาประกบ สั่งให้จอดรถ และมีปากเสียงกันเรื่องไปเบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์เสียงดัง ใส่พี่ชายคู่กรณี และยังมองหน้าหาเรื่องอีก จากนั้นได้ชกต่อยกันช่วงชุลมุนคู่กรณีก็ชักมีดออกมาแทงเพื่อนถึง 2 ครั้ง ทำให้เขาล้มฟุบลง ส่วนผู้ก่อเหตุได้แยกย้ายหนีไป เบื้องต้นตำรวจทราบแล้วว่ากลุ่มเด็กที่ลงมือก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชาย ป.6 อีกโรงเรียนหนึ่ง ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นการล้างแค้นให้กับพี่ชาย โดยชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปตามเด็กกลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว แต่ไม่พบตัว ขณะนี้กำลังเร่งติดตามมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่ 2 : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.45 น. ของคืนวันที่ 2 ส.ค.62 ที่ผ่านมา หน้าร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ เป็นภาพกล้องวงจรปิดหน้าร้านจับภาพ ชายคนหนึ่งวิ่งผ่านหน้าร้านก่อนกลับมาหยุดที่หน้าร้าน และโดนกลุ่มคนจำนวน 7 คน รุมกระทืบ ทำร้าย ใช้เวลาประมาณ 1 นาที ก่อนที่กลุ่มคนนั้นจะหลบหนีไป

ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุตามที่ปรากฏในคลิปทั้ง 7 คนได้แล้ว จากการสอบถามนายกมลภพ หรือเก่ง หัวโจกแก๊ง เล่าว่า วันเกิดเหตุได้นั่งดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนในสถานบันเทิง จู่ๆ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกฝ่ายประมาณ 10 คน มาตะโกนด่าด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ แถมยกนิ้วกลางใส่ กลุ่มตนจึงไม่พอใจ เดินไปถามว่ามีปัญหาอะไร จากนั้นก็เกิดมีปากเสียงและชกต่อยกัน ซึ่งคนที่พวกตนรุมทำร้ายก็เป็นหนึ่งในวัยรุ่นในกลุ่มที่ตะโกนด่าพวกตน แต่จำไม่ได้ว่าเป็นคนที่ยกนิ้วกลางใส่หรือเปล่า อีกทั้งยังยอมรับว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายให้ถึงตาย แค่ชกต่อยด้วยโทสะ เพราะถูกตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาบเท่านั้น ขณะที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่ายแล้ว โดยได้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้ง 7 คน ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ” ขณะที่ผู้บาดเจ็บยังต้องรอดูอาการอยู่ แต่จะสาหัสหรือไม่ต้องรอผลตรวจยืนยันจากทางแพทย์อีกครั้ง