วันนี้ จาม.com (jarm.com) จะมานำเสนอกับบทสัมภาษณ์พิเศษ 5 เคล็ดลับเขียนบทโดยอัสการ์ ฟาร์ฮาดี ผู้กำกับ The Salesman
อะไรๆ ก็เป็นไอเดียได้
ผมไม่เคยเริ่มเขียนบทจากคาแรคเตอร์ จากธีม หรือจากพล็อต ผมเริ่มเขียนเพราะมีภาพบางภาพสปาร์คขึ้นมาในหัวและผมรู้สึกว่าผ มอยากเล่าเรื่องนั้นต่อ เช่น A Separation ผมพัฒนามาจากภาพของผู้ชายคนหนึ่ งกำลังอาบน้ำให้กับพ่อที่แก่มาก แล้ว หรืออย่าง The Salesman ผมอยากทำหนังที่เกี่ยวกับคนทำงา นสายละครเวที เพราะผมเรียนจบและเริ่มทำงานมาจ ากสายนั้น
อย่าเพิ่งกำหนดตัวละคร
เมื่อผมได้ภาพบางภาพที่มันกระตุ้ นความสนใจแล้ว ผมก็จะลองขยายให้มันเป็นเรื่อง ผมจะไม่กำหนดลักษณะของตัวละครก่ อน เพราะตัวละครจะเป็นอย่างไรก็ขึ้ นอยู่กับปฏิกิริยาที่เขามีต่อเห ตุการณ์ที่เขาต้องเจอในเรื่อง
ความแข็งแรงของแก่นเรื่อง
พอผมเขียนเรื่องไปได้สักประมาณ 10 หน้า ผมก็จะเริ่มต้นอ่านทวนอีกครั้ง แล้วก็ตีให้แตกว่า 10 หน้าที่ผ่านมา “บทหนังเรื่องนี้มันกำลังพูดเรื่องอะไร” แล้วผมก็จะได้ประเด็นหรือแก่ นเรื่องจากตรงนั้น ผมจะยึดมันเป็นแกนแล้วเขียนให้ มันสอดคล้องกันไปจนจบ
เรื่องราวอยู่รอบตัวเรา
หนังของผมมักว่าด้วยความสัมพันธ์ ผมคิดว่าผมเขียนในสิ่งที่มันธรร มดาที่สุด คือเรื่องคนสองคน ความสัมพันธ์ของคน มันเป็นปมที่เก่าและโบราณที่สุด แต่ก็ยังร่วมสมัย เพราะมนุษย์ก็คือมนุษย์ แค่เรื่องผัวๆเมียๆ มันก็กว้างเท่ากับมหาสมุทรพอให้ คุณหยิบมาใช้งานได้แล้ว ความสัมพันธ์ของมนุษย์มันมีความ เป็นไปได้หลากหลายมาก และสามารถพัฒนาไปเป็นเรื่องได้ม ากมาย เพียงคุณหัดสังเกตทุกสิ่งรอบตัว
ความสมจริงเป็นสิ่งสำคัญ
หนังหลายเรื่องของผมมีส่วนผสมขอ งหนังระทึกขวัญและหนังดราม่า เพราะมันเป็นรสนิยมส่วนตัวของผม ผู้กำกับชั้นครูที่ผมชื่นชอบหลา ยคนทำแบบนั้นเช่น อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก, บิลลี่ ไวลเดอร์ แต่ในหนังฮิทช์ค็อก เราตื่นเต้นก็จริงแต่ตัวละครก็ไ ม่ใช่คนที่พบเห็นได้ในชีวิตจริง ผมอยากใส่ความสมจริงเข้าไปในนั้ น ตัวละครและสถานการณ์จะต้องดู เหมือนว่ามันเกิดขึ้นได้จริงๆ รอบตัวเรา ผมชอบที่จะผสานดราม่าที่เข้มข้น เข้ากับความสามัญ ความสมจริงแบบสารคดี ผมจะไม่เขียนสตอรี่บอร์ดระหว่าง ถ่ายทำ เพราะผมอยากได้ความอิสระที่ดูสม จริงของเทคนิค
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก