อาจารย์ ม.ดัง เมา-ซิ่งเก๋ง ชนคนเจ็บระนาว น้องสาวกลับด่าตร. ยับ

ข่าวที่ 1 : อาจารย์ ม.ดัง เมา-ซิ่งเก๋ง ชนคนเจ็บระนาว น้องสาวกลับด่าตร. ยับ

เหตุการณ์ที่อาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านดุสิตแห่งหนึ่งขับรถเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของตำรวจทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย และชาวบ้านบาดเจ็บอีก 1 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อเจ้าหน้าที่รุดไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา เมื่อจะพาตัวไปโรงพักเจ้าตัวก็บอกว่าจะขอเรียกน้องสาวมาจัดการเรื่องทั้งหมด เมื่อน้องสาวผู้ก่อเหตุมาถึงก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุน เนื่องจากผู้ก่อเหตุพยายามจะขึ้นรถของน้องสาวแล้วทำท่าจะขับออกไป เจ้าหน้าที่จึงเข้าห้ามจนน้องสาวผู้ก่อเหตุโวยวายกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ใช้กำลังทำร้ายตน และทำเกินกว่าเหตุ และจะฟ้องกลับตำรวจ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อผู้ก่อเหตุขับรถเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจนได้รับบาดเจ็บ 2 นาย แล้วชนเข้ากับรถยนต์ที่เปิดเป็นร้านขายขนมปังนมสด บริเวณใกล้เคียงมีคุณยายวัย 70 ปีขายข้าวต้มอยู่ได้รับบาดเจ็บ จากการสอบถามคุณยายเล่าว่า รถผู้ก่อเหตุขับมาเร็วมากจนตนหลบไม่ทัน ขณะที่นางสาวปวีณา พันธ์เต้ย อายุ 30 ปี พนักงานขาย ขนมปัง-นมสด ผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ได้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุขับรถเร็ว เมา และโวยวายด้วย

หลังจากควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจวัดแอลกอฮอล์พบว่า ปริมาณแอลกอฮอลล์พุ่งสูงถึง 161 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด ด้านตำรวจบอกว่าไม่ได้เป็นการทำเกินกว่าเหตุเนื่องจากผู้ก่อเหตุทำทีท่าจะหลบหนีจึงต้องเข้าห้ามไว้ ส่วนเรื่องที่น้องสาวผู้ก่อเหตุจะแจ้งความกลับว่าถูกทำร้ายร่างกาย ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะแจ้งความเช่นเดียวกัน แต่คงแยกเป็น 2 เรื่อง เรื่องที่ 1.ขับรถขณะเมาสุราจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย เรื่องที่ 2.เกิดเหตุชุลมุนในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวชายที่ขับรถคันดังกล่าวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์

ข่าวที่ 2 : จัดฟันแฟชั่นฟันผุทั้งปาก แพทย์เตือนเสี่ยงติดโรค

โลกออนไลน์แชร์ภาพอุทาหรณ์ของผู้จัดฟันแฟชั่น ที่เผยให้เห็นสภาพช่องปากที่น่าสยดสยอง โดยฟันทั้งหมดกลายเป็นสีเหลืองและตำแหน่งของฟันบิดเบี้ยวไปจากเดิม ซ้ำยังมีคราบหินปูนเกาะที่ฟันจำนวนมากอีกด้วย บริเวณเหงือกคล้ายกับกำลังเน่าและมีหนอง จนถูกวิจารณ์ถึงสุขภาพในช่องปาก

จากการสอบถามทันตแพทย์หญิง พรพุทธิ ภัทรวุฒิพร ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านจัดฟัน รพ.บุรีรัมย์ กล่าวให้ข้อมูลว่า คนไข้อายุราว 23 ปี สวมหน้ากากมิดชิดเข้ามารักษาเนื่องจากต้องการนำลวดและอุปกรณ์จัดฟันออก ซึ่งจัดมาแล้ว 5 ปี ที่ร้านจัดฟันแฟชั่นแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อตรวจช่องปากก็พบว่าเป็นเครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้เกิดคราบสีขาว ซึ่งเป็นเชื้อราเกาะอยู่บริเวณเหงือกทั่วทั้งปาก จึงได้ทำความสะอาดและขุดหินปูนพร้อมกับสอนวิธีแปรงฟันอย่างถูกต้อง ทั้งนี้หมอพบว่าฟันหน้า 2 ซี่มีเชื้อแบคทีเรียลามลึกลงไปทะลุโพรงประสาทฟัน ทำให้มีหนอง จึงต้องรักษาด้วยการถอนฟัน 2 ซี่ดังกล่าวทิ้ง และทดแทนด้วยการทำฟันปลอมขึ้นมาให้กับคนไข้

ทั้งนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้รับบริการที่จัดฟันแฟชั่นเสี่ยงอันตราย แนะ รักษากับทันตแพทย์โดยตรง เลี่ยงคลินิกจัดฟันเถื่อน โดยการจัดฟันแฟชั่นอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค เนื่องจากผู้ที่ให้บริการเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ทางทันตกรรม อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟันไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรือมีการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆ ไม่ถูกวิธีก็ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคที่อุปกรณ์ได้ด้วย รวมถึงลวดที่ใช้อาจเป็นวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ มีการปนเปื้อนของสารพิษต่างๆ เช่น สนิม ปรอท แคดเมียม สารหนู เป็นต้น

ข่าวที่ 3 : เปิดคลิปวินาทีคุมตัวอดีตสามี หลังบุกสังหารหญิงกลางห้าง

จากกรณีนายดนุสรณ์ นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงอดีตแฟนสาวเสียชีวิต ขณะทำงานคลินิกเสริมความงามในห้างสรรพสินค้าย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และถูกจับกุมไว้ได้ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธุ์ 2563 ที่ผ่านมา ที่บ้านของพ่อ แม่ของผู้ก่อเหตุ ใน จ.เพชรบุรี

ล่าสุดตำรวจควบตัวนายดนุสรณ์  นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ จากห้องสอบสวน มาฝากขังที่ สน.พญาไท หลังถูกสอบสวนยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง โดยเมื่อมีผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุของการก่อเหตุ นายดนุสรณ์ร้องไห้ ตอบสั้นๆว่า ขอโทษกับทุกสิ่ง ขอโทษประชาชน ผมไม่ได้อยากทำ ผมไม่ได้ตั้งใจ  พร้อมกับมีเสียงสะอื้นตลอดทางที่ตำรวจพยายามคุมตัวไปห้องขัง สน.พญาไท ขณะที่ครอบครัวผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาเยี่ยม พร้อมปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้นำตัว เจ-ดนุสรณ์ นุ่มเจริญ ผู้ต้องหายิงอดีตภรรยา  ไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลอาญารัชดาฯ พร้อมค้านประกันตัว 

ข่าวที่ 4 : ตร. เผยผลชันสูตร “น้องต้นหอม” ไม่ได้ช้ำใน แค่หัวใจล้มเหลว

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต ภายในหมู่บ้านพนาสนธิ์ ซอย2 หมู่7 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว ตรวจสอบภายห้องนอนพบศพ นายวีรพล ชุ่มชื่น หรือน้องต้นหอม อายุ 18 ปี สภาพนอนเสียชีวิตบนฟูก ที่พื้นพบกองเลือดแห้งกรัง เบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 8-10 ชั่วโมง

จากการสอบถาม นายวีรภัทร ขันทอง อายุ 20 ปี เพื่อนผู้ตายให้การว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตนกับผู้ตายและเพื่อนอีกคนไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง ย่านตลาดมะลิ ถูกกลุ่มเจ้าถิ่นรุมทำร้ายในร้าน สาเหตุเกิดจากเต้นเหยียบเท้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง จนเกิดการทะเลาะกันและถูกแฟนของผู้หญิงเข้ามาบีบคอและรุมทำร้ายพวกตน 3 คนจนได้รับบาดเจ็บ ขณะเกิดเหตุผู้ตายถูกรุมทำร้ายจนล้มกับพื้นยังถูกกลุ่มแฟนผู้หญิงกว่า 20 คนรุมกระทืบช้ำกว่าจะหนีออกมาได้ก็บาดเจ็บสะบักสะบ่อม หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ดำเนินคดีกับกลุ่มที่รุมทำร้าย แต่คดีไม่คืบกระทั่งผู้ตายเสียชีวิต

