วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
SHARE

บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย

โพสต์โดย wipcreamz jarm เมื่อ 3 มีนาคม 2563 - 16:24

ข่าวที่ 1 : บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิหารแดง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง ที่เปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่า พบกลุ่มชายวัยรุ่นจำนวน 6 คน กำลังแบ่งหน้าที่กันทำงาน ส่วนหนึ่งคัดแยกชิ้นส่วนหน้ากากอนามัยที่เป็นของใช้แล้ว บางคนใช้เตารีดรีดหน้ากากอนามัยให้เรียบก่อนพับให้เหมือนของใหม่นำบรรจุใส่กล่อง ซึ่งเมื่อกลุ่มชายวัยรุ่นพบเห็นรถของเจ้าหน้าที่ขับตามกันเข้ามาหลายคันก็ตกใจ ต่างผละละจากการทำงาน

จากการสอบถาม นางจินตนา นามวิชัย อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ทางโทรศัพท์ อ้างว่า นำหน้ากากอนามัยมาจากโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง แต่ไม่บอกว่าที่ใด ได้นำหน้ากากอนามัยเหล่านั้นมาคัดแยก นำเหล็กที่ประกอบอยู่ในหน้ากากอนามัยออกมา เพื่อนำไปหลอมละลายและนำไปขาย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ

ทั้งนี้ จากหลักฐานหน้ากากอนามัยจำนวนมากที่พบและพฤติกรรมในการกระทำรีไซเคิลหน้ากากอนามัยเหล่านี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการบันทึกตรวจยึดหน้ากากอนามัยไว้ทั้งหมดและนำบางส่วนส่งไปพิสูจน์ประสานกับพาณิชย์ฯถึงที่มาของหน้ากากอนามัย รวมถึงให้ตรวจสอบใบอนุญาตการทำการค้า รับซื้อของเก่าว่าถูกต้องหรือไม่ และมอบให้สำนักงานสาธารณสุข อ.วิหารแดง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง ในฐานะผู้เสียหาย 

บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย

ข่าวที่ 2 : ตม.ยืนยัน ตรวจเข้มคัดกรองผีน้อยเกาหลีกลับเข้าไทย

จากกรณีคนไทยซึ่งไปทำงานที่เกาหลี พากันไปรายงานตัวกับ ตม.เกาหลีจำนวนมาก เพื่อให้มีการส่งกลับไทย หลังมีการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศนิรโทษกรรมให้แรงงานไทยที่เข้าเมืองผิดกฎหมายมารายงานตัว และเดินทางกลับประเทศไทยโดยไม่เอาผิด ซึ่งมีการนิรโทษกรรมจะมีไปจนถึง 30 มิ.ย. 2563 ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามียอดรายงานตัวสะสมประมาณ 5,000 คน ซึ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็ส่งผลให้มียอดผู้มารายงานตัวเพิ่มราวๆ 100-200 คนต่อวัน

ทางด้าน พันตำรวจเอก เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า พลตำรวจตรี วีรพล เจริญศิริ ผู้บังคับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้เรียกประชุม กับหัวหน้าด่าน ตม.สนามบินในสังกัด ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ พร้อม นพ.โรม บัวทอง นายแพทย์เชี่ยวชาญ กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ประจำท่าอากาศยาน กำหนดมาตรการรองรับการปฏิบัติและประสานสายการบินที่รับตัวคนไทยกลับ ให้จัดโซนที่นั่งเฉพาะแก่กลุ่มผู้โดยสาร และรวมพาสปอร์ตไว้ เมื่อมาถึง ทาง ตม.จะร่วมปฏิบัติกับ จนท.ควบคุมโรค เพื่อทำการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนก่อนเข้าอาคาร ทันทีที่ลงจากเครื่อง หากพบว่ามีอาการไข้ ก็จะคัดแยกตัวเข้าสู่การกักตัวรักษาอาการที่ รพ.ในเครือข่ายควบคุมโรค เพื่อเฝ้าดูและรักษาอาการต่อไป ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการ จะเข้าสู่กระบวนการจัดทำประวัติโดยละเอียด ก่อนให้เดินทางกลับที่พักที่แจ้งไว้ โดยให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน โดยทางกรมควบคุมโรค จัด จนท.เข้าติดตามอาการทั้งหมด

ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินกลับของคนไทยกลุ่มนี้  ในวันที่ 2 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่ามีทั้งหมด 8 ราย ต้องสงสัยจะติดเชื้อโควิด-19  และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการ จำนวน 2 ราย  และอีก 6 ราย ได้กักตัวเอาไว้ที่บ้านพักเป็นเวลา 14 วัน ส่วนด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานอื่นๆ ยังไม่ได้รับรายงาน

บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย

ข่าวที่ 3 : เคลียร์แล้ว! วินรุมยำแกร็บไบค์ เสี่ยงโดนยึดเสื้อวิน

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Amittaa Phongsawat  โพสต์คลิปวีดีโอ เผยให้เห็นเหตุการณ์วินจักรยานยนต์ 3 คนเข้ารุมทำร้ายหนุ่มแกร็บไบค์ ด้วยการใช้หมวกกันน็อกฟาดเข้าไปที่บริเวณหัวของหนุ่มแกร็บไบค์ โดยที่หนุ่มแกร็บไบค์ไม่ได้มีท่าทีจะตอบโต้แต่อย่างใด ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในซอย สุขุมวิท 48 เขตคลองเตย เมื่อสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่าปัญหาวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างทะเลาะกับเเกร็บไบค์นั้นเกิดขึ้นบ่อยในซอยนี้ เนื่องจากชอบแย่งลูกค้ากัน แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าที่ผ่านมาเพราะแกร็บไม่ยอม จะพาลูกค้าไปส่งให้ได้ จึงมีการต่อว่าและพูดจาท้าทาย นำไปสู่การรุมทำร้ายตามในคลิป

ต่อมาหลังเกิดเหตุ หนุ่มแกร็บไบค์ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน เบื้องต้นทราบชื่อว่า นายทัศดา ฝักฝ่าย อายุ 27 ปี ขณะที่วินจักรยานยนต์รับจ้าง 3 ราย ทราบชื่อว่า นายชวลิต แสงสุวรรณ 44 ปี ซึ่งเป็นคนที่ส่วมเสื้อวินเบอร์ 26, นายดอกรัก คำนึง 37 ปี, นายธนากร คำนึง 59 ปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคู่กรณีมาพูดคุยไกล่เกลี่ยก่อนที่ทั้งคู่จะตกลงกันได้

ด้าน นายทัศดา ผู้ที่ขับแกร็บไบค์ กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องทุกอย่างจบลงแล้วโดยนายชวลิตและพวกก็จะรับผิดชอบโดยการชดใช้ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงได้มีการขอโทษซึ่งกันและกัน ตนก็ยอมรับว่ามีส่วนที่ผิดด้วยเช่นกันที่พูดจาด้วยการใช้อารมณ์

ทั้งนี้มีรายงานว่า ทาง กทม.ได้สั่งให้สำนักงานเขตคลองเตยตรวจสอบข้อมูล พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ วินปากซอยสุขุมวิท 48 จำนวน 3 ราย ได้ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายผู้อื่น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นวิธีการแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง ทาง กทม.จึงเสนอให้ใช้มาตรการยึดเสื้อวินต่อผู้ก่อเหตุเป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่เข้าข่ายความประพฤติไม่เหมาะสมตามข้อ 13 แห่งประกาศคณะกรรมการประจำกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดสถานที่ตั้งวินและหลักเกณฑ์การออกหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2563 โดยในวันนี้ ทาง กทม.จะเชิญคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่ายประจำพื้นที่เขตคลองเตย ร่วมประชุม เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาการลงโทษผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ตามมาตรการยึดเสื้อวินต่อไป

บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย

ข่าวที่ 4 : จวกยับ! สาวโพสต์คลิปอวดเพื่อนหิ้วเบียร์เยี่ยมใน รพ.

จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับคลิปที่เพจเฟซบุ๊กชื่อ 'ควาย+Social Airlines' โพสต์ ซึ่งเป็นคลิปจากหญิงสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่โพสต์คลิปภาพของชายหนุ่มที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนมาเยี่ยมไข้ระหว่างที่หญิงสาวนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปรากฏว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวนำเบียร์เข้าไปดื่มด้วย โดยหญิงสาวถ่ายคลิปไว้และนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่มีผู้นำไปเผยแพร่ต่อและมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิการกระทำดังกล่าวว่าไม่เหมาะสมและผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนกระทั่งหญิงสาวคนดังกล่าวได้ลบโพสต์ออกไป

จากการสอบถาม นางพัชรากาญจน์ คงทวีพันธ์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิตและยาเสพติด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวแล้ว เชื่อว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย แต่เป็นการกระทำโดยเพื่อนคนไข้ที่ไปเยี่ยม ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ในกรณีจะมีการประสานไปยังทางโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อดำเนินการต่อไป และกำชับโรงพยาบาลทุกแห่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก

ขณะเดียวกันทางพลตำรวจตรีพิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ซึ่งได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่รับผิดชอบลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามหาตัวผู้กระทำผิดดังกล่าวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย

ข่าวที่ 5 : สาวขี่จยย.เจอสายสื่อสารเกี่ยวคอ วอนหน่วยงานรับผิดชอบ

วันนี้มีการร้องเรียน จากนางสาวอิงอร ชัยศรีมา อายุ 23 ปี ว่าตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์กับสามี โดยแฟนเป็นคนซ้อนท้าย เพื่อไปตลาดชื้อกับข้าวในตอนเช้ามืด วานนี้ (1 มี.ค. 63) พอมาถึงวงเวียนหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมุกดาหาร ได้มีสายไฟสื่อสารห้อยลงมาแล้วเกี่ยวคอตนเอง ทำให้บริเวณคอมีแผล 4-5 รอย และมีเลือดออก ส่วนสามีก็มีบาดแผลที่คอด้านซ้ายและมีอาการเจ็บที่ต้นคอ เพราะรถจักรยานยนต์ล้ม ทำให้ทั้ง 2 สองบาดเจ็บ

ด้านนางสาวอิงอร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองกลับจากตลาดเช้าที่ตลาดเทศบาล 2 ไปซื้อกับข้าว พอผ่านทางเส้นหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมุกดาหาร บริเวณวงเวียนมีสายสัญญาณห้อยลงมา มองไม่เห็นดีนะที่ขับไม่เร็วประมาณ 40 สายสื่อสารเกาะเกี่ยวที่คอ ตนเองได้เบรกรถก็ล้มลง ตนเองกลัวมาก ตกใจ เพราะว่าเคยเห็นแต่ในทีวี ไม่คิดว่าจะเจอกับตนเอง และแฟนก็บาดเจ็บที่คอ แต่ตนเองโดนเยอะกว่าเพราะเป็นคนขับรถและอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยรับผิดชอบ ฝากเตือนคนที่ขับรถจักรยานยนต์ตอนกลางคืน ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจจะเจอแบบตนและฝากเจ้าของสายสื่อสารให้หมั่นดูแลสายสื่อสาร ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่อยากให้ใครเจอเหมือนกับตนเอง ขณะนี้ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองมุกดาหาร ไว้แล้ว

บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย
บุกบ้านรีไซเคิลหน้ากากอนามัย เจ้าของอ้างแค่แยกเหล็กไปขาย

ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก ข่าวช่องวัน, คมชัดลึก, ข่าวช่องวัน, เพจ ควาย+Social Airlines และ อีจัน


แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com