ข่าวที่ 1 : “หมอธีทัชฐ์” แลกถอนฟ้อง ยอมกราบขอขมา “เสรีพิศุทธ์”
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ที่รัฐสภา นายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กราบเท้าขอขมา พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ต่อหน้าสื่อมวลชน ขอให้ท่านเสรีพิศุทธ์ ถอนฟ้องหมิ่นประมาทจากกรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกล่าวหาท่านเสรีพิศุทธ์ไว้ 3 เรื่อง คือ 1. เคยต้องคดีร้ายแรงถูกออกจากราชการ / 2. จัดซื้อรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ ในสมัยที่ท่านเสรีพิศุทธ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / 3. บุกรุกป่าสงวน จ.กาญจนบุรี
โดยนายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ ได้กล่าวว่า วันนี้ตนมากราบขออภัยท่านเสรีพิศุทธ์ ที่เคยได้เคยแถลงข่าวพาดพิงทำให้เสียหาย เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับข้อมูลมาไม่ครบถ้วน และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว เพราะมีปัญหากับผู้ใหญ่ภายในพรรค และกำลังตั้งใจทำพรรคการเมืองร่วมกับบุคคลอื่น ดังนั้นวันนี้จึงขอรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว
โดยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่แน่ใจว่าจะให้อภัยคุณได้หรือไม่ คุณเอากระเช้าไปให้น้องๆนักข่าวดีกว่า เพราะตอนนั้นคุณก็ด่าๆผมเสียๆหาย ทั้งที่ผมก็ยังประชุมสภาอยู่บนห้องประชุม วันนี้คุณมาขอขมาผมเพราะผมฟ้องคุณไปสองคดี ถ้าคุณกล้ากราบเท้าผม ผมก็กล้าถอนฟ้องให้” ปรากฎว่านายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ ได้ก้มลงกราบเท้าท่านเสรีพิศุทธ์ ก่อนที่ท่านเสรีพิศุทธ์ จะยอมรับกระเช้าของขวัญพร้อมกับกล่าวว่าจะไปถอนฟ้องคดีให้ และเข้าไปลูบหัวระหว่างที่นายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์คุกเข่าพร้อมพูดว่า “ตั้งพรรคใหม่ให้เรียบร้อยแล้วกัน”
ข่าวที่ 2 : ผู้ว่าฯ โคราช แกะรอยหา 'เจ๊หล้า รีเทิร์น' หลังตัดต่อหน้าย่าโม
จากกรณีที่มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า เจ๊หล้า รีเทิร์น ได้โพสต์รูปที่มีลักษณะการตัดต่อโดยนำเอาภาพใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่าเป็นใบหน้าของตัวเองไปใส่ลงบนใบหน้าของอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือคุณย่าโม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมโพสต์ข้อความระบุว่า หันมาไหว้เจ๊ดีกว่า มีดีกว่า eโมโม่เยอะเลย คาถาบูขา นะมัง กะลังมังนังล่า สะมีติเย ท่อง 3 จบแล้วกราบ ทำให้เกิดกระแสแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ขณะที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก คุณย่าโมไม่ใช่วีรสตรีผู้กล้าที่คนในจังหวัดเคารพนับถือเท่านั้น แต่คนไทยทั้งประเทศก็ให้ความเคารพเช่นเดียวกัน การที่มีบุคคลมาลบหลู่เช่นนี้ น่าจะเป็นพวกที่เสียสติ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวมีผู้ใช้งานจริงหรือไม่ หรือเป็นเฟซบุ๊กที่ปลอมขึ้นมา และผู้โพสต์ภาพดังกล่าวมีเจตนาอย่างไรกันแน่ ซึ่งหากตรวจสอบพบก็จะขอให้ผู้โพสต์ลบรูปภาพดังกล่าวออกไปเสีย
ล่าสุด เฟซบุ๊ก เจ๊หล้า รีเทิรน์ ก็ได้โพสต์ชี้แจงถึงเจตนาที่โพสต์ภาพดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า การโพสต์รูปภาพดังกล่าวไม่ได้เป็นเรียกยอดไลค์ยอดแชร์แต่อย่างใด เพราะชีวิตตนก็ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปปั่นกระแสอะไร และตนได้วิจารณ์ตามความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่ได้บอกว่าความคิดของตนเป็นความคิดที่ดี และขณะนี้ตนก็ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ติดต่อมา อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการลบรูปภาพดังกล่าวออกไปจากเฟซบุ๊กแต่อย่างใด
ข่าวที่ 3 : องค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉิน “ไวรัสโคโรนา”
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลก ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน หลังเปิดประชุมฉุกเฉินครั้งใหม่เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.)