ในเวลาต่อมา พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ระบุว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ลงมือทำร้ายนายวีรพล มาให้ปากคำแล้ว และรับสารภาพว่าลงมือทำร้ายจริง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บ ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องในการร่วมกันลงมือทำร้ายอีกหรือไม่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด

สำหรับผลการชันสูตรศพนายวีรพล แพทย์ระบุผลตรวจว่าสมองไม่ได้รับความกระกระทบกระเทือน กระดูกทุกชิ้นของร่างกายไม่มีแตกหัก ไม่มีอาการเลือดตกในบริเวณช่องท้อง มีเพียงบาดแผลลักษณะขีดข่วนที่แขนและขา กับรอยฟกช้ำตามร่างกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งแพทย์ระบุว่าการเสียชีวิตเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน จึงไม่น่าเกิดจากการถูกทำร้าย สำหรับสถานบันเทิงดังกล่าวตอนนี้ได้สั่งการให้ปิดให้บริการโดยไม่มีกำหนด พร้อมทั่งจะเร่งตรวจสอบดำเนินคดีกับร้านในข้อหาปล่อยให้เยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปีเข้าไปใช้บริการ

ข่าวที่ 5 : แห่จอง “เชฟโรเลต” จนโชว์รูมแตก! หลังลดกระหน่ำ 50%

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัท จีเอ็ม ได้ประกาศ ยุติการขายรถยนต์ เชฟโรเลต ในประเทศไทยหลังสิ้นสุดปี 63 พร้อมขายโรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานประกอบเครื่องยนต์ที่จังหวัดระยองให้กับ เกรทวอลล์ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนนั้น ส่งผลให้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ใครที่ผ่านไปแถวโชว์รูมเชฟโรเลต จะเห็นภาพผู้คนแน่นโชว์รูม ถามว่าไปทำไม เหตุก็เพราะ เชฟโรเลต ประกาศแคมเปญลดราคารถยนต์ Captiva LS 5 ที่นั่งจากราคา 999,000 บาท เหลือ 499,000 บาท ส่วนลด 500,000 บาท ส่งผลให้ถูกจองหมดโชว์รูมอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ โชว์รูมเชฟ โรเลต สาขาบางแค มีประชาชนเดินทางไปจองกันอย่างล้มหลาม เรียกว่าโชว์รูมแทบแตก จนโชว์รูมต้องปิดการรับจอง เพราะยังไม่แน่ใจว่าบริษัทแม่จะมีรถได้เพียงพอหรือไม่ ซึ่งตัวเลขเบื้องต้นมีรถอยู่ในสต็อกประมาณ 4,000 คัน เช่นเดียวกับ โชว์รูมอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ที่มีประชาชนแห่ไปจองกันจำนวนมากเช่นกัน พร้อมระบุด้วยว่า เมื่อเห็นลูกค้ามาจองรถมากเช่นนี้ก็ทำให้ผู้ประกอบการพอชื่นใจบ้าง นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นอื่นๆ ที่ลดราคาด้วยแต่ก็เหลือไม่มากแล้ว

จากการสอบถามลูกค้าที่มาจองรถยนต์ ไม่ได้กังวลใจ หรือเป็นห่วงเรื่องอะไหล่ หรือบริการหลังการขาย และส่วนใหญ่เป็นแฟนพันธุ์แท้รถเชฟโรเลตอยู่แล้ว เมื่อมีการดั้มราคาเลหลัง บวกกับราคาที่ลดลงถึง 50% และยังได้รับวอร์แรนตี 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรด้วย จึงตัดสินใจได้ไม่ยาก 

ขอขอบคุณคลิปและรูปภาพจาก Facebook ประพันธ์ แสงมาน, Facebook Pornputthi Puttaravuttiporn, 

เพจบิ๊กเกรียน, ข่าวช่องวัน, เพจเชฟโรเลต บางแค