ข่าวที่ 1 : “ศรสุวีร์” ลั่น! ไม้รู้จักคนสนิท “ธรรมนัส” หน้ากากอนามัยในคลิปแค่อยากอวด
ตำรวจคุมตัว นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย ให้ข้อมูล เกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นตามที่เพจดังนำคลิปและภาพต่างๆ มาเผยแพร่จนเกิดเป็นเรื่องราวที่แชร์ต่อๆ กันในสื่อโซเชียล เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดี
พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นำตัวนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย ที่แอบอ้างคนสนิทผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นบุคคลตามคลิปที่อ้างว่ามีการกักตุนหน้าอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น มาสอบปากคำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พลตำรวจเอกสุวัตน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำด้วยตนเอง
โดย พลตำรวจโทมนตรี ระบุว่า ขณะนี้เป็นเพียงการเชิญตัวนายศรสุวีร์ (บอย) มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพียงเท่านั้นยังไม่ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามที่มีการแชร์คลิปวีดีโอขนย้ายหน้ากากอนามัยเตรียมส่งขายต่อในสื่อโซเชียล โดยยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่าใดซึ่งจะต้องให้ พลตำรวจเอกสุวัตน์ สอบปากคำในรายละเอียดให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนต่อไป
ทางด้าน นายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า) ชี้แจงภายหลังถูกพาดพิงมีส่วนร่วมกักตุนและจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูง ว่า ในเบื้องต้นตนได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี ที่สถานีตำรวจภูธรท่าชนะ จ.สุราษฎรธานี ใน 2 ข้อหา คือ พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ และการกักตุนสินค้า ส่วนการแอบอ้างชื่อตนนั้น ให้ทนายความดำเนินการในชั้นต่อไป ย้ำต้องดำเนินการให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากทำให้เกิดความเสื่อมเสียทั้งตนและเจ้านายอย่างร้อยเอกธรรมนัสด้วย
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการตลาดของผู้ที่โพสต์เฟสบุ๊คเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งตนไม่รู้เรื่อง และไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ได้พบกันเพียง 2ชั่วโมงเท่านั้น พร้อมย้ำตนไม่เคยเจรจาหรือพูดคุยในเรื่องหน้ากากกับนายศรสุวีร์ ส่วนที่นายศรสุวีร์ โพสต์เฟสบุ๊คขอบคุณตนในฐานะพี่ชาย ทำให้เข้าใจกันได้ว่าสนิทสนมนั้น นายพิตตินันท์ ปฏิเสธว่ามีความสนิทสนม ซึ่งยืนยันว่าเป็นการพบกันเพียงครั้งเดียว ทั้งนี้ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย และมอบหมายให้ทนายความดำเนินการต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ได้ปลด นายพิตตินันท์ รักเอียด ออกคณะทำงานส่วนตัวแล้วหลังมีข่าวเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย ส่วนผลสอบว่าเกี่ยวข้องกับการกักตุนจริงหรือไม่จะทราบในวันนี้ ยืนยันไม่ลาออกตามกระแสเรียกร้องเพราะต้องต่อสู้ความจริง ขอสื่ออย่าตกเป็นเหยื่อทางการเมือง
ข่าวที่ 2 : ค้นบ้าน “ศรสุวีร์” ภรรยายัน! ไม่ได้กักตุนหน้ากากอนามัย
เมื่อวานนี้ หลังจากที่มีกรณี นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี หรือ บอย โพสต์กักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ และตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังกว่า 10 นาย เข้าแสดงหมายค้นบ้านของ นายศรสุวีร์ กับภรรยาของนายบอยที่หน้าบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีการอ่านหมายศาล ก่อนเข้าตรวจค้นหาของกลางหน้ากากอนามัยภายในบ้านพัก
จากการสอบถามภรรยาของ นายศรสุวีร์ ยืนยันว่าที่บ้านไม่ได้ทำธุรกิจขายหน้ากากอนามัย และไม่ได้ตุนของไว้ตามคลิปที่ถูกแชร์ เพราะในบ้านยังไม่มีใช้ พร้อมย้ำว่าไม่ได้รู้จักกับ นายพิตตินันท์ ผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส เป็นการส่วนตัว แต่สาเหตุที่โพสต์ไป เพราะเป็นนายหน้าการขายของเท่านั้น จึงต้องการสร้างกระแส ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการตรวจค้นประมาณ 30 นาที แต่ไม่พบของกลางหน้ากากอนามัย จึงได้ยึดคอมพิวเตอร์ไว้ 1 เครื่อง จากนั้นจึงควบคุมภรรยาของ นายศรสุวีร์ มาสอบปากคำต่อที่ สภ.หนองปรือ อย่างไรก็ตามจากการสังเกตพบว่าภรรยาของ นายศรสุวีร์ ไม่ได้มีอาการเครียด พร้อมยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และบอกด้วยว่าเคยเตือนสามีแล้วว่าอย่าโพสต์สร้างภาพในลักษณะนี้
ข่าวที่ 3 : ตร.รวบลูกสาว “บรรยิน” หลังตรวจเจอฉี่ม่วง-ยาเสพติดในรถ
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ ตั้งด่านตรวจอยู่ที่บริเวณด้านหน้า สวนเบญจกิติ ถนนสุขุมวิท มีรถเบนซ์รุ่น CLS 200 สีขาว หมายเลขทะเบียน ศน-2244 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาภายในด่านตรวจ ตำรวจจึงขอตรวจค้น พบผู้โดยสารในรถ 3 คนประกอบด้วยนายพรพัฒน์ พีระบูล อายุ 39 ปี, นายเวโรจน์ ยงวัฒนานันท์ อายุ 38 ปี และนางสาวบุษญา ตั้งภากรณ์ อายุ 30 ปี บุตรสาว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และ ส.ส.นครสวรรค์หลายสมัย ที่ปัจจุบันตกเป็นผู้ต้องหาอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา
จากการตรวจค้นภายในรถ พบยาอีริมินไฟว์ 2 เม็ด ซึ่งเป็นของนายพรพัฒน์ พีระบูล ขณะที่นางสาวบุษญา รับว่าเพิ่งเสพยาอีมาเมื่อ 2 วันก่อน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เชิญตัวทั้งหมดมาที่ สน.ทองหล่อ ทั้งนี้จากการตรวจปัสสาวะเบื้องต้น พบว่าเป็นสีม่วง 2 ราย พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อกล่าวหานายพรพัฒน์ ครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ประเภท2 (อีริมินไฟว์) และแจ้งข้อหานายเวโรจน์ และนางสาวบุษญา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 เมทแอมเฟตามีน (ยาอี) โดยขณะนี้ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว
ล่าสุด ศาลมีคำสั่งส่งตัว น.ส.บุษญา ไปควบคุมเพื่อการตรวจพิสูจน์และแจ้งคณะกรรมการฟื้นฟู ซึ่งผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวต่อคณะกรรมการฟื้นฟูฯ แล้ว โดยคณะกรรมการฟื้นฟูมีคำสั่งอนุญาตให้ น.ส.บุษญา ประกันตัวออกไปได้
ข่าวที่ 4 : สาวโพสต์สภาพที่กักตัวจ.บุรีรัมย์สุดย่ำแย่ ลั่น! ไม่มีความพร้อม
มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยให้เห็นพื้นที่กักตัวผีน้อยที่ จ.บุรีรัมย์ ในการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด19 ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่า “ด่วน! ไม่มีความพร้อมเรื่องการกักตัวผีน้อย คุณภาพที่พักโดยรวมแย่มาก อากาศร้อน นอนเต็นท์ที่โรงจอดรถสนามกีฬาของคุณเนวิน ชิดชอบ
ผีน้อย 100 กว่าชีวิตที่มาถึงเมืองไทยวันนี้ ถูกกักตัวที่สนามกีฬาที่บุรีรัมย์ การเป็นอยู่สภาพแวดล้อมท่ามกลางอากาศร้อน แต่ต้องนอนเต็นท์ ไม่มีพัดลม ทุกคนทุลักทุเลพร้อมกระเป๋าคนละ 1-3 ใบ และห้องน้ำรวม นอนรวม ไม่มีใครมีรองเท้าแตะ ห้องน้ำระบายไม่ได้ เจิ่งนอง เต็นท์กางเรียงกัน และผีน้อยที่มาจากเมืองที่ไม่เสี่ยง มานอนร่วมกันกับคนที่มาจากเมืองที่เสี่ยง
เขาหวั่นๆ ว่าเขาอาจรอดมาจากที่โน่นแต่มีโอกาสติดโควิด-19 ที่นี่ หากคุณภาพ มาตรฐานในการดูแลเป็นแบบนี้ มาถึงสุวรรณภูมิ หลังผ่านขั้นตอนการตรวจ ถูกรวมขึ้นรถ นึกว่าจะได้ไปสัตหีบ แต่ถูกส่งมาบุรีรัมย์ ทุกคนเครียด มาถึงได้รับข้าวกล่องคนละกล่อง และไม่มีการชี้แจงใดๆ ร้อนมาก นอนไม่ได้ต้องมานั่งคุยกัน ช่วยรายงานผู้เกี่ยวข้องด่วนค่ะ แบบนี้เรียกได้ว่า เคลียร์คนออกจากสุวรรณภูมิ มาสถานที่กักตัว แต่ไม่มีความพร้อมใดๆ ในการดูแล”
ข่าวที่ 5 : ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ! เจลล้างมือเป็นเครื่องสำอางห้ามผลิต นำเข้า หรือ ขาย
เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ ที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ความว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖ (๑) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการเครื่องสำอาง ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทำความสะอาดมือโดยไม่ใช้น้ำ ซึ่งมีความเข้มข้นของเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล, ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือไอโซโพรพานอล หรือเอ็น -โพรพิลแอลกอฮอล์ หรือเอ็น -โพรพานอล เพียงสารเดียว หรือผสมรวมกันอยู่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๐ โดยปริมาตร เป็นเครื่องสำอาง ที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือ ขาย
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2563
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก คมชัดลึก, ข่าวช่องวัน, อีจัน และ องค์การเภสัชกรรม