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า เหตุผลหลักในการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศไม่ใช่สถานการณ์การระบาดในจีน แต่เป็นอุบัติการณ์ของโรคที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่และพบการติดเชื้อจากคนสู่คนเพิ่มขึ้นนอกประเทศจีน
นอกจากนี้ยังแสดงความวิตกว่าเชื้อจะแพร่กระจายไปยังประเทศที่มีระบบสาธารณสุขอ่อนแอ โดยการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ และจะเปิดทางให้นานาชาติเพิ่มความร่วมมือเพื่อหาทางควบคุมการระบาดของโรค ซึ่งคำประกาศขององค์การอนามัยโลกมีขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนยังคงพุ่งสูงและพบการระบาดในทุกภูมิภาคของจีน นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ใน 18 ประเทศทั่วโลกอีกกว่า 100 คน และพบการติดเชื้อจากคนสู่คนในเยอรมนี, ญี่ปุ่น, เวียดนาม และสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีน ขณะที่ฟิลิปปินส์และอินเดียยืนยันพบผู้ติดเชื้อคนแรกแล้ว
ข่าวที่ 4 : ครอบครัวสายเขียว! ลอบขายกัญชาให้กลุ่มวัยรุ่น
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี สั่งการให้ปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 63/462 ซอย10/15 หมู่ที่6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น พบนางอารีย์ รอดรังษี อายุ 60 ปี ยืนขายกัญชาให้กับเยาวชนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเเสดงตัวเข้าจับกุม จากการตรวจค้นภายในบ้านพบนายสุวิทย์ ปราโมทย์สุคนธ์ อายุ 66 ปี เป็นสามีของนางอารีย์ นั่งดูภรรยาขายกัญชา อีกทั้งยังพบกัญชาอัดแท่งแบ่งเป็นก้อนบรรจุอยู่ในถุงซิปจำนวน 17 ห่อ น้ำหนัก 69.2 กรัม, กัญชาอัดแท่งขนาดใหญ่ น้ำหนัก 93.3 กรัม รวมของกลางทั้งหมด 162.5 กรัม นอกจากนี้ยังพบเงินสดจำนวน 21,040 บาท ต่อมา นายองอาจ ปราโมทย์สุคนธ์ อายุ 40 ปี หรือบอย ลูกชายของนางอารีย์ ได้กลับเข้ามาที่บ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นายบอย ไม่มีท่าทีตกใจใดๆ ทั้งสิ้น
จากการสอบสวนนายบอย ได้รับสารภาพว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยเสพกัญชาและค้ามานานกว่า 10 ปีแล้ว เคยถูกจับมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เข็ดหลาบ หวนกลับมาทำแบบเดิมอีก จากการสอบสวนพบว่านายบอย มีอาการป่วยทางจิต มีประวัติรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ซึ่งก่อนหน้านี้นายบอยถูกจับมาแล้วหลายครั้งและถูกนำตัวไปบำบัด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่ 5 : รศ.ดร.เจษฎาเตือน! อย่ากินปูมั่ว เสี่ยงมีพิษ
มีหนุ่มรายหนึ่งได้เข้าไปโพสต์ข้อความในกลุ่มบ้านฉาง@ระยอง โดยสงสัยว่า นี่ปูอะไร กินได้ไหม? ส่งผลให้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา ต้องออกมาบอกว่า ปูชนิดนี้เป็นปูโมเสก ซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก ปูพวกนี้กินแพลงค์ตอนพิษกลุ่มไดโนแฟลกเจเลทเข้าไปและสะสมพิษเหล่านี้ไว้ในตัว รวมทั้งมีพิษกลุ่มเตโตรโดท็อกซิน ที่เป็นชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า โดยอาจจะสร้างจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของปูใบ้
สารพิษพวกนี้ ส่วนใหญ่จะทนความร้อนสูง ดังนั้นถึงจะนำไปประกอบอาหารด้วยการทำให้ร้อน ไม่ว่าจะนึ่ง อบ หรือปิ้งย่าง ก็ไม่สามารถทำลายพิษลงได้ ถ้าได้รับเข้าไปอาจจะเกิดอาการบวมที่ริมฝีปาก ลิ้น ลำคอ และใบหน้า ถ่ายท้อง ปวดท้อง และช็อค รวมถึงเป็นอัมพาต และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ขอขอบคุณคลิปและรูปภาพจาก Facebook พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, Facebook เจ๊หล้า รีเทิร์น,
Workpoint news, สมาคมข่าวนนทบุรี และ เพจ Jessada Denduangboripant
